รีวิว จดหมาย สายฝน ร่มวิเศษ
เรื่องราวความรักของคนสองยุคสมัย เริ่มจาก โบต้า (มิ้นท์ รัญชน์รวี) สาวที่แอบหลงรัก นน (จี๋ สุทธิรักษ์) ชายหนุ่มในมหาวิทยาลัยเดียวกัน แต่เธอไม่อาจบอกความในใจกับเขาได้เพราะเพื่อนสนิทของเธอ (เมโกะ ชนนิกานต์) ก็ชอบผู้ชายคนนี้เช่นกัน จนวันหนึ่งเธอได้ค้นพบกล่องลับของคุณแม่ที่บรรจุจดหมายรักของแม่เธอในสมัยยังสาว ระหว่าง
ดาหลา (มิ้นท์ รัญชน์รวี) และชายหนุ่มชื่อ ขจร (นิว ฐิติภูมิ) โบต้าจึงได้รับรู้เรื่องราวความรักครั้งแรกของแม่กับชายหนุ่มในความทรงจำผ่านจดหมายเหล่านั้นและเป็นแรงขับเคลื่อนให้เธอตัดสินใจเรื่องหัวใจของตัวเอง หนังไทยเก่าน่าดู
ย้อนไปสัก 20 ปีก่อนหนังเกาหลียังนับเป็นหนังนอกสายตาของแฟน ๆ ชาวไทย ต่างจากช่วงหลายปีมานี้ที่หนังเกาหลีกลายเป็นหนังมาตรฐานสูงทั้งความบันเทิงและรางวัลจนตอนนี้เรากำลังมีหนังเกาหลีเข้าชิงออสการ์แล้วจากเรื่อง Parasite ถ้าถามว่าจุดเปลี่ยนสำหรับหนังเกาหลีในบ้านเราอยู่ตรงไหนถ้าเอาที่รู้สึกคือหนังเรื่อง
My Sassy Girl ยัยตัวร้ายกับนายเจี๋ยมเจี้ยม ของผู้กำกับ ควักแจยอง ในปี 2001 นำทัพมาก่อนจนเกิดกระแสหนังเกาหลีโรแมนติกคอมเมดี้กับชื่อไทยอย่างตระกูลยัยตัวร้ายตามมาอีกโครมใหญ่ แต่ถ้าถามว่าหนังเกาหลีกลายเป็นตัวแทนความโรแมนติกเอาตอนไหนก็ต้องบอกว่าตั้งแต่ตอนที่หนัง The Classic คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
ในปี 2003 ผลงานเรื่องถัดมาของควักแจยองเข้าฉายในบ้านเรานั่นล่ะ ที่ตอกย้ำว่าความสำเร็จจากตอนยัยตัวร้ายฯ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่อย่างใด และน่าจะเป็นหนึ่งในหนังที่ติดรายชื่อหนังรักสุดโปรดของใครหลายคนด้วยเช่นกัน
และนี่น่าจะเป็นแรงกดดันเบา ๆ สำหรับหนังไทยที่ใช้คำว่ารีเมกก็ไม่ผิดนัก กับเรื่อง Classic Again จดหมาย สายฝน ร่มวิเศษ จากค่ายซีเจเมเจอร์ที่มักนำหนังเกาหลีดี ๆ มาทำฉบับไทยได้น่าชื่นชมหลายเรื่องแล้วทั้ง 20 ใหม่ ยูเทิร์นวัย หัวใจรีเทิร์น, Love Battle รัก 2 ปียินดีคืนเงิน และล่าสุดกับ ดิว ไปด้วยกันนะ ของ มะเดี่ยว-ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล
ที่น่าจะมีลุ้นรางวัลในไทยของปีนี้ โดยเรื่อง Classic Again นั้นได้มอบหมายให้ FuKDuK Film ของ คุณชายอดัม-หม่อมราชวงศ์เฉลิมชาตรี ยุคล สร้าง และส่งผู้กำกับ อาร์ม-ธัชพงศ์ ศุภศรี ที่เคยเป็นผู้ช่วยผู้กำกับในหนัง สารวัตรหมาบ้า ของคุณชายอดัมได้มาทำหน้าที่เต็มตัวครั้งแรก ทั้งยังได้นักแสดงดาวรุ่งหน้าใหม่ที่มีแฟนคลับแน่นอย่าง มิ้นท์-รัญชน์รวี เอื้อกูลวราวัตร ประกบคู่กับ นิว-ฐิติภูมิ เตชะอภัยคุณ ด้วย ดูหนังออนไลน์
รีวิว จดหมาย สายฝน ร่มวิเศษ
รีวิว จดหมาย สายฝน ร่มวิเศษ ต้องออกตัวก่อนว่าส่วนตัวไม่ได้ชอบฉบับเกาหลีนัก และค่อนข้างชอบฉบับไทยนี้มากกว่าเล็กน้อย โดยจุดเด่นของฉบับหนังไทยรอบนี้คือการคุมโปรดักชันที่ได้มาตรฐานสูง งานภาพ ฉาก พรอปส์ คอสตูม คือทำได้สวยงาม ยิ่งฉากการตกของเม็ดฝนนี่สวยทุกช็อต เชื่อว่าน่าจะทำการบ้านกับการถ่ายฝนตกมามากพอดูเลย ซึ่งโปรดักชันที่ดีก็เป็นสิ่งที่ซีเจเมเจอร์พิถีพิถันมาในทุกเรื่อง ดูหนังฟรี
โดยการตีความหัวใจของหนังยังคงตามเส้นเรื่องเดิมของฉบับเกาหลีไม่ผิดเพี้ยน ต่างแค่การปรับรายละเอียดฉากบางฉากให้ดูสอดรับเหตุผลที่กลมขึ้นมากขึ้น เช่นการผจญภัยบ้านผีสิงของคนแปลกหน้าสองคน ที่เร่งปฏิกิริยาความสนิทสนมทั้งยังก่อเกิดความรักขึ้นในใจจากทฤษฎีสะพานแขวนก็ทำให้เราเข้าใจยอมรับความผูกพันอันว่องไวของคู่พระนางในรุ่นพ่อแม่ที่ต้นฉบับให้เวลาไม่ดีพอด้วย จดหมาย สายฝน ร่มวิเศษ สปอย
สิ่งที่น่าชื่นชมคือหนังแก้ไขบทหรือฉากที่เชยและชวนประหลาดความรู้สึกต่าง ๆ ในหนังต้นฉบับอย่างฉากการตรวจอุจจาระ และมุกตลกเชย ๆ ทั้งหลายแหล่ออก ทำให้ตัวละครดูมีความโตพอจะมีรักที่ตราตรึงมากไปกว่าป๊อปเลิฟที่เราเชื่อได้ยากว่าเด็กบ้านนอกเล่นมูลวัวมูลควายจะไปประสาจริงจังอะไรกับความรักได้ขนาดนั้น ต้องยอมรับว่าหนังไทย
ตัดแต่งกิ่งใบที่ผิดรูปผิดฟอร์มของฉบับเดิมออกมาได้กลมกว่าอิ่มกว่า โดยยังเก็บรายละเอียดดี ๆ ที่ต้นฉบับทำไว้จัดเจนอย่างกิมมิกเรื่องหิ่งห้อย สายฝน จังหวะก้าวเท้า และอื่น ๆ ของหนังไว้ได้ดี โดยเฉพาะจุดสำคัญคือการเล่าคู่ขนานระหว่างรุ่นแม่และรุ่นลูกนั้นทำได้สอดรับกันดีขึ้น ทั้งยังทิ้งน้ำหนักให้เรื่องของทั้ง 2 รุ่นนั้นใกล้เคียงกัน ต่างจากฉบับเดิมที่เนื้อหาฝั่งแม่เด่นกว่าอย่างชัดเจน ดูหนังออนไลน์
การดำเนินเรื่อง
ผู้กำกับเล่าว่า หนังเรื่องนี้มีความยากตรงที่เป็นเรื่องราวย้อนยุคไปในสมัยรุ่นพ่อรุ่นแม่ ตั้งแต่ พ.ศ.2510 ซึ่งทีมงานก็ต้องทำให้ใกล้เคียงยุคนั้น ดังนั้นบรรยากาศและองค์ประกอบต่าง ๆ ในเรื่อง ทั้งเสื้อผ้า หน้า ผม จึงต้องศึกษาเพิ่มเติมมากพอสมควร ด้านตัวนักแสดงหลัก 5 คนนี้มาจากการแคสติ้งนักแสดง ซึ่งทีมงานทำงานกันหนักมากในการแคสติ้ง จนคัดเลือกออกมาเป็น 5 คนนี้ที่มีเสน่ห์และมีคาแรกเตอร์เป็นของตัวเอง และเหมาะสมกับบทมาก ดูหนังฟรี
สองนักแสดงนำ นิว-ฐิติภูมิ เตชะอภัยคุณ และ มิ้นท์-รัญชน์รวี เอื้อกูลวราวัตร บอกว่า ความน่าสนใจของภาพยนตร์เรื่องนี้คือ การนำบทภาพยนตร์เกาหลีมาดัดแปลงให้เข้ากับสภาพสังคมไทยซึ่งแตกต่างกับเกาหลีมาก โดยผู้กำกับเลือกให้เหตุการณ์เกิดขึ้นที่ภาคใต้เป็นหลัก คนดูจึงจะได้เห็นความสวยงามของสภาพแวดล้อมและวิถีชีวิตในภาคใต้ไปด้วย
ภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทอดเรื่องราวความรักของคนสองยุคสมัย เริ่มจาก “โบต้า” (รับบทโดยรัญชน์รวี เอื้อกูลวราวัตร) สาวมหาวิทยาลัยวัยใสที่แอบหลงรัก “นน” (สุทธิรักษ์ ทรัพย์วิจิตร) ชายหนุ่มหน้าตาดีในมหาวิทยาลัยเดียวกัน แต่เธอไม่อาจบอกความในใจครั้งนี้กับเขาได้ เพราะเพื่อนสนิทของเธอก็ชอบผู้ชายคนนี้เช่นกัน จนกระทั่งวันหนึ่งเธอได้
ค้นพบกล่องลับของคุณแม่ที่บรรจุจดหมายรักของแม่เธอในสมัยยังสาวที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกที่อัดแน่นไม่มีวันลืมเลือนระหว่างหญิงสาว “ดาหลา” (รับบทโดยรัญชน์รวี เอื้อกูลวราวัตร) และชายหนุ่มบ้านนอกชื่อ “ขจร” (รับบทโดยฐิติภูมิ เตชะอภัยคุณ) จดหมาย สายฝน ร่มวิเศษ เต็มเรื่อง
โบต้าเริ่มอ่านทุกตัวอักษรในจดหมายอย่างตั้งใจ และวันนั้นเองเธอจึงได้รับรู้เรื่องราวความรักครั้งแรกของแม่กับชายหนุ่มในความทรงจำ ทุกความรู้สึกถูกถ่ายทอดออกมาผ่านจดหมาย ความรักที่ต้องแอบซ่อนไว้ในอดีตของแม่เธอ ไม่ต่างจากเธอในปัจจุบันที่แอบชอบผู้ชายคนหนึ่งแถมยังเป็นคนเดียวกับที่เพื่อนสนิทชอบ
โบต้าจะตัดสินใจอย่างไรกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ ประวัติศาสตร์ความรักของเธอจะซ้ำรอยกับแม่เธอหรือไม่ …นั่นคือสิ่งที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ชวนคนดูลุ้นไปด้วยกัน และอีกอย่างที่น่าสนใจที่จะหาคำตอบคือ เพราะอะไรภาพยนตร์เรื่องนี้จึงได้คะแนนจากผู้ชมต่างกันมากขนาดนั้น รีวิวหนังไทย
จุดเด่น
แต่ข้อติงก็มีอยู่โดยเฉพาะในจุดที่หนังไม่สามารถสร้างความเป็นออริจินัลในฉบับของตัวเองได้มากพอ จุดนี้พอเปรียบเทียบกับหนังอย่าง ดิว ไปด้วยกันนะ ของค่ายเดียวกัน ที่ดัดแปลงจากหนังเกาหลีเรื่อง Bungee Jumping of Their Own จะเห็นว่า มะเดี่ยว-ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล เลือกเก็บหัวใจของหนังและพลิกแพลงสร้างหนังที่มีลายเซ็นของตัวเอง
ออกมาได้ชัดเจนกว่า และนั่นก็พอพูดได้เต็มปากว่าเราควรดูหนังทั้งสองเวอร์ชันที่ให้อารมณ์ ข้อคิด และความฉลาดทางปัญญาต่างกัน ซึ่งสำหรับ Classic Again เรียกว่าดีตรงใครชอบฉบับเดิมก็คือน่าจะชอบฉบับนี้ แต่ใครไม่เคยดูมาก่อนจะเลือกดูฉบับไหนก็ไม่ได้เสียอรรถรสอย่างมีนัยยะสำคัญอะไร สุดแล้วแต่ชื่นชอบในตัวนักแสดงของฝั่งไหนมากกว่ากันแค่นั้นเอง
รีวิว จดหมาย สายฝน ร่มวิเศษ บทสรุป
รีวิว จดหมาย สายฝน ร่มวิเศษ ข้อดีของหนังอีกอย่างจึงมาจากคู่นักแสดงนำ ที่เอาจริงก็รับบทหนักเหมือนกันโดยเฉพาะตัวนางเอกเพราะต้องถูกเปรียบเทียบกับ ซอนเยจิน ที่ได้รับรางวัลนักแสดงนำหญิงดาวรุ่งยอดเยี่ยมจากฉบับเดิมอย่างเลี่ยงไม่ได้ ก็ขอชื่นชม มิ้นท์-รัญชน์รวี เอื้อกูลวราวัตร ว่าเป็น ดาหลา หรือตัวเอกรุ่นแม่ และ โบต้า นางเอกในรุ่นลูกได้อย่างมีเสน่ห์
ด้วยคมหน้าที่สวยร่วมสมัยทั้งแบบไทยคลาสสิกและแบบปัจจุบัน การใช้สีหน้าและสายตาในการแสดงของเธอเป็นจุดที่น่าสนใจที่ทำให้การแสดงมีมิติมากขึ้น ทั้งในฉากที่ต้องอาศัยความน่ารักขี้เล่น ฉากที่กล้าหาญท้าทายสังคมผู้ชายเป็นใหญ่ และฉากดราม่าที่ต้อง สามารถใช้เสน่ห์ส่วนตัวพยุงหน้าที่ของตัวเองในหนังได้ผ่านฉลุย จดหมาย สายฝน ร่มวิเศษ บทสรุป
ส่วน นิว-ฐิติภูมิ เตชะอภัยคุณ เองก็ปรับบุคลิกให้เข้ากับ ขจร เด็กหนุ่มในปี พ.ศ. 2510 ที่โรแมนติกมีความขี้อายและสุภาพได้อย่างน่าเชื่อ ยิ่งพอประโยคเด็ดมันใจสาวออกมาจากนิวแล้วฉากนั้นยิ่งอ่อนระทวยผู้ชมเข้าไปอีก เชื่อว่าแม้จะดูฉบับเกาหลีมาแล้วถ้ามาเจอเคมีของนักแสดงคู่นี้ หลายคนก็มีเสียน้ำตาซ้ำทั้งที่รู้เนื้อเรื่องล่วงหน้าดีแล้วอย่างแน่นอน
เป็นคู่พระนางที่เห็นโอกาสเติบโตในเส้นทางการแสดงที่น่าจับตามองจริง ๆ และจะว่าไปถ้าจะบอกว่าจุดแตกต่างของทั้ง 2 เวอร์ชันนั้นก็คงต้องเป็นเรื่องนักแสดงนี่ล่ะที่ทำให้อารมณ์โดยรวมของหนังมีกลิ่นคนละแบบไปเลย
โดยรวมหนัง
ด้านเคมีความโรแมนติกที่ขาดไม่ได้อย่างเพลงประกอบหลักของหนังยังคงใช้ Me To You, You To Me เพลงเดิมจากหนังต้นฉบับ โดยนำมาแปลคำร้องภาษาไทยและเล่นโดยวง Mean จากค่าย LOVEiS+ ในชื่อไทยว่า หนึ่งความทรงจำ ก็ทำได้ถึงอารมณ์เดิมอย่างที่คนเคยดูคิดถึง จนพูดได้เต็มปากว่านี่คือการดัด The Classic ให้เป็นของไทยได้อิ่มอารมณ์ใกล้เคียงฉบับเกาหลีมากจริง ๆ จดหมาย สายฝน ร่มวิเศษ สนุกไหม
สรุป เป็นหนังที่สวย เล่าเรื่องดี มีกิมมิกพิถีพิถัน นักแสดงมีเสน่ห์น่าจับตามอง และน่าจะปลุกความโรแมนติกสะท้านห้วงเวลาวาเลนไทน์ได้ดีเยี่ยม ใครเคยรักฉบับเกาหลี แนะนำให้มาตกหลุมรักอีกครั้ง (Again) เลยล่ะ