รีวิว ตั๊ดสู้ฟุต
หนังเรื่องนี้ฉายเมื่อวันนั้น เป็นการพาทุกคนย้อนกลับไปให้ชวนคิดถึงผลงานหนังเรื่องดังที่เคยออกฉายที่โรงภาพยนตร์เมืองไทย วันนี้เป็นคราวของหนังตลกไทยที่ยังคงถูกยกเอาไว้อยู่บนหิ้ง กับหนังที่มาพร้อมกับความบันเทิงเต็มสตรีม การดัดแปลงเรื่องราวที่ผนวกเข้ากับประเด็นเพศทางเลือกในสังคมที่กำลังเปิดกว้างยิ่งขึ้น
หนังเรื่องที่ว่านั้นก็คือ “ตั๊ดสู้ฟุด” (Kung Fu Tootsie) หนังสไตล์พาโรดี้ (Parody) ชิ้นเอกจากค่ายจีทีเอช หนังไทยเก่าน่าดู
ตั๊ดสู้ฟุด มีเรื่องราวมาจากการปกครองของกลุ่มผู้ทรงอิทธิพล 3 กลุ่ม ประกอบด้วย แก๊งตรอกโรงเจ, แก๊งประตูผี และ แก๊งมังกรทอง หัวหน้าแก๊งไม่มีความสนามฉันท์กัน แย่งชิงความเป็นใหญ่และรอคอยให้การปะทะครั้งใหญ่ปะทุขึ้น แต่ในการฟัดกันครั้งล่าสุด อาเต๋า ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ หม่าหย่งให่ โดนศัตรูต่างแก๊งฟันจนแขนขาด ร้อนถึง
อาคุน พ่อบ้านแห่งบ้านสกุลหม่า ต้องออกตามหา อาเทียน น้องชายฝาแฝดของอาเต๋า ที่แม่หอบหนีไปตั้งแต่ยังแบเบาะให้กลับมาสืบทอดแก๊งมังกรทอง แต่เรื่องราวคงจะไม่วุ่นวาย…ถ้าอาเทียนไม่ได้มีเพศสภาพเป็น “ตุ๊ด” ดูหนัง
รีวิว ตั๊ดสู้ฟุต
หนังออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2550 กลายเป็นหนังตลกที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในเวลานั้น แม้ว่าจะยังคงเป็นอีกหนึ่งหนังไทยที่หยิบเอาเรื่องเพศที่สามมาจับให้กลายเป็นเหมือนตัวตลกชูเรื่อง ตามสไตล์นิยมของการทำหนังในยุคก่อน แต่หนังเรื่องนี้ก็โกยรายได้ไปมากกว่า 70 ล้านบาท ดูหนังใหม่ เมื่อครั้งที่ออกฉายเมื่อ 14 ปีที่แล้วเลยทีเดียว
หนังเป็นผลงานการกำกับของ “จตุรงค์ มกจ๊ก” ที่เจ้าตัวก็ยังรับหน้าที่แสดงนำในหนังเรื่องนี้ โดยมีนักแสดงร่วมซีนอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น “สิทธิชัย ผาบชมภู” (หรือ บอย AF3), “จิ๊บ ปกฉัตร”, “โก๊ะตี๋”, “จิ้ม ชวนชื่น”, “เกรียงศักดิ์ เหรียญทอง”, “นุ้ย เชิญยิ้ม” และ “แอนนา ชวนชื่น” เป็นต้น ตั๊ดสู้ฟุต สปอย
ประเภท: แอคชั่น / ตลก
นำแสดงโดย: สิทธิชัย ผาบชมภู, จตุรงค์ มกจ๊ก, ปกฉัตร เทียมชัย
กำกับโดย: จตุรงค์ มกจ๊ก
ความยาว: 90 นาที
เข้าฉายครั้งแรก: 19 กรกฎาคม 2550 (กำหนดฉายในประเทศไทย)
การดำเนินเรื่อง
ผมคิดว่า หลายๆคนคงไปดูกันแล้วกับเรื่อง ตั๊ดสู้ฟุต การต่อสู้จำเป็นของตุ๊ดหนึ่งคน ที่สู้เพื่อปกป้องศักดิ์ศรี อันทรงเกียรติของ แก๊งของตัวเองที่กำลังสู่จุดต่ำสุดของรุ่น พ่อป่วย พี่ชายที่จะเป็นผู้นำตระกูลดันพิการ ทำให้จำเป็นที่ต้องสู้เพื่อปกป้องกับการคุกคามของแก๊งต่างๆ เพื่อที่จะแย่งชิงความเป็นใหญ่ในด้านเชิงธุรกิจ ในภาพรวมเป็น ดูหนังฟรี
ภาพยนตร์ที่แผงมุขที่ทำให้ขำออกมาได้แบบไม่ติดใจ หลายมุขที่ทุกคนต้องรู้อยู่แล้วออกมาแนวไหน แต่ในตัวนักแสดงทำให้เกิดอารมณ์คล้อยตาม ทำให้มุขที่ไม่น่าขำแด่ทำให้ขำขึ้นมา หรือไม่เพราะว่าผมเครียดกับสิ่งรอบตัวเกินไปหรือเปล่าอันนี้ก็มิทราบได้..หุหุ.. พูดถึงเนื้อเรื่องคร่าวๆกันไปแล้ว ผมว่าฉากการถ่ายทำนี่แหละครับสำคัญที่ทำให้เรา
นึกถึงสภาพของความเป็นอยู่แบบคนจีนในสมัยก่อนได้เลย ไม่ว่าจะเป็นโรงน้ำชา บ้านเรือน และกระทั่งบ่อนไพ่ องค์ประกอบพวกนี้หาดูได้ยากแล้วในปัจจุบัน ซึ่งผู้กำกับมองเห็นจุดเด่นในการดึงองค์ประกอบออกมาใช้ได้อย่างลงตัว และชุดนักแสดงรวมไปถึงองค์ประกอบการดำเนินเรื่องตัวละคร เหมือนจิ๊กโก๋ สมัยก่อนจริงๆ ผมชอบเรื่องการแต่งตัวนะ
อันนี้ถือว่าเป็นคนจีนแบ่งแย่งความยิ่งใหญ่ในไทย แหม อย่างกับแย่งที่ทำกินคนไทยในเยาวราชสมัยก่อนซะยังงั้น แสง สี เสียง เอฟเฟค การถ่ายทำภาพยนต์เรื่องนี้ ไม่หวือหวา เลยใช้อุปกรณ์สมัยโบราณกันจริงๆ มีดมีด ยังกับ ยากูซ่า ไล่ตีกัน มีปืนก็เป็นปืนสมัย คู่กรรม นู่น..!! โอเคเลยนะ เพราะว่าสมกับเนื้อเรื่องที่ดำเนินมา มีใช้มุขอุปกรณ์ที่ขำๆในเรื่อง เช่นใช้ตัวนางเอกเป็นอาวุธ อุ้มไปได้เป็น ไงต้องดูกันเอง ตั๊ดสู้ฟุต เนื้อเรื่อง
พล็อตเรื่อง
แต่ข้อเสียเรื่องนี้ก็มีเสียงวิพากษ์ จากสื่ออื่นๆเยอะเช่นกัน ไม่ว่า เป็นภาษาการพูดการจา ซึ่งพูดคำด่าที่หยาบคายแต่ตลก ซึ่งพวกนี้ ถ้าเป็นอย่างพวกเราๆกันก็ไม่เท่าไหร่ เพราะรู้อะไรเป็นอะไรอยู่แล้ว แต่ถ้าผู้ชมที่พาน้องๆที่ยังไม่รู้เรื่องมากมายนัก คำบางคำอาจจะทำให้เด็กจดจำและใช้พูดเป็นที่ติดปากได้ ผู้ปกครองควรให้ความชี้แนะกับเรื่องราว
หรือ ฉากบางฉาก หรือการสนธนากันด้วย ซึ่งหนังไทยส่วนใหญ่ ทำออกมา ต้องมี ตุ๊ดซี่ ถึงจะขายดีและต้องตลกและมีคำหยาบคาย แต่ว่า การที่ภาพยนตร์ไทยเริ่มใช้ตุ๊ดมากขึ้นบางที ก็อาจเป็นการสร้างพฤติกรรมให้ลูกหลานผิดๆได้ คนส่วนใหญ่อาจมองเป็นปัญหาน้อยนิด เห็ยแค่หนังล่ะว๊า..ไม่ได้คิดอะไร แต่ในอีกกลุ่มนึงที่ยังไม่รู้เรื่องอาจจดจำผิดๆก็ได้ เดี๋ยวนี้ ผมว่า กระเทยมันเยอะชะมัด อาจจะเป็นหนังที่เราดู ละครที่เราชม มีการใช้ภาพลักษณ์ของแต๋วๆ มากไปก็ได้ ตั๊ดสู้ฟุต สปอยหนัง
รีวิว ตั๊ดสู้ฟุต บทสรุป
เป็นภาพยนตร์ที่ ผู้กำกับที่ทำงานด้านวงการบันเทิงด้านตลกอยู่แล้ว มุขนั่นที่ใช้ผมคิดว่า ถ้าพวกคุณไปคาเฟ่ สมัยก่อนก็คงเคยได้ดูบาง ร้านหมูกะทะบางร้านยังมีการจ้างตลกมาให้ดูมุขมันๆก็มี และการพูดจาต้องมีภาษาหยาบคายอยู่แล้ว ตรงนี้ผมไม่ได้ห่วงอะไรอยู่แล้ว ห่วงแต่น้องๆที่ยังเล็กๆอยู่ดูแล้วก็ควรมีการชี้แนะจากผู้ปกครองด้วยน่อ และ
ส่วน แฟนคลับ บอย AF3 ทุกๆคน ผมต้องเจาะจงหน่อยแหละ จะโกรธเกลียดเบียดเสียดการวิจารณ์ ยังไงผมก็เถอะ การที่เค้าแสดงยังแข็ง และ เกร็งเกินไป ถึงจะไปอยู่ในอคาเดมี่ การฝึกซ้อมบทตุ๊ดแต๋ว จาก ม้าอรนภา และ ป้าโหน่ง มาแล้ว ยังไงก็ไม่เนียนมาก แต่เป็นเพราะบทการพูดที่เขียนให้และ ฉากมากกว่ารวมทั้งเพื่อนร่วมการแสดงผลักดัน
ทำให้เด่นขึ้น ไม่ว่ายังไง ภาพยนตร์ล้วนให้ความบันเทิง แต่ความบันเทิงบางครั้งบางทีที่มากไปกันก็ไม่เหมาะ รวมแล้วภาพยนตร์เรื่อง นี้เป็นไปได้ น่าจะเป็น ตั๊ดชุดชุด มากกว่า ตั๊ดสู้ฟุต เหอะพี่น้อง..!! เอาไป 3 ดาวโลด..!! ” บทวิจารณ์ภาพยนตร์เป็นเพียงความเห็นส่วนบุคคล กรุณาตัดสินจากการชมภาพยนตร์ด้วยตัวเอง ” ตั๊ดสู้ฟุต บทสรุป
โดยรวมหนัง
เป็นภาพยนตร์ไทยแนวคอมเมดี้ ผลงานการกำกับของ จตุรงค์ พลบูรณ์ ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้นักแสดงมากความสามารถมากมายมาร่วมแสดงไม่ว่าจะเป็นสิทธิชัย ผาบชมภู ที่มารับบทเป็น อาเทียน/อาเต๋า พี่ชายน้องชายฝาแฝดเป็นลูกของ หม่าหย่งไห่ กับ คุณนายหม่า อาเต๋า เขาเกิดมาเป็นผู้ชายแต่โดนศัตรูฟันแขนขาดเมื่อรักษาแล้วอาเต๋าก็ได้มาแต่งงานกลับเพ่ย เพ่ย ส่วน อาเทียน เขาก็เกิดมาเป็นผู้ชายแต่ดันเป็นตุ๊ด และไม่ใช่ตุ๊ดธรรมดาเพราะเขามีวิชาเพลงมวยรารี
โดยหลังจากนั้นอาเทียนกลายเป็นเจ้าพ่อและใช้ชื่อแก็งใหม่ว่า แก็งมังกรตุ๊ดคนต่อมาคือปกฉัตร เทียมชัย มารับบทเป็น เพ่ยเพ่ย คนต่อมาคือจาตุรงค์ มกจ๊ก มารับบทเป็น อาเฟย คนต่อมาคือจิ้ม ชวนชื่น มารับบทเป็น หม่าหยงไห่ คนต่อมาคือเกรียงศักดิ์ เหรียญทอง มารับบทเป็น เสิ่นปอ คนต่อมาคือนุ้ย เชิญยิ้ม มารับบทเป็น อาคุณ คนต่อมาคือฐานิสา อึ้งสกุลรัตน์ มารับบทเป็น คุณนายหม่า คนต่อมาคือกันติชา เอี่ยมสำอางค์ มารับบทเป็น เจ๊สาม คนต่อมาคือแดนนี่ ศรีภิญโญ มารับบทเป็น นกรู้ และคนสุดท้ายที่จะมาแนะนำในวันนี้คือองอาจ เจียมเจริญพรกุล มารับบทเป็น อาเจ๊อะ ตั๊ดสู้ฟุต สนุกไหม
เปิดเรื่องราวมาที่เกาะฮ่องกง ในยุคที่มาเฟียเป็นใหญ่ ในยุคนั้นผู้คนแบ่งเป็นฝักเป็นฝ่าย มีมาเฟียอยู่ 3 กลุ่มใหญ่ๆคือ แก๊งตรอกโรงเจ คุมบ่อนไพ่นกกระจอก กำถั่ว และเต๋าปั่น มี อาเฟย หัวหน้าแก๊ง แก๊งประตูผี คุมกิจการร้านเหล้าและหอนางโลมทั้งหมด มี เสิ่นปอ เป็นหัวหน้าแก๊ง แก๊งมังกรทอง คุมตลาดทั้งหมด มี หม่าหย่งให่ เป็นหัวหน้าแก๊ง
โดยอาเต๋า ลูกชายของ หม่าหย่งให่ เขาโดนศัตรูต่างแก๊งฟันจนแขนขาด จนอาคุน พ่อบ้านบ้านสกุลหม่า ต้องออกตามหา อาเทียน น้องชายฝาแฝดของอาเต๋ามาแทนที่ แต่อาเทียนดันเป็นตุ๊ด แต่ตั้งเด็กๆอาเทียนกับแม่ต้องออกมาลำบากเพียงลำพังเพราะหม่าหย่งให่รับไม่ได้ที่ลูกชายคนเล็กเป็นตุ๊ด สองแม่ลูกต้องเลี้ยงชีพด้วยการเปิดคณะเชิดสิงโต
คุณนายหม่า จึงได้ถ่ายทอดเคล็ดวิชา “มวยนารี” ให้แก่อาเทียนเอาไว้ป้องกันตัวเอง อาเทียนจึงต้องจำใจยอมสวมรอยเป็นอาเต๋าเพื่อรอวันขึ้นรับตำแหน่งหัวหน้าแก๊งมังกรทอง เท่านี้ไม่พอเขายังต้องมาทำใจยอมรับรักกับชะนีสาวอย่าง เพ่ย เพ่ย ลูกสาวเสิ่นปอ แก๊งของอาเต๋าอีกด้วย สุดท้ายแล้วอาเต๋าตุ๊ดคนนี้ จะสามารถขึ้นรับตำแหน่งหัวหน้าแก๊งมังกรทองได้ไหม ต้องติดตามใน ภาพยนตร์เรื่อง ตั๊ดสู้ฟุด รีวิวหนังไทย
