รีวิว ตุ๊ดซี่ส์ แอนด์ เดอะเฟค

รีวิว ตุ๊ดซี่ส์ แอนด์ เดอะเฟค

กอล์ฟ (ธงชัย ทองกันทม) มนุษย์ตุ๊ดไซส์ยักษ์งานเข้าเมื่อเขาบังเอิญทำให้ซุปตาร์ตัวแม่อย่าง เคที่ (อารยา เอ ฮาร์เก็ต) บาดเจ็บสาหัสอาการโคม่าจนไม่สามารถทำงานต่อได้ และเมื่อคำนวณเบ็ดเสร็จแล้วค่าเสียหายทั้งหมดมีมูลค่าถึง 50 ล้านบาท เมื่อความซวยมาเยือนชาวแก๊งก็ต้องกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง เพื่อบกอบกู้วิกฤตครั้งนี้ ขณะที่ความหวังริบหรี่ลงทุกที ๆ ก็เหมือนกับสวรรค์เห็นใจดลบันดาลให้กอล์ฟมาเจอกับ เจ๊น้ำ แม่ค้าปากแซ่บที่ขึ้นเขียงศัลยกรรมจนหน้าตาเหมือนกับซุปตาร์ดังจนแยกไม่ออก แต่ฝันร้ายของแก๊งวสาว ๆ ก็คือเจ๊น้ำดันมีนิสัยต่างกับเคที่ราวฟ้ากับเหว เพราะเธอทั้งปากจัด โมโหร้าย และมีกิริยาห่ามเกินบรรยาย งานนี้พวกเขาต้องร่วมมือร่วมใจกันปฏิบัติภารกิจเปลี่ยนแม่ค้าปากจัดเป็นซุปตาร์ระดับประเทศให้ได้ บอกเลยว่างานนี้มีปาดเหงื่อ

หนังภาคต่อจากซีรีส์ ‘ไดอารี่ตุ๊ดชีส์’ ที่ถูกใจสาว ๆ ทั่วทั้งประเทศด้วยการเดินเรื่องของแก๊งร่างชายใจหญิงและหญิงแท้สุดเปิ่น หนังภาคต่อเรื่องนี้บอกเลยว่าฮากรามค้างไม่ต่างจากเวอร์ชันซีรีส์เลยค่ะเพื่อน ๆ นักแสดงหนักทั้ง 4 คนยังท็อปฟอร์มไม่หยุดแถมในเรื่องขนมุกฮา ๆ และนักแสดงรับเชิญมาอย่างคับคั่ง ตัวหนังปูเรื่องย้อนกลับไปเล่าเรื่องราวในเวอร์ชันซีรีส์แบบสั้น ๆ กระชับฉับไวเพื่อทำให้คนที่ยังไม่เคยดูเข้าใจหนังมากขึ้น จากนั้นนักแสดงแต่ละคนก็มาสาดความฮาใส่กันแบบไม่ห่วงสวยห่วงหล่อ ใครที่กำลังเครียด ๆ นี่หัวเราะจนลืมเครียดแน่นอนค่ะ

ประเภท คอมเมดี้
เรทผู้รับชม 16+
ผู้กำกับ กิตติภัค ทองอ่วม
นักแสดงนำ เผ่าเพชร เจริญสุข, ธงชัย ทองกันทม, รัฐนันท์ จรรยาจิรวงศ์, ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ และอารยา เอ ฮาร์เก็ต
ความยาวหนัง 108 นาที
ปีที่ออกอากาศ 2562

เว็บดูหนัง

งานเข้าเหล่าแก๊งตุ๊ดทันทีเมื่อ เคที่ (อารยา เอ ฮาร์เก็ตต์) ซุปตาร์เบอร์ต้นของเมืองไทยดันประสบอุบัติเหตุจากเหงื่อเจ้ากรรมของ อีกอล์ฟ (ปิงปอง ธงชัย) จนโคม่า งานนี้นางเลยแท็กทีม 2 เพื่อนตุ๊ดทั้ง กัส (เพชร เผ่าเพชร) ที่ต้องตัดสินใจเลือกระหว่าง วิน (กรรณ สวัสดิวัตน์) แฟนใหม่แสนดี กับ ท็อป (เจ กฤษณภูมิ)

แฟนเก่าชวนใจสั่น, คิม (เต๋อ รัฐนันท์) ศจีสาวตกสวรรค์แถมจมูกพังกลางอากาศ และอีก 1 เพื่อนดี้อย่าง แน็ตตี้ (พีค ภัทรศยา) ที่แม่ขู่จะยกมรดกให้แมวหากนางไม่ยอมมีลูก ทั้งสี่ต้องร่วมภารกิจแปลง เจ๊น้ำ (อารยา เอ ฮาร์เก็ต) แม่ค้ากะหรี่ที่มีเพียงใบหน้าที่ไปศัลย์ ฯ จนเหมือนคุณเคที่ มา “เฟค” เป็นซุปตาร์เบอร์หนึ่งของเมืองไทยในงานถ่ายโฆษณาชิ้นสำคัญก่อนจะถูกฟ้องจนหมดตัว

นับจากเรื่องราวสนุก ๆ ของกะเทยชื่อ ช่า บนเพจเฟซบุ๊ค บันทึกของตุ๊ด ได้โลดแล่นบนหน้าไทม์ไลน์สร้างความสนุก เสียงหัวเราะ ให้ข้อคิด และบ่อยครั้งก็มีคราบน้ำตามาเป็นของแถมผู้อ่าน จนกระแสความนิยมได้ไปเตะตาทาง GDH 559 แล้วมอบหน้าที่กุมบังเหียนให้กับ เติ้ล กิตติภัค ทองอ่วม

อดีตแคสติงไดเรกเตอร์ตัวกลั่นมาเป็นผู้กำกับแบบเปิดซิงครั้งแรกในชีวิต แล้วหลังจากซีรีส์ออนแอร์ และ สตรีมมิงออนไลน์ จนได้รับความนิยมไปจนครบ 2 ซีซัน ปีนี้ก็ได้ฤกษ์ที่เหล่าแก๊งตุ๊ดซี่ส์จะได้มาโลดแล่นบนจอใหญ่ และในเมื่อสูตรของซีรีส์มันทำแล้ว “สำเร็จ” ก็เลยยกโครงสร้างการเล่าเรื่องของซีรีส์มาใช้เสียเลย

แต่เพื่อให้เหมาะกับหนังความยาว 108 นาทีของหนังแทนที่เรื่องราวจะเจาะไปที่แต่ละตัวละครแบบในซีรีส์แต่ละตอน หนังเลยปรับโครงสร้างให้มีพลอตหลักเป็นภารกิจกู้หน้าความ “พังพิ” ที่กอล์ฟและคิมก่อไว้กับซุปตาร์อย่าง แคร์ธรี่… (ออกเสียงเลียนแบบตัวละครป๋อมแป๋ม) แล้วเสริมพลอตรองด้วยประเด็นของกัส

อย่างประเด็นที่นางเกลียดเด็กเข้าไส้ แต่วินดันต้องเอาหลานกำพร้ามาเลี้ยงในบ้านเป็นพลอตรองที่เกือบสำคัญเท่าพลอตหลัก แล้วมีพลอตย่อยอย่างเรื่องของแนตตี้ที่น้อยใจแม่ไม่ยอมเซ็นยกมรดกแถมยังไปเอาแมวมาเลี้ยงเป็นลูกแถมยังบังคับให้เธอมีลูกให้ได้อีกพลอตนึง

ซึ่งสิ่งที่กิตติภัคจะต้องยอมแลกคือความสมเหตุสมผลของเรื่องราวแล้วไปเน้นเสิร์ฟความสนุกจากมุกแซ่บ ๆ ที่แฟนซีรีส์ต่างคุ้นเคย ซึ่งผลลัพธ์นับว่าน่าพึงพอใจทีเดียว

อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าตัวหนังก็คือร่างอวตารของซีรีส์ ดังนั้น “อรรถรส” แบบคุ้นตาคุ้นลิ้นก็ยังถูกนำมาใช้ตั้งแต่ซีนเปิดเรื่องที่ยังเน้นเรื่องขี้ของแนตตี้เพื่อกระตุ้นให้แฟนซีรีส์รำลึกได้ว่านางเคยขี้ในรถนะ มีฉากคิมที่ดั้งหักเพื่อเน้นย้ำพฤติกรรมติดศัลยกรรมของนาง แถมลงมาจากเครื่องยังให้กัสไปเจอกับท็อปผัวเก่าของนางอี๊ก

ส่วนกอล์ฟมีแค่เกริ่นตอนเปิดเรื่องว่า พี่วิศิษย์ ผัวขิงแก่แต่แซ่บของนางบวชพระจนนางอกหักเพียงเพื่อเชื่อมเรื่องราวมาสู้ฉบับหนังใหญ่เฉย ๆ ซึ่งข้อดีของการเปิดเรื่องด้วยคาแรกเตอร์ที่คนดูคุ้นเคย พร้อมเสียงบรรยายของช่า ก็ยังเป็นประโยชน์สำหรับคนที่ไม่ใช่แฟนซีรีส์ที่สามารถจดจำได้เลยว่า

ตัวละครนี้เห็นหน้าปุ๊บรู้เลยว่าเป็นคนยังไงโดยไม่ต้องทำการบ้านดูซีรีส์ไปก่อนแต่อย่างใด แต่หากคิดว่า งี้..เราก็ดูซีรีส์ซ้ำไปอีกรอบไม่ดีกว่าเหรอ ? ก็อยากจะบอกว่า กิตติภัค ฉลาดพอและเข้าใจสื่ออย่างภาพยนตร์มากพอที่จะเลือกหยิบสิ่งที่ใช่มานำเสนอและที่สำคัญคือการเพิ่มตัวละครของ ชมภู่ อารยา

ก็เป็นทางเลือกอันชาญฉลาดที่จะจับนางเอกระดับตัวแม่ของเหล่ากะเทยไทยมาเล่นบทที่แตกต่างจากที่เคยแสดงมาเสริมด้วยเมกอัปเอฟเฟกต์ทั้งเขี้ยวและหูปลอม พ่วงด้วยการฝึกฝนเป็นเจ๊น้ำเพื่อรับบทตัวเฟค ก็ช่วยพิสูจน์ฝีมือทางการแสดงของเธอไปอีกขั้น แม้ดูเหมือนว่าโดยภาพรวมแล้วมันจะทำให้หนังเรื่องนี้มีศูนย์กลางที่เจ๊น้ำมากกว่าเรื่องเล่าของ

เหล่าตุ๊ดซี่ส์เหมือนในซีรีส์ก็เถอะ แต่หนังก็ยังมีธีม “เฟค” ที่นอกจากการต้องทำตามภารกิจหาคนหน้าเหมือนมาเฟคแล้ว ชีวิตแต่ละคนยังต้องดีลกับความเฟคที่ต่างกันไป ทั้งเฟครักเด็กเพื่อผัว, เฟคอยากมีลูกเพื่อมรดก, หรืออย่างจมูกใหม่ของคิมก็ทำให้เห็นว่านางก็ติดความเฟคไม่แพ้คนอื่น

แม้แต่กอล์ฟเองก็เคยเสพย์ติดความเฟคในความสัมพันธ์กับพี่วิศิษย์ที่ท้ายสุดก็มีอันต้องแยกจากกัน อันช่วยเกาะเกี่ยวยึดโยงเรื่องราวให้เป็นเนื้อเดียวกัน และยังเอื้อให้เกิดมุกใหม่ ๆ บนจอใหญ่สร้างความครื้นเครงได้แบบเป๊ะปังกะละมังหม้อเลยล่ะเธอว์…

จากสองย่อหน้าที่ผ่านมาก็คงพอจะบอกได้แล้วว่าเกณฑ์ที่เราจะให้คะแนนหาใช่เรื่องความสมเหตุสมผลของเนื้อเรื่องหรือข้อคิดอะไรที่จะได้จากหนัง แต่เป็นบรรดามุกที่หนังเอามาเสิร์ฟเสียมากกว่า ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าลำพังแค่คาแรกเตอร์ของ กัส คิม กอล์ฟ และแน็ตตี้ จากซีรีส์ก็เป็นส่วนผสมที่ลงตัวและคนดูก็รักพวกเขาจนพร้อมเอาใจช่วยจากซีรีส์มา 2

ซีซันแล้วแต่สำหรับคนที่ไม่ใช่แฟนจากซีรีส์ก็ยังจะได้ฮาจากความจัดจ้านของคาแรกเตอร์ที่ชัดและมีสีสันอยู่ดี อย่างกัส ก็จะเป็นเสียงเล่าเรื่องหลักและพาร์ตโรแมนติกที่นางจะต้องเลือกระหว่างผู้ 2 คนทั้งผัวเก่าและผัวใหม่ ซึ่งการแสดงของ เพชร เผ่าเพชร เจริญสุข ยังคงให้น้ำหนักที่พอดีระหว่างคอเมดีกับดราม่าได้ดี อาจไม่มีซีนฮามากนักแต่ช่วยให้เรื่องราวมีน้ำหนักจากข้อคิดความสัมพันธ์ที่เติบโตขึ้นและความรับผิดชอบในอนาคตที่ผูกมากับความสัมพันธ์ที่นางเลือกเอง

ส่วน เต๋อ รัฐนันท์ จรรยาจิรวงศ์ หนุ่มหล่อที่มาแอ็บตุ๊ดจนได้ดีไม่แพ้เพชร ก็ทำให้ตัวละครคิม ศจีสาว (สจ๊วร์ตที่ออกสาว) เสพย์ติดศัลยกรรมมีชีวิตขึ้นมา และบุญบาปของนางหรือทีมงานก็ไม่ทราบ นางดันไปทำจมูกใหม่มาพอดี ซึ่งทีมเขียนบทก็ไม่รอช้าเล่นกับมุกซีลีโคนทะลุ จมูกหัก กันเต็มที่ เพื่อส่งให้ตัวละครคิมได้มีโอกาสร้องวี๊ดว้ายกระตู้วู้กันให้เต็มที่

ด้าน พีค ภัทรศยา เครือสุวรรณ ที่แม้ในหนังใหญ่จะไม่มีโอกาสสร้างความฮาจากรสนิยมชอบผัวทอมหน้าตาประหลาด ๆ แต่คราวนี้ความเฟคที่ตัวละครของนางต้องเผชิญในเรื่องก็ให้โอกาสนางได้แสดงอาการหื่น แล้วหื่นกับใครไม่หื่นดันหื่นกับเพื่อนตัวเอง…พังพิ! สิคะ จนฉากห้องซาวน่ากลายเป็นอีกหนึ่งฉากฮาที่พลาดไม่ได้

รีวิว ตุ๊ดซี่ส์ แอนด์ เดอะเฟค

และที่ไม่พูดถึงไม่ได้แถมเป็นนักแสดงที่ไม่อาจแทนที่ได้เลยคือ ปิงปอง ธงชัย ทองกันทม จากแม่ค้าเสื้อผ้าที่ดังในโลกออนไลน์ นางได้ทำให้ตัวละครกอล์ฟกลายเป็นที่รักของคนดูได้จริง ๆ แถมยังมีโมเมนต์ดี ๆ หลายฉากโดยเฉพาะฉากที่นางได้รับคำชมเรื่องการแต่งหน้าจากแม่ แคร์ธรี่…. ทั้งสายตาและสีหน้าได้แสดงออกชัดเจนว่านางปลื้มปริ่มมาก แถมตัวละคร กอล์ฟ ของนางยังเป็นคนเดียวที่กล้าเผชิญหน้ากับความจริง แม้ความจริงที่ว่าจะแลกมาด้วยการต้องเฟคเพื่อเอาตัวรอดก็ตาม

นอกจากนี้หนังยังอุดมไปด้วยนักแสดงรับเชิญมากมายทั้ง คุณแพร วทานิกา ที่มาในบทดีไซน์เนอร์กับมุกทิ่มเข็มเก็บชายกระโปรงที่ฮาหลายดอกอยู่, การปรากฎตัวของเชฟป้อมในฐานะฮีโรของตัวละครเจ๊น้ำ, เผือก พงศธร จงวิลาส ในบทผู้กำกับที่แทบจะลอกบุคลิกของ “ผู้กำกับโฆษณาระดับโลก” มาล้อเลียน หรือจะเป็น ไอซ์ พาริส อินทรโกมาลย์สุต ที่เพิ่งดังจากเพลง รักติดไซเรน ก็มาโชว์ลีลาโยกบั้นเอวให้สาว ๆ ได้กลืนน้ำลายกันเอื๊อก ๆ แน่นวล..   เอาล่ะ พารากราฟ หรือ ย่อหน้าต่อไปขออุทิศให้ อารยา เอ ฮาร์เก็ต ตัวแม่และสุดยอดนักแสดงที่ทำคนดูกรามค้างแบบไม่แคร์พรมแดงเมืองกาญจน์ เอ้ย! เมืองคานส์ ที่นางไปเดินสวย ๆ มาแม้แต่น้อย

ดูหนัง

รีวิว ตุ๊ดซี่ส์ แอนด์ เดอะเฟค

ความรู้สึกหลังดู

อารยา เอ ฮาร์เก็ต ไม่ใช่หน้าใหม่สำหรับวงการภาพยนตร์แต่อย่างใดหลังเริ่มรับงานหนังใน สาระแนสิบล้อในปี 2553 แม่ชมก็เริ่มรับงานหนังเรื่องต่อมาที่พิสูจน์ว่าเธอก็เล่นตลกโปกฮาได้ทั้ง คุณนายโฮ ปี 2555 และ จำเนียร วิเวียน โตมร ในปี 2559 แต่ก็ต้องยอมรับว่าคาแรกเตอร์จากหนังทั้ง 3 เรื่องก็ยังวนเวียนกับบทนางเอก ๆ มีต๊อง ๆ บ้างแต่ยังไม่สุด

เท่าไหร่ ดังนั้นสิ่งที่ ไตเติ้ล กิตติภัค ต้องปรับเลยคือการใส่ความเกรียน ความกักขฬะ ที่ไม่เคยเฉียดกราดเจ้าแม่แฟชันนิสตาอย่างชมภู่ให้กลายเป็นเจ๊น้ำให้ได้ ซึ่งผลลัพธ์คือยิ่งกว่าการจับ “ชมพู่มาเล่นตลก” เพราะคราวนี้ตัวบทเองยังเอื้อให้เธอได้แสดงเป็นชมพู่ปลอมในหลายบุคลิกทั้ง พนักงานเก็บเงินค่าผ่านทาง เด็กอ่างเบอร์ตอง (ส่วนความฮา เราขอ

เก็บไว้ให้ไปเซอร์ไพร์สกันในโรงนะ) แต่กับ เจ๊น้ำ คาแรกเตอร์ที่เธอต้องสวมตลอด 90% ของหนังมากกว่าที่เธอต้องแสดงให้คนดูเชื่อในความเป็นแม่ค้าแรด ๆ พูดคำด่าคำเหมือนวิถีชีวิตเป็นแบบนั้นจริง ๆ และยังต้องสลับโหมดมาดราม่าเพื่อทำให้เห็นว่า ชีวิตนี้เธอต้องการออกรายการเชฟป้อมจริง ๆ และในโมเมนต์ที่เธอเจอฮีโรในการทำอาหาร

สายตาและท่าทางของอารยาคือเหนือคำบรรยายจริง ๆ แต่เหนืออื่นใดฉากแดนซ์ของนางในเพลงหมอลำร่วมกับกอล์ฟและคิมคือนิพพานของจริงค่ะ ทั้งปั๊วะ ทั้งปัง หน้าเดธ แต่บอดี้นี่พลิ้วเชียยยย. ฮ่าาาาาาาา.

เว็บหนัง

รีวิว ตุ๊ดซี่ส์ แอนด์ เดอะเฟค

ดูเหมือนว่าสำหรับหนังแล้ว หากว่าตัวละครที่ดูมีภาษีทางชนชั้นมีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงก็ดูจะถูกบอกเล่าด้วยสายตาอีกแบบหนึ่ง เช่น การที่คิม กัส หรือแม้แต่ผู้กำกับหนังโฆษณาที่ทำตัวเถื่อนถ่อยสบถคำหยาบแทบทั้งเรื่อง หนังก็ไม่ได้มองมันอย่างเป็นปัญหาเท่ากับการที่เจ๊น้ำเคาะกระทะไปพลางลั่นคำหยาบไปพลาง ก็ใช่ว่ามันคือหนังตลกที่พฤติกรรมเหล่านี้มันถูกเล่าด้วยท่าทีบันเทิง แต่ไปพร้อมกันนั้น เราก็อดสงสัยไม่ได้ว่า การไม่ตั้งคำถามเลยและหัวเราะใส่มันเพียงอย่างเดียวนั้นโอเคแล้วจริงๆ หรือ

เพราะการเป็นหนังตลก หนังคอเมดี้ชวนหัวไม่ได้แปลว่ามันจะไม่ซุกซ่อนอะไรไว้ใต้พรมเหล่านั้น ไม่ใช่ว่าจะมีแต่หนังรางวัล หนังดราม่าเท่านั้นหรอกที่จะสะท้อนบางอย่างในสังคมออกมา แต่หนังบันเทิงที่ปราศจากน้ำเสียงจริงจังแบบนี้ต่างหากที่มักจะเผยทัศนคติบางอย่างออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ (หรืออาจจะตั้งใจก็ได้) เสมอ มันจึงเป็นความเหยียดที่เกิดขึ้นจากความไม่ตั้งใจ ความ ignorance บางประการ ก่อให้เกิดการ ‘สอนใจ’ ผ่านปากตัวละครชนชั้นกลางที่มีต่อตัวละครจากชนชั้นล่าง

รีวิว ตุ๊ดซี่ส์ แอนด์ เดอะเฟค

ถึงตรงนี้คงไม่ต้องบอกอะไรมาก ตุ๊ดซี่ส์ & เดอะเฟค คือหนังไทยที่ช่วยให้เราได้ลืมความจริงอันเลวร้ายทั้งอากาศแย่ แม่ด่า รถติด เบื่อการเมือง เงินไม่พอใช้ ของแพง และอีกสารพัด เข้าไปฮาตัวโยน แหกปากระเบิดเสียงหัวเราะ กันให้ฉ่ำปอดได้เลย 5 ธันวาคมนี้ทุกโรงภาพยนตร์ แต่เราอยากให้ดูที่เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ นะคะ เพราะกด จองรอบ และ ซื้อตั๋วที่ภาพสวย ๆ ด้านล่างได้เลย กราบค่ะ..ไหว้ย่อ…

รีวิวหนังไทยมาใหม่

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *