รีวิว น้ำตากามเทพ

รีวิว น้ำตากามเทพ

ความวุ่นวายเริ่มต้นขึ้น เมื่อกามเทพแผลงศรแห่งความรักมาที่คฤหาสน์บ้านอัมราภรณ์ จนทำให้หญิงย่า (โฉมฉาย ฉัตรวิไล) ประมุขของตระกูลประกาศกลางงานแซยิด…

ความรักระหว่างพวกเขา..แม้แต่กามเทพ ยังต้องหลั่งน้ำตา ความวุ่นวายเริ่มต้นขึ้น เมื่อกามเทพแผลงศรแห่งความรักมาที่คฤหาสน์บ้านอัมราภรณ์ จนทำให้หญิงย่า (โฉมฉาย ฉัตรวิไล) ประมุขของตระกูลประกาศกลางงานแซยิดว่าจะให้ชาวี (ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์) หลานชายคนเดียวแต่งงานกับอารยา (แพทตี้-อังศุมาลิน) เด็กกำพร้า

ที่หญิงย่ารับเลี้ยงมาตั้งแต่แบเบาะ เหตุการณ์นี้นอกจากจะเพิ่มรอยบาดหมางระหว่างชาวี และอารยาที่เกลียดขี้หน้ากันมาตั้งแต่เด็ก ยังเป็นการจุดชนวนสงครามให้หญิงแม่ (กิ๊ก-มยุริญ) กับชลลี่ (ปุ๊กกี้-ปวีณ์นุช) แม่และน้องสาวของชาวี คอยหาทางกำจัดอารยาให้พ้นจากการเป็นสะใภ้ของตระกูล โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากดีดี้

(ไอซ์-อภิษฎา) คนรักของชาวีที่ตามกลับมาจากอังกฤษ ในขณะที่อารยาต้องรับมือกับการกลั่นแกล้งสารพัดจากทั้งชาวี และสามสาวตัวร้าย โดยมีหมอแมะ (โจ๊ก โซคูล) หมอประจำตระกูลที่แอบหลงรักอารยา คอยให้กำลังใจอยู่ห่างๆนั้น  หนังไทยเก่าน่าดู

อีกด้านหนึ่งของบ้านอัมราภรณ์ ไพโรจน์ (ไอซ์ ปรีชญา) ชายหนุ่มรูปร่างบอบบางเหมือนผู้หญิง ก็มาสมัครเป็นคนสวนคนใหม่ โดยไม่มีใครรู้ว่าที่ไพโรจน์เข้ามาในบ้านหลังนี้เพราะมีความลับบางอย่าง ซ่อนอยู่…ไม่เพียงเท่านั้น พิศาล (ตั๊ก-บริบูรณ์) ชายลึกลับ ผู้อาศัยอยู่ที่เกาะร้างแห่งหนึ่ง ก็กำลังวางแผนจะล้างแค้นใครบางคนที่เกี่ยวพันกับตระกูลอัมราภรณ์เช่นกัน

พบผลงานกำกับละครซีรีส์ครั้งแรกของ ปิ๊ง-อดิสรณ์ ตรีสิริเกษม ผู้กำกับภาพยนตร์สุดฮิต รถไฟฟ้า..มาหานะเธอ ในสงคราม ความรัก ความแค้น ที่ดราม่าจนกามเทพยังต้องหลั่งน้ำตา ออกอากาศ เริ่มวันเสาร์ที่ 21 มีนาคม 2558 ติดตมชมได้ทุกวันเสาร์ เวลา 22.00 น. ทางช่อง GTH On Air และ GMM 25  ดูหนัง

รีวิว น้ำตากามเทพ

อย่างที่หลายๆคนรู้…”น้ำตากามเทพ”เป็นซีรีส์เสียดสีล้อเลียนวงการละครไทย   ดูหนังใหม่

ถึงแม้ว่านักแสดงและทีมงานบางส่วนจะเคยให้สัมภาษณ์ว่าซีรีส์ชุดนี้เป็นซีรีส์ที่ต้องการ tribute ถึงวงการละครไทยไปในตัว แต่ผมมองว่าเราสามารถจัดหมวดหมู่ภาพยนตร์ล้อเลียนได้สองแบบ คือ…

1) หนังล้อเลียนที่ให้ความเคารพภาพยนตร์ต้นฉบับ ดูแล้วทำให้เราอยากไปดูหนังต้นฉบับนั้นอีกครั้งรวมถึงมันยังคงความสนุกต่อผู้ชมในหมู่มากได้ ไม่ว่าจะเคยดูภาพยนตร์ต้นฉบับหรือไม่ก็ตาม หนังในข่ายนี้เช่น Spaceballs, Top Secret! (คนละอันกับของ GTH นะ), Silent Movie,Return of Killing Tomatoes,Airplane! เป็นต้น

2) หนังล้อเลียนที่ไม่มีิอะไรเลยนอกจากถมๆมุขตลกให้มันเต็ม ใส่อะไรก็ได้ที่กำลังฮิต ณ ตอนนั้นแล้วทำให้มันตลกทั้งๆที่ไม่ต้องใส่ก็ได้ ดูจบแล้วจำอะไรแทบไม่ได้เลยจริงๆ หนังในข่ายนี้เช่น Disaster Movie และหนังหลายๆเรื่องของ Seltzer & Friedberg  น้ำตากามเทพ สปอย

การดำเนินเรื่อง

เคราะห์ดีที่น้ำตากามเทพอยู่ในข่ายแรก…จะว่าไปประเทศไทยเราต้องการละครแบบนี้มานานนมแล้ว พูดก็พูดเหอะ กี่ครั้งในชีวิตแล้วที่คุณต้องเห็นละครแนวเกลียดชิ่งปิ๊งรัก/ละครที่นางเอกต้องปลอมเป็นชาย และละครแนวตบจูบ? ทั้งหมดนี้ถูกผลิตซ้ำออกมาแล้วไม่รู้กี่เรื่องต่อกี่เรื่อง คนดูทั่วประเทศแทบจะเดาตอนจบได้แล้ว    ดูหนังฟรี

(ถึงเดาไม่ได้ก็มีคู่มือเฉลยละครออกมาวางขายทั่วประเทศรวมถึงมีหนังสือพิมพ์ลงเรื่องย่อทุกวัน น่าจะเป็นที่เดียวในโลกที่มีแบบนี้) แต่เราก็ดู พูดกันแบบตรงไปตรงมาเมื่อก่อนผมก็ไม่ชอบละครน้ำเน่า แต่พอดูไปหลายๆเรื่องก็รู้เลยว่าทำไม? พล็อตมันห่างไกลจากความจริงมากถึงมากที่สุด ถึงตัวละครมันไม่มีพัฒนาการใดๆเลยและหลายครั้งตัวละคร

ก็จะแบนๆ มีมิติเดียว แต่เรามักจะมองว่านางเอกผู้น่าสงสารนั้นมีชะตากรรมใกล้เคียงกับในชีวิตเราและมองว่าเราต้องการชนะตัวอิจฉาและอุปสรรคขวากหนามต่างๆในเรื่องให้ได้ ไม่ต่างกับในชีวิตจริง คือโอเค อันที่จริงผมสามารถพรรณาถึงข้อดีข้อด้อยของวงการละครน้ำเน่าไทยได้อีกโข แต่นี่มันคือบทความรีวิวน้ำตากามเทพ! เพราะฉะนั้นผมขอใช้พื้นที่นี้อย่างถูกต้องจะดีกว่า  น้ำตากามเทพ เนื้อเรื่อง

รีวิว น้ำตากามเทพ

พล็อตเรื่อง

เผื่อคุณยังไม่ทราบ น้ำตากามเทพเป็นซีรีส์ของ GTH ที่ผลิตร่วมกับหับโห้ฮิ้น บางกอก (ที่ดูแลในส่วนของการถ่ายทำ) โดยมีปูมหลังมาจากละครสั้นในหนังรถไฟฟ้ามาหานะเธอ ผมเองก็เกือบจะลืมๆละครเวอร์ชั่นแรกไปแล้วถ้าไม่ได้มาเห็นคลิปใน YouTube ซึ่งมันฮามาก ไม่ต่างจากครั้งแรกที่ผมดูเมื่อหลายปีก่อนเลย แต่ในที่สุดทาง GTH ก็ตัดสินใจนำละครสั้นตัวนี้มาทำเป็นซีรีส์แบบจริงๆจังๆ โดยเสียดสีวงการละครไทยในหลายๆเรื่อง ดังจะได้กล่าวต่อไป  ดูหนังไทย

ทำไมผมถึงตามดู?

ในตอนแรกผมเห็นตัวทีเซอร์โปรโมตละครก่อน (ถือเป็นเครื่องมือโปรโมตละครที่ดี โดยใช้หลัก Viral Marketing) ก็โอเค มันตลกดี แต่ไม่ได้ถึงขั้นที่ว่าอยากดูแบบทันทีทันใด และหลังจากที่ละครออกอากาศไป 1 ตอนผมพบว่ากระแสมันสุดโต่งมากทั้งสองฝ่ายคือชอบก็ชอบไปเลย ไม่ชอบก็ไม่ชอบเลย ผมจึงตัดสินใจรอดูตอนที่ 2 ของละครในคืนวันเสาร์ที่ออกอากาศ…ผมค่อนข้างผิดหวังนะ คือรู้สึกว่ามุขตลกมันยัดเยียดไปหน่อย เดาว่าคงเป็นเพราะในตอนแรกๆคนดูยังไม่รู้พื้นฐานตัวละครมากนัก เลยเอาเรื่องเหล่านี้มาใช้เป็นมุขไม่ได้มากเท่าไหร่  น้ำตากามเทพ เรตติ้ง

ผมคงจะเลิกดูไปแล้ว ถ้าไม่กี่วันจากนั้นช่อง 7 เอา ATM เออรัก เออเร่อมาฉาย ซึ่งถึงแม้ผมจะเคยดูมาแล้ว แต่รอบนี้ผมถูกจู่โจมโดยไม่เจตนาจาก

รีวิว น้ำตากามเทพ

รีวิว น้ำตากามเทพ บทสรุป

โครงเรื่อง

ตัวละครจะเป็นการผสมผสานละคร 3 แบบเข้าไว้ด้วยกัน โดยตัวละครทั้งหมดในเรื่องจะมีความสัมพันธ์ในทางใดทางหนึ่ง ไม่ได้แบ่งเป็นสามเรื่องย่อยแต่อย่างใด สามารถแบ่งได้หยาบๆดังนี้

– คู่มาตรฐาน

อารยา เด็กกำพร้าที่ถูกหญิงย่าแห่งตระกูลอัมราภรณ์เก็บมาเลี้ยงและถูกชาวี ทายาทของตระกูลกลั่นแกล้งตั้งแต่เด็ก พอเวลาผ่านไปทั้งคู่มาเจอกันอีกครั้งและถูกหญิงย่าบังคับให้แต่งงานด้วยกัน อุปสรรคของความรักนอกเหนือจากตัวชาวีที่จงเกลียดจงชังอารยามาแต่ไหนแต่ไรแล้วก็คือหญิงแม่ มารดาของชาวีที่ดูถูกอารยามาตั้งแต่บรรพกาลรวมถึงดีดี้ แฟนของชาวีสมัยเรียนเมืองนอกที่คอยวางแผนเล่นงานอารยาเรื่อยๆ…แต่ละครไทยก็งี้แหละครับ สุดท้ายก็เกลียดชิ่งปิ้งรักตามสูตร

– คู่ทัดดาวบุษยา

ไพลิน หญิงสาวผู้ทราบว่าตนคือทายาทที่แท้จริงของตระกูลอัมราภรณ์ได้ปลอมเป็นผู้ชายชื่อไพโรจน์มาสมัครเป็นคนสวนในบ้านเพื่อค้นหาความจริง เธอทำงานไปเรื่อยๆจนกระทั่งเธอได้พบกับหมอแมะ หมอประจำตระกูลอัมราภรณ์ที่กำลังโศกเศร้าได้ที่หลังรู้ว่าผู้หญิงที่เขาแอบชอบอย่างอารยาต้องแต่งงานกับเพื่อนของเขาอย่างชาวี หมอแมะตกหลุมรักไพโรจน์ตั้งแต่แรกทั้งๆที่เขารู้เต็มอกว่าไพโรจน์เป็น “ผู้ชาย”…แต่ละครไทยก็งี้แหละครับ ไม่มีอะไรขัดขวางความรักของหมอแมะได้อยู่แล้ว

– คู่จำเลยรัก

ชลลี่ น้องสาวของชาวีถูกลักพาตัวไปอยู่บนเกาะของพิศาล ชายหนุ่มผู้เต็มไปด้วยความเคียดแค้นหลังจากที่ดีดี้ไปหลอกไถเงินพ่อเขาจากการทำธุรกิจ เดี๋ยวนะ…เมื่อกี้ผมพูดว่าดีดี้ใช่ไหม? นั่นหมายความว่าพิศาลจับมาผิดคนครับ แต่ละครไทยก็งี้แหละ ตบกันไปตบกันมาสุดท้ายก็รักกัน

วิจารณ์ตัวละคร

– ชาวี

คุณชายขี้โมโหผู้รักการใส่สูททุกที่ทุกเวลา เขาเป็นตัวแทนของพระเอกละครไทยได้ดีเนื่องจากว่าถึงแม้จะไม่ค่อยมีพัฒนาการในตลอดสิบกว่าตอนเลย แต่เขามีทุกอย่างที่พระเอกละครไทยพึงมี ทั้งมาดขรึม อารมณ์ฉุนเฉียวขึ้นลงง่าย วาจาเชือดเฉือน รวมไปถึงพฤติกรรมสไตล์เอะอะจับปล้ำ คือเอาจริงๆพฤติกรรมแกไมไ่ด้โดดเด่นหวือหวาหรือมีหลายมิติหรอกครับ มันก็คงคล้ายๆละครไทยทั่วไปนั่นแล

– อารยา

นี่คือตัวละครที่มีพัฒนาการที่เห็นได้ค่อนข้างชัด เข้าใจว่าต้องการล้อเลียนนางเอกทั้งแบบโบราณและแบบสมัยใหม่ไปด้วย โดยในสองตอนแรกอารยาคือนางเอกที่เรียบร้อยดุจผ้าพับไว้ เธอขี้แย ร้องไห้ โดนจิกหัวกลั่นแกล้งตลอด แต่หลังจากที่เธอเปลี่ยนโฉมเป็นสาวมั่นแล้ว เธอสู้คนมากขึ้น เถียงคำไม่ตกฟากกับพระเอกมากขึ้นและกล้าต่อกรกับกองทัพตัวร้าย (ถึงแม้จะมีแอบร้องไห้บ้างแต่ไมไ่ด้ถี่เหมือนตอนแรกๆแล้ว) ซึ่งอย่างหลังนี่เองที่สะท้อนค่านิยมของนางเอกสมัยใหม่ที่สู้คนมากขึ้น ไม่ใช่ร้องไห้ทุกตอนราวกับดอกโศกหรือพจมาน

ผมไม่แน่ใจนะว่าปัจจัยที่ทำให้เธอเปลี่ยนพฤติกรรม? แต่เดาว่าการมานั่งดูนางเอกนั่งร้องไห้ทั้ง 10 กว่าตอนคงทรมานตายโหงทั้งผู้แสดงอย่างคุณแพตตี้และตัวผู้ชมเอง ก็เลยต้องปรับพฤติกรรมกันหน่อย อีกอย่างคืออารยาคงโดนกดดันแต่เด็กแล้ว คงถึงเวลาระบายกันบ้าง  น้ำตากามเทพ บทสรุป

– ไพลิน (ไพโรจน์)

เป็นตัวละครที่มีความทะเยอทะยานแบบสมเหตุสมผลที่สุด หากท่านไม่นับดีดี้ที่วันๆกะจะจับชาวีลูกเดียว เพราะในตอนแรกละครนำเสนอไพลินว่าเป็นผู้หญิงที่น่าสงสาร เธอเป็นหญิงต่างจังหวัดที่อยู่กับแม่ในเรือกสวนไร่นา โดยก่อนที่แม่เธอจะตายเธอเปิดเผยความลับว่าเธอไม่ใช่แม่แท้ๆของไพลินและได้บอกให้ไพลินมาหาความจริงที่บ้านของตระกูลอัมราภรณ์ ซึ่งในตอนแรกเธอถูกอารยาจับได้และได้กลายเป็นเพื่อนสนิทกันเพื่อขอความช่วยเหลือในการสืบคดี ต่อมาหมอแมะตกหลุมรักเธออีก แต่เธอไม่สนครับ เธอยังเดินหน้าหาความจริงต่อไปแม้ลึกๆจะแอบหวั่นไหว

ในเวลาต่อมาหลังจากรู้ความจริงแล้ว มีอยู่ช่วงหนึ่งที่เธอเหี้ยมพอที่จะตัดมิตรกับอารยาและปฏิเสธรักต่อหน้าหมอแมะครับ เธอตัดสินใจที่จะเปิดโปงความลับทั้งหมดด้วยตัวเองไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเพราะเธอต้องการประกาศตนว่าเธอคือทายาทที่แท้จริง ไม่ว่าจะเป็นเพราะเธอต้องการทวงคืนความยุติธรรมหรือหวังหุบสมบัติโดยลึกๆก็ตาม

รีวิว น้ำตากามเทพ

โดยรวมหนัง

เนื่องจากว่าน้ำตากามเทพเป็นละครไทย หากตอนจบไม่ได้หักมุมแบบดุเดือดเลือดพล่านแบบที่เราเห็นกัน ในที่สุดเธอจะมีชีวิตในตอนจบที่มีความสุข แต่ถ้านี่คือซีรีส์ฝรั่ง คุณสามารถหักมุมได้อีกแบบว่าไพลินคือตัวร้ายผู้ทะเยอทะยาน เธอกล้าทำลายเพื่อนและคนรักเพียงเพื่อต้องการที่จะหวังทรัพย์สมบัติภายในบ้าน

(พูดง่ายๆคือเธอไม่เหลือเจตนาเรื่องความยุติธรรมอยู่แล้ว เธอมาด้วยความแค้นและความโลภล้วนๆ) โดยในตอนจบเธอได้ทรัพย์สมบัติทุกอย่างครับ แต่เธอไม่เหลือใครเลยในชีวิต ตอนจบเธอเป็นบ้าและกลายเป็นฆาตกรโรคจิตที่ทางการต้องการตัวมากที่สุดในเวลาต่อมา โดยเธอจะเลือกสังหารเหยื่อที่มีฐานะดีเป็นหลักเพราะคำว่า “ฐานะ”

นี่เองที่ทำให้เธอต้องตกอยู่ในภวังค์ทุกข์แบบนี้…หรือจะจบแบบพล็อตหนัง Psycho ก็ได้ที่หลังจากนี้เธอจะมีปูมหลังคล้ายๆ Norman Bates สามารถอ่านแนวคิดดังกล่าวได้ท้ายบทความนี้ครับ  น้ำตากามเทพ สนุกไหม

ท้ายที่สุดมันก็คงเหมือนกับที่หญิงแม่กระทำไว้ในตอนแรกของละครกระมัง รู้ทั้งรู้ว่าละครน้ำเน่าบ้านเราจะจบยังไงก็ยังจะประพฤติตัวตามหลักนางอิจฉาอีก มันคงไม่ต่างกับผู้ชมอย่างเราๆที่อาจมือถือสากปากถือศีลก็ได้ บ่อยครั้งที่เราเผลอเชียร์ฝ่ายธรรมะในละครทั้งๆที่เราก็ทำตัวไม่ต่างกับสมาพันธ์ตัวโกงเลยแม้แต่น้อย

แต่โลกแห่งความเป็นจริงมันก็ไม่ได้มีแต่ขาวล้วน-ดำล้วนเหมือนในโลกละครหรอกครับ การกระทำบางอย่างมันไม่สามารถตัดสินได้ทันทีว่ามันถูกหรือผิด ทั้งนี้ย่อมต้องขึ้นอยู่กับสามัญสำนึกและขนความเชื่อของแต่ละคน…ในทางกลับกัน โอกาสที่บ้านเราจะหลีกหนีจะละครน้ำเน่าและทำละครที่มีพัฒนาการตัวละครรวมถึงพล็อตเรื่องที่น่าสนใจแบบ Miami Vice, Space: 1999, Hill Street Blues หรือ Twin Peaks นั้นยังมีอยู่ บางทีมันไม่ใช่แค่ว่า “ทำไมอุตสาหกรรมถึงยังต้องทำละครน้ำเน่าออกมาตลอด?” แต่มันขึ้นอยู่กับว่า “ฐานผู้ชมมากพอให้ทำแบบนั้นหรือไม่?” ด้วย อย่าลืมว่ารายได้ของสิ่งเหล่านี้มาจากจำนวนโฆษณาที่แปรผันตรงกับอัตราเรตติ้ง

อย่างไรก็ตาม น้ำตากามเทพก็ถือว่ามีความกล้าในระดับหนึ่งที่จะนำเสนอขนบเดิมๆที่เราเห็นจนชินตาด้วยมุมมองที่ต่างออกไป ผมคงพูดได้ไม่เต็มปากนักหรอกว่านี่คือซีรีส์ระดับทองคำขาวฝังเพชรเพราะอย่างที่บอกไปแล้วว่าผมไม่ประทับใจสองตอนแรกของซีรีส์เลย แต่สิ่งที่ผมชอบตั้งแต่ตอนที่ 3 เป็นต้นมาคือการเฉลยความลับตัวละครออกมาเรื่อยๆรวมถึงมุขตลกที่ฮาและเป็นธรรมชาติขึ้น ทำให้เราตามดูเรื่อยๆจนจบในที่สุด    รีวิวหนังไทย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *