รีวิว พี่มากพระโขนง
ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ พี่มาก (มาริโอ้ เมาเร่อ) ต้องทิ้งเมียท้องแก่และบ้านแสนสุขที่พระโขนงเพื่อออกเดินทางไปร่วมรบ ที่นั่นเข้าได้พบกับ เต๋อ (ณัฏฐพงษ์ ชาติพงศ์), เผือก (พงศธร จงวิลาส), ชิน (อัฒรุต คงราศรี) และ เอ (กันตพัฒน์ สีดา) หลังจากร่วมทุกข์ร่วมสุขในสงคราม หลังสงครามพี่มากก็พาเพื่อน ๆ กลับบ้านเพื่ออวดโฉม นางนาก (ดาวิกา โฮร์เน่) เมียรักและ ลูกชาย ที่คาดว่าจะคลอดออกมาระหว่างที่เขาไปออกรบ เพื่อน ๆ ทั้ง 4 จึงตัดสินใจพักอยู่ในบ้านตรงข้ามสักระยะ ขณะเดียวกันก็มีเรื่องเล่าหนาหูว่าพระโขนงมีผีตายทั้งกลม แน่นอนว่าชายชาติทหารไม่มีทางเชื่อรเื่องแบบนี้แน่นอน ทั้งสี่คนจึงตัดสินใจสืบหาความจริงว่าที่หมู่บ้านแห่งนี้มีผีอยู่จริงหรือไม่ และความจริงที่รู้มาก็ทำให้หนุ่มหล่อทั้งสี่แทบช็อก
พี่มาก..พระโขนง เป็นหนังอีกเรื่องที่หยิบยกเอาตำนานพื้นบ้านมาเรียงร้อยเป็นตำนานบทใหม่ที่เล่าผ่านแก๊งทหารทั้ง 4 และพี่มากเวอร์ชั่นลูกครึ่งออกแนวเฮฮาที่ช่วยลดความน่ากลัวของหนังลงและสามารถดูได้จนจบแบบขำจนกรามค้าง ทั้งมุกตลกของกลุ่มเพื่อนที่สาดความฮาออกมาเป็นธรรมชาติ รวมถึงฝีมือการแสดงที่เราต่างก็รู้กันดีถึงความเป็นทืออาชีพของใหม่ ดาวิกา และมาริโอ้ เมาเร่อ นอกจากนี้ทั้งคอสตูมและฉากก็ยังเข้ากับยุคสมัยและเนื้อเรื่องได้เป็นอย่างดี
ประเภท ตลก / โรแมนติก / สยองขวัญ
เรทผู้รับชม 16+
ผู้กำกับ บรรจง ปิสัญธนะกูล
นักแสดงนำ มาริโอ้ เมาเร่อ, ดาวิกา โฮร์เน่, พงศธร จงวิลาส, ณัฏฐพงษ์ ชาติพงศ์, อัฒรุต คงราศรี และกันตพัฒน์ สีดา
ความยาวหนัง 111 นาที
ปีที่ออกอากาศ 2556
“พี่มากขาาาา……..”
เมื่อได้ยินประโยคนี้ ผมเชื่อว่าหลายคน โดยเฉพาะคอหนังผีไทย น่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะคงจะมีหนังอยู่ไม่กี่เรื่องหรอกครับ ที่แค่เพียงพูดประโยคเดียว ก็รู้ได้เลยว่ากำลังหมายถึงเรื่องอะไร และคิดว่าทุกคนคงจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าหนังเรื่องนี้ คือ “แม่นาคพระโขนง”
ที่จริงตำนานแม่นาคพระโขนง ถือว่าเป็นหนึ่งในหนังผีไทยที่ถูกถ่ายทอดออกมาหลายต่อหลายครั้ง ในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นละครโทรทัศน์ ละครเวที ละครวิทยุ หนังสือนิยาย การ์ตูน และภาพยนตร์ เพราะความที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับความรักอมตะของหนุ่มสาวที่มาพร้อมกับความสยองขวัญ จึงทำให้หนังเรื่องนี้จะถูกผลิตซ้ำกี่ที คนดูก็เสพได้ไม่มีเบื่อครับ
ส่วนตัวผมเคยดูแม่นาคมาแล้ว 3-4 ครั้งจากทั้งละครและภาพยนตร์ บอกตามตรงว่า สิ่งที่สัมผัสและตราตรึงของเรื่องราวในแม่นาคพระโขนงทุกเวอร์ชันก็คือ ความสยองขวัญและความน่ากลัว แม้จะเป็นเรื่องราวของความรัก แต่เป็นความรักที่มาพร้อมกับความยึดติดไม่ปล่อยวาง และลงท้ายมักจะจบลงด้วยความเศร้า แต่สำหรับแม่นาคพระโขนงเวอร์ชันล่าสุดแบบภาพยนตร์ที่ใช้ชื่อว่า “พี่มากพระโขนง” บอกได้เลยว่า เป็นการตีความแม่นาคแบบพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ จะแตกต่างอย่างไร ไปติดตามอ่านได้จากรีวิวด้านล่างเลยครับ
พี่มากพระโขนง เป็นหนังที่หยิบยกเอาเรื่องราวความรักของแม่นาคพระโขนงมาเล่าในมุมใหม่อย่างที่ไม่มีใครเคยทำมาก่อน เพราะเรื่องราวต่าง ๆ ในตำนานแม่นาคพระโขนงที่ผ่านตาเรามานั้น ส่วนใหญ่จะเน้นที่ตัวแม่นาค แต่สำหรับเวอร์ชันนี้ เป็นการเล่าเรื่องโดยตีความต่างจากที่ผ่านมาโดยสิ้นเชิง เพราะบทหนังได้ใช้พี่มาก เป็นตัวหลักของการเล่าเรื่อง จึงเป็นที่มาของชื่อหนังในเวอร์ชั่นนี้ครับ
พี่มากพระโขนง เป็นหนังของค่าย GDH (หรือในชื่อเดิม GTH) นำแสดงโดย มาริโอ้ เมาเร่อ, ดาวิกา โฮร์เน่, กันตพัฒน์ สีดา, ณัฏฐพงษ์ ชาติพงษ์, อัฒรุต คงราศรี และพงศธร จงวิลาส สำหรับบรรยากาศและกลิ่นอายของหนังเรื่องนี้บอกเลยว่า เป็นหนังผีที่ดูโรแมนติกสุด ๆ เท่าที่เคยดูมา แถมยังมีความฮาแบบอัดแน่นเกือบทุกตอน (นี่กำลังรีวิวหนังผี อยู่จริง ๆ ใช่ไหม)
เพราะการที่นำตัวจตุรเทพแห่งความตลกทั้ง 4 คน เจ้าประจำของหนังค่าย GDH มารับบทเป็นเพื่อนพี่มาก โดยเฉพาะ ฟรอย ณัฏฐพงษ์ (รับบทเป็น เต๋อ) และ เผือก พงศธร (รับบทเป็น เผือก) ที่ออกมาทีไร จะต้องมีขำแทบทุกฉาก ทุกตอน ซึ่งแม้ความตลกจะเหมือนเป็นธีมหลักของหนังเรื่องนี้
โดยเข้ามาอยู่ในเนื้อหาของหนังกว่า 70-80% แต่ก็ไม่ได้ทำให้หนังขาดบรรยากาศของตำนานแม่นาคพระโขนงแต่อย่างไร เพราะด้วยทั้งสถานที่ถ่ายทำ ฉากต่าง ๆ ในเรื่อง ยังให้อารมณ์ที่บ่งบอกถึงความเป็นตำนานได้อย่างชัดเจน (แม้จะมีลูกเล่นในการนำเสนอฉากให้มีความร่วมสมัยมากขึ้น เช่น ฉากงานวัด)
ในส่วนฉากฮาที่ผมชอบสุด ๆ ก็จะเป็นตอนที่ เต๋อกำลังพยายามจะบอกว่า แม่นาคเป็นผี แต่พูดอย่างไรก็ไม่รู้เรื่อง เพราะโดนผึ้งต่อยมาเต็มหน้า หรืออีกฉากที่หลายคนน่าจะจำได้ดี คือ ฉากที่ทั้ง 6 คนเล่นใบ้คำด้วยกัน
รีวิว พี่มากพระโขนง
ในส่วนการนำเสนอเรื่องราวความรักในเวอร์ชันนี้ ทำได้ดีเกินคาดเลยครับ ทั้งการแสดงของมาริโอ้ และใหม่ ดาวิกา ที่รับส่งอารมณ์กันได้อย่างลงตัว ส่วนบทก็ถือว่าทำการบ้านมาดีมาก เก็บรายละเอียดได้เป็นอย่างดี อย่างเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการใช้คำ แทนคำเรียกที่เปลี่ยนจาก “ข้า” กับ “เอ็ง” มาเป็นคำสมัยใหม่อย่าง “เค้า” กับ “ตัวเอง” ทำให้หนังเรื่องนี้น่ารักขึ้นเป็นกองเลยครับ อีกทั้งฉากโรแมนติกของหนัง ถึงแม้จะมีเนื้อหาในเรื่อง ประมาณ 20-30% แต่ฉากเหล่านั้นก็สร้างความประทับใจได้อย่างเต็มเปี่ยม
เช่น ฉากที่ทั้งคู่อยู่บนชิงช้าสวรรค์ กับคำพูดของแม่นาคที่ว่า “เค้าขอโทษนะ ที่ตัวเองตายก่อนเค้าไม่ได้แล้ว” หรือไม่ก็ฉากสุดประทับใจในวัดที่เป็นจุดเฉลยเรื่องราวต่าง ๆ ทั้งหมด (เรียกน้ำตาได้เล็ก ๆ) กับคำพูดพี่มากที่ติดหูว่า “ถ้าไม่มีตัวเองเค้าอยู่ไม่ได้หรอก ตัวเองก็รู้ว่าเค้ากลัวผี แต่เค้ากลัวไม่ได้อยู่กับตัวเองมากกว่า” และประโยคธรรมดาอันเป็นสัญลักษณ์ของหนังเรืองนี้ ที่แม่นาคพูดบอกรักพี่มากอย่าง “รักพี่มาก มาก ๆ” ก็ถูกนำมาเล่นตบท้ายได้สุดแสนโรแมนติกปนขำ ด้วยการบอกรักกลับของพี่มากว่า “รักนาค นาค ๆ เหมือนกันนะ”
อีกหนึ่งสิ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้ นั่นก็คือเพลงหลักที่ใช้ประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้เพลงเก่า อย่าง “อยากหยุดเวลา” ขับร้องโดย ปาล์มมี่ (อีฟ ปานเจริญ) ที่ถ่ายทอดออกมาได้อย่างซาบซึ้ง และสื่ออารมณ์ได้ถึงเรื่องราวความรักของพี่มากกับนางนาคได้เป็นอย่างดี เปิดขึ้นมาในหนังทีไร ยิ่งช่วยทำให้อารมณ์ของหนังถูกเติมเต็มมากยิ่งขึ้น
จุดสำคัญของเรื่องพี่มากพระโขนง คือ ตอนจบทุกเวอร์ชันที่ผ่านมา เรามักจะได้สัมผัสกับความหดหู่ และความเศร้าของการพลัดพรากในความรักของทั้งคู่ แต่สำหรับเวอร์ชันนี้ต้องบอกเลยครับว่ากล้ามาก ทั้งกล้าที่จะหักมุม และกล้าที่จะเปลี่ยนเรื่องราวของทุกเวอร์ชันที่ผ่านมา
ให้คนกับผีสามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันได้ คล้ายกับเป็นการโยนข้อคิดให้เราว่า ท้ายที่สุดแล้ว คำว่า “ความรัก” นอกจากจะไม่จำกัดอยู่แค่เพียงรูปลักษณ์ สถานะ เชื้อชาติ เพศสภาพ แล้ว ความรักระหว่างคนที่มีชีวิตกับคนที่ไร้ลมหายใจเองก็ถือเป็นความรักเช่นกัน สำหรับพี่มากพระโขนงเรื่องนี้
จึงไม่แปลกใจที่สามารถทำรายได้ทั่วประเทศไปถึง 1 พันล้านบาท ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นการการันตีถึงคุณภาพของโปรดักชันและการถ่ายทำเท่านั้น แต่ยังเป็นการแสดงให้เห็นว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังผีที่คนไทยทุกคนตกหลุมรักจริง ๆ
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับรีวิวหนังผีอีกเรื่องที่เรานำมาให้อ่านกัน ถ้าใครเบื่อหนังสยองขวัญ อยากอ่านบทความเกี่ยวกับหนังแบบอื่น คงต้องอดใจรออีกสักนิดนะครับ
ความรู้สึกหลังดู
ถ้าพูดถึงแม่นาคพระโขนง ไม่ว่าจะเป็นคนรุ้นใหม่ หรือรุ่นเก่าทุกคนก้ต้องรู้จักกันแน่นอน กับเรื่องราวความรักอันน่าสงสารของนางนาค หรือแม่นาคที่เราคุ้นชื่อกัน
หนังเรื่องแม่นาคพระโขนงถือว่าได้ถูกนำมาสร้างเป็นหนังนับไม่ถ้วนเลย และก่อนการจะสร้างหนังได้แต่ละครั้งทุกกองถ่ายก็มักจะได้เจอเรื่องราวอันน่าพิศวงกันอีกด้วย
หนังแม่นาคในยุคก่อนๆ ก็จะสร้างให้เกี่ยวกับวิญญาณของแม่นาคที่น่ากลัว แต่สำหรัยหนังเรื่อง พี่มากพระโขนง
เรื่องนี้นั้นไม่ได้เน้นไปที่ความน่ากลัว แต่แสดงให้เห็นถึงความรักที่แม่นาคมีต่อพ่อนาค รวมถึงความฮาของเหล่าเพื่อนพี่มาก
เรื่องมีอยู่ว่า
ในสมัย กรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น เกิดสงครามจนทำให้ชาวบ้านจำนวนมากต้องถูกเกณฑ์ไปรบ “พี่มาก” จำต้องทิ้งเมียของเขาที่กำลังท้องแก่ไว้ที่บ้านเพื่อเข้าร่วมศึก
ระหว่างสงคราม มากได้พบและช่วยชีวิตเพื่อนทหารเกณฑ์สี่คนคือ เต๋อ เผือก ชิน และเอ จนท้ายที่สุดทั้งห้าก็กลายมาเป็นเพื่อนสนิทกัน
เมื่อสงครามยุติ มากจึงชวนให้ทั้งสี่ไปเยี่ยมบ้านของเขาที่พระโขนง
เมื่อถึงพระโขนง มากแนะนำให้ เต๋อ เผือก ชิน และเอ รู้จักกับ “นางนาก” เมียสาวแสนสวยของเขา และยังมี “แดง”
ลูกชายวัยแรกเกิดของมากด้วย เต๋อ เผือก ชิน และเอ ตัดสินใจอยู่ที่พระโขนงสักระยะโดยอาศัยที่บ้านหลังเก่าฝั่งตรงข้ามบ้านมาก
ขณะ นั้นมีข่าวลือหนาหูในหมู่ชาวบ้านว่านากเป็นผีตายทั้งกลม โดยต้นตอมาจากยายเปรียกเจ้าของร้านยาดองปั่น ทั้งสี่ไม่เชื่อ จึงพยายามพิสูจน์ด้วยวิธีการต่างๆ
ต่อมายายเปรียกผู้ปล่อยข่าวลือเกิดจมน้ำตายลอยขึ้นอืดอย่างน่าสยดสยอง ทำให้เต๋อ เผือก ชิน และเอ ปักใจเชื่อว่านากเป็นผีแน่ๆ ทั้งสี่ไม่ กล้าบอกมากตรงๆ
เนื่องจากกลัวจะต้องพบจุดจบแบบเดียวกับยายเปรียก แต่เมื่อนึกถึงบุญคุณที่มากเคยช่วยชีวิต พวกเขาจึงต้องตัดสินใจบอกความจริงให้มากรู้ เพราะคนกับผีอยู่ร่วมกันไม่ได้
สรุปคะแนน
สำหรับเรื่องนี้นะคะ ถือว่าเป็นหนังไทยอีกเรื่องที่ทำยอดทะลุพันล้าน ทุกองค์ประกอบ รายละเอียด การดำเนินเรื่องของตัวละครทุกตัวถือว่าดีมากๆ ค่ะ
สนุก ความมันส์ ความฮา รวมถึงความรัก ความเศร้า มีทุกรสจริงๆ ค่ะ
เรื่องนี้ ให้คะแนน 9.5 ไปเลยค่ะ