รีวิว มนต์เลิฟสิบหมื่น
สวัสดีจ้าวันนี้แอดจะมารีวิวหนังเรื่อง รีวิว มนต์เลิฟสิบหมื่น คนไทยหลายคนคงรู้จักคุ้นเคยกับ “มนต์รักลูกทุ่ง” กับเพลง “สิบหมื่น” กันเป็นอย่างดี โดยเฉพาะเวอร์ชั่นละครทีวีปี 2538 ที่ ตั้ว-ศรัณยู วงษ์กระจ่าง เป็น รีวิวหนัง มนต์เลิฟสิบหมื่น “พี่คล้าว” และ น้ำผึ้ง-ณัฐริกา ธรรมปรีดานันท์ เป็น “ทองกวาว” ในปี 2558 นี้
ผู้กำกับอารมณ์ดี ปริภัณฑ์ วัชรานนท์ หรือ โต๊ะ พันธมิตร หัวหน้าทีมพากย์พันธมิตร ก็นำเรื่องราวความรักอมตะมาปัดฝุ่นใหม่อีกครั้ง เป็นหนังตลกทันสมัยกับชื่อใหม่ไฉไลว่า “มนต์เลิฟสิบหมื่น” หรือ #LoveU100k ไอ้คล้าว หนุ่มบ้านนายาจก (นิว-ชัยพล จูเลี่ยน พูพาร์ต) กับทองกวาว ลูกสาวเศรษฐีใหญ่ประจำตำบล (แพรว-เฌอมาวีร์ สุวรรณภานุโชค)
เป็นคู่รักที่รักกันหวานฉ่ำปานจะกลืนกิน แต่ติดตรงที่มี ไอ้เจิด (ปูไข่-พงศ์สิรี บรรลือวงศ์) เป็นเสี้ยนหนามหัวใจ
คอยจ้องแต่จะแย่งทองกวาวไปจากไอ้คล้าว และชอบดูถูกไอ้คล้าวว่ายากจน ที่สำคัญยังมี นายทองก้อน (ปั๋ง-ประกาศิต โบสุวรรณ) พ่อบังเกิดเกล้าของทองกวาว รังเกียจรังงอน
ความจนของไอ้คล้าว พยายามกีดกันขัดขวางความรักของทั้งสอง ไม่ยอมยกลูกสาวให้เว้นแต่ไอ้คล้าวจะหาสินสอดมาให้ได้ “สิบหมื่น!”
ไอ้คล้าวต้องพยายามหาเงินสิบหมื่นไปสู่ขอทองกวาวยอดรัก โดยมีเพื่อนรักอย่าง ไอ้แว่น (แจ๊ส ชวนชื่น), บุปผา (บูม-ชญาภา พงศ์สุภาชาคริต), ไก่ชนขี้เรื้อนคู่ใจ และเพื่อนร่วม
แก๊งร่วมก๊วนคอยรวมหัวกันช่วยเหลือให้ทั้งสองได้ครองคู่กันสมปรารถนา หนังไทยเก่าน่าดู
ตอนดูเทรลเลอร์หนังเรื่องนี้นี่บอกตามตรงเลยว่าไม่อยากดูเลย เพราะเบื่อกับตำนานรักสิบหมื่นที่รู้เรื่องดีอยู่แล้ว และรู้สึกว่ามุกตลกในเทรลเลอร์มันทะแม่งๆ ล้นๆ เกินๆ
อย่างบอกไม่ถูก แต่เอาเข้าจริงๆ หนังมันก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิดเลยนะ แต่แค่มันไม่มีสาระอะไรเลย (55555+)
มนต์เลิฟสิบหมื่น เป็นหนังตลกที่ไม่มีสาระอะไรเลยอย่างแท้จริง แต่กลับตอบโจทย์เรื่องความบันเทิงได้เป็นอย่างดี มีมุกให้ฮาตลอดเรื่องชนิดที่แทบไม่ได้หยุดพักหายใจ มีทั้งมุกที่แป้กบ้างไม่แป้กบ้าง เก๊ตบ้างไม่เก๊ตบ้าง ฟังทันบ้างไม่ทันบ้าง (ขึ้นอยู่กับคนดูแต่ละคน) แต่โดยรวมเราว่าฮาใช่หยอก เหมือนกำลังนั่งดูตลกคาเฟ่
มุกแต่ละมุกคือคารมภาษาจัดจ้านกวนตีนสุดๆ สมแล้วที่เป็นหนังที่กำกับโดยพี่หัวหน้าทีมพากย์พันธมิตร
และนอกจากฉากตลกโปกฮาที่ทำถึงแล้ว ยังมีฉากบู๊มันๆ เท่ๆ (ปนฮา) อีกหลายช็อตที่ทำได้สนุกสุดๆ ฉากบู๊ส่วนใหญ่สนุกสมจริง ยกเว้น CG ไก่ที่ยังไม่ค่อยเนียนเท่าไหร่ แต่ก็
ไม่ได้ขัดหูขัดตาอะไร คุณภาพก็สมเหตุสมผลตามท้องเรื่องกันไป – สรุปคือมันก็ดีหมดทุกอย่างนะ เสียอย่างเดียวคือแค่ไม่มีสาระ…
บทของ ไอ้แว่น ตามบทแล้วต้องเป็นพระรอง หรือเพื่อนพระเอกคนหนึ่ง แต่คุณ แจ๊ส ชวนชื่น ขโมยซีนพระเอกตัวจริงไปแทบทั้งเรื่อง
รีวิว มนต์เลิฟสิบหมื่น
เราไม่เคยดูผลงานใดใดของคุณ แจ๊ส ชวนชื่น มาก่อนเลย แต่สำหรับบทไอ้แว่น เราว่าเขาทำได้ดี
ไม่ได้เยอะหรือล้นจนเกินไปอย่างที่ตอนแรกคิด เขาถือเป็นสีสันของเรื่องที่นำพาเรื่องไปจนถึงตอนจบได้โดยไม่น่าเบื่อ มุกส่วนใหญ่ของเขามันเวิร์คนะ บางมุกอาจจะไม่ได้ขำอะไรมากมาย แต่การแสดงทางท่าทาง สีหน้า และน้ำเสียงของเขามันมีพลังและอินเนอร์แรงจริง จนทำให้เราอดขำไม่ได้
ถึงแม้จะถูก ไอ้แว่น และไอ้ไก่ขี้เรื้อน ขโมยซีนไปบ้าง แต่พระเอกตัวจริงอย่าง ไอ้คล้าว หรือ นิว-ชัยพล ก็รู้ว่าจุดขายจุดแข็งของตัวเองอยู่ตรงไหน นิวสามารถงัดออกมาใช้ทุกเม็ดอย่างเด็ดดวง ไม่ว่าจะเป็นรอยยิ้มพิมพ์ใจ แววตาหวานฉ่ำ ท่าทางยียวนกวนตีน
หรือกล้ามซิกแพ็กชนิดโชว์เน้นๆ (คุ้มค่าตั๋วสุดๆ ก็ตรงนี้แหละค่ะ) แถมยังจัดเต็มเซอร์ไพร์สแฟนๆ ทั้งการร้องเล่นเต้นระบำ นิวโชว์สเต็ปได้น่ารักมาก นิวเล่นได้โคตรเป็นธรรมชาติ เหมือนเล่นเป็นตัวเองยังไงยังงั้น (5555+) เราเชื่อว่าถ้าใครได้ดูนิวเล่นบทนี้ก็จะชอบนิวยิ่งขึ้น อย่างเราเอง… ออกจากโรงมา นี่ยิ้มไม่หุบไปครึ่งค่อนชั่วโมงกันเลยทีเดียว
สิ่งที่น่าสนใจคือผู้กำกับ โต๊ะ พันธมิตร พยายามใส่ความเป็นตัวเขาเองลงไปในหนังด้วย กล่าวคือตัวละคร ไอ้แว่น เป็นนักพากย์หนังเหมือนกับเขาเลย นอกจากนี้ ในหนังพระเอกกับพระรองของเรายังได้พากย์หนังเรื่อง อินทรีแดง ฉบับ มิตร ชัยบัญชา อีกด้วย (FYI:มิตร ชัยบัญชา เคยแสดงเป็นไอ้คล้าวเมื่อปี 2513)
ยิงมุกแทรกมุกกันในบทพากย์มานาน วันนี้ทีมพากย์พันธมิตรเลยขอจัดเต็ม ขนมุกและทีมงานมาปล่อยกันในหนัง”มนต์เลิฟ สิบหมื่น” ที่หยิบเอา “มนต์รักลูกทุ่ง” มาดัดแปลงเป็น มิวสิคคอมมีดี้ ที่เน้นฮากันอย่างเดียว
ความรู้สึกหลังดู
ปริภัณฑ์ วัชรานนท์ หรือ โต๊ะ พันธมิตร นั่งแท่นผู้กำกับครั้งที่2 ครั้งแรกกับ “รักสุดทีน”เมื่อปี2012 รอบนี้ยกทีมพันธมิตรมาโชว์หน้าตากันหลายคน “น้าติ่ง”เจ้าของเสียงคุ้นหูมานับสิบปี ที่มักได้พากย์ตัวตลกในหนังจีน มารับบทกำนันติ่ง และ เกรียงศักดิ์ เหรียญทอง คนนี้เล่นเป็นตัวตลกหลายเรื่องแล้ว
เราจะคุ้นหูกับเสียงพี่เกรียงจากหนัง อู๋ม่งต๊ะ และสุรพร ใจรัก มารับบท คุณนายทับทิม เมียของเศรษฐีทองก้อน ไม่ค่อยมีบทบาทนักมายืนยิ้มๆมากกว่า
หนังหยิบ “มนต์รักลูกทุ่ง” มาใช้เป็นพล็อตหลักเท่านั้น
รถราเก่าๆ เสื้อผ้า มาสร้างบรรยากาศแวดล้อมได้ดี คงรักษาธีมของความเป็นมิวสิคัลดั้งเดิมไว้ ด้วยการสอดแทรกเพลงหลักของ มนต์รักลูกทุ่งไว้ แต่มาทำดนตรีใหม่ให้ทันสมัยขึ้น มีฉากร้องเพลงถึง5เพลงทั้งเพลงใหม่และเพลงเก่า ไม่ปู้ยี่ปู้ยำ ตัวละครหลักอย่าง ไอ้คล้าว ขนมุกและทีมงานมาปล่อยกันในหนัง”มนต์เลิฟ สิบหมื่น” ที่หยิบเอา “มนต์รักลูกทุ่ง” มาดัดแปลงเป็น มิวสิคคอมมีดี้ ที่เน้นฮากันอย่างเดียว
ทองกวาว,ทองก้อน ให้กลายเป็นตัวตลกปัญญาอ่อนเกินไป เพียงแต่เพิ่มตัวละครบรรดาเพื่อนๆของไอ้คล้าวมาเป็นตัวสีสันชงมุก และด้วยความที่เป็นหนังจากคนทำอาชีพพากย์ ก็ไม่ลืมที่จะใส่การพากย์หนังลงไปในเรื่องด้วย ด้วยการให้ ไอ้แว่น บทของแจ๊ส ชวนชื่น ทำอาชีพฉายหนังการแปลง เอาหนังเรื่อง “อินทรีทอง”
มาฉายและเอาการพากย์สดมาเล่นเป็นมุกได้อีกยาวๆ
นิว ชัยพล มารับบท พระเอกบ้านนอกย้อนยุคนี่ก็เรื่องที่2แล้ว ทั้งๆที่หน้าก็ลูกครึ่งชัดเจนขนาดนั้น ถ้านับ “จันดารา”อีก2ภาคด้วย นี่ก็ปาไป4เรื่องแล้วนะ ในฐานะที่ผ่านงานยากๆอย่าง
“แผลเก่า” มาแล้ว บทไอ้คล้าว นี่ก็เลยเล่นได้แบบสบายๆ จะมีแปลกใหม่เพิ่มเติมเข้ามาก็คือฉากที่ต้องเต้นร้องเพลงไปด้วย เรื่องนี้ นิว ได้เจอกับคู่ปรับเก่ารอบ2 ปูไข่ พงศ์สิริ ที่เคยรับเป็น “ไอ้จ้อย” ตัวร้ายจาก “แผลเก่า” ที่เคยประชันกันมาแล้วรอบหนึ่ง ,นางเอก แพรว เฌอมาวีร์ นี่มาสวยใสมุ้งมิ้งอย่างเดียวไม่มีซีนเด็ดๆให้เธอได้โชว์ฉากจดจำเลย เราเชื่อว่าถ้าใครได้ดูนิวเล่นบทนี้ก็จะชอบนิวยิ่งขึ้น อย่างเราเอง… ออกจากโรงมา นี่ยิ้มไม่หุบไปครึ่งค่อนชั่วโมงกันเลยทีเดียว
อย่าไปเรียกร้องคาดหวังสาระ ดราม่า อะไรนะครับ หนังขายความฮากันอย่างเดียว นานๆได้ดูหนังตลกเปลี่ยนแนวจาก โก๊ะตี๋ น้าค่อม มาเจอมุกแนวทางอื่นแบบไม่หยาบคายเกินไปนักบ้าง หนังหาจังหวะลงโรงได้ดีครับ สัปดาห์ต่อท้าย ant-manก่อนที่สัปดาห์หน้าก็จะเจอ Mission impossible มาไล่บี้แล้ว