รีวิว ฤดูที่ฉันเหงา

รีวิว ฤดูที่ฉันเหงา

“Movie On That’s Day” หนังเรื่องนี้ฉายเมื่อวันนั้น เป็นการพาทุกคนย้อนกลับไปให้ชวนคิดถึงผลงานหนังเรื่องดังที่เคยออกฉายที่โรงภาพยนตร์เมืองไทย เป็นคิวของหนังรักจากไทยที่มีความโดดเด่นทั้งเรื่องราวและเพลงประกอบภาพยนตร์ รีวิวหนัง ฤดูที่ฉันเหงา LOVE IN THE RAIN ) ที่ยังมาพร้อมกับทีมนักแสดงชั้นนำที่น่าสนใจ และเป็นผลงานขโมยซีนอีกเรื่องที่น่าประทับใจของ “น้าค่อม ชวนชื่น” ด้วย

ฤดูที่ฉันเหงา เรื่องราวของ นารา สาวมัธยมวัยใสที่หัวใจกำลังเป็นสีชมพู เธอสามารถเดินเข้าออกร้านตัดผมได้เป็นว่าเล่น เพียงเพราะกำลังตกหลุมรัก เดซี่ หนุ่มหล่อมาดนิ่งเจ้าของร้านตัดผมใกล้บ้าน ผู้ซึ่งทำอะไรก็ดูดีไปหมด เช่นเดียวกับ คุง หนุ่มน้อยร่างใหญ่นิสัยมึนๆ ที่ทำตัวเป็นเงาตามตัว นารา แทบจะเรียกได้ว่ามี นารา ที่ไหนก็ต้องมีเงาของ คุง ที่นั่น ไม่ผิดเป็นแน่

เงาก็คือเงา เพราะ คุง เองก็ไม่เคยจะคิดเสนอหน้าให้ นารา ได้ตกใจเล่น คุง จึงไม่เคยมีตัวตนในสายตาของ นารา เลย มันคงเดาได้ง่ายดายถ้าให้ นารา เลือกระหว่าง คุง กับ เดซี่ แต่ความรักมันไม่ได้ยอมให้ใครมีสิทธิ์เลือก เมื่อ เดซี่ เองก็ยังคงมีสาวลึกลับ แจน สาวเซอร์มาดนิ่งที่แอบมาวิ่งเล่นให้ป่วนหัวใจ แจน มักใช้ร้านตัดผมของ เดซี่ เป็นที่หลบหนาวจากสายฝนเสมอ การที่ได้พูดคุยถกเถียงปัญหาต่าง ๆ กันขณะตัดผมก็ทำให้ทั้งคู่เกิดความรู้สึกดีๆ ที่มีต่อกัน แต่เหมือนว่า เดซี่ จะเป็นฝ่ายหยิบยื่นความรู้สึกดีๆ ให้ แจน อยู่ฝ่ายเดียว

เว็บดูหนัง

คุง ก็เริ่มหันไปสร้างความสนิทสนมกับ นักดนตรีอิสระ เจ้าของบ้านที่อยู่ตรงข้ามบ้าน นารา ที่มักจะออกมาเล่นดนตรีเปิดหมวกให้คุงได้พบเจอแค่ตอนฝนตก เพราะเป็นเวลาเดียวที่เขาจะออกจากบ้านเพื่อมารอคอยใครบางคนที่เขาเคยเจอแค่เพียงครั้งเดียว และยังแอบหวังว่าเธอคนนั้นจะย้อนกลับมาหลบฝนตรงหน้าเขาอีกสักครั้ง

เมื่อการที่ได้สนิทสนมกับ แดน ทำให้ คุง มีโอกาสเสนอหน้าให้ นารา ได้ตกใจเล่นอยู่บ่อย ๆ โดยที่ แดน เองก็เหมือนจะไม่ได้ช่วยอะไร คุง แต่อย่างใด หรือว่าช่วยทางอ้อม! เพราะตำแหน่งของบ้าน แดน สามารถมองเห็นบ้าน นารา ได้อย่างชัดเจน เลยเหมาะอย่างยิ่งที่จะเอาไว้ให้ คุง แอบส่อง นารา นั่นก็คือเหตุผลที่ คุง เลือกที่จะตีซี้กับ แดน แต่ แดน อยากจะซี้ด้วยไหม

นี่คือผลงานการกำกับและเขียนบทเรื่องที่ 2 ของนักร้องหนุ่ม “แดน วรเวช” ที่พรั่งพรูด้วยไอเดียในเรื่องราวที่เขาอยากจะถ่ายทอดออกมา อีกทั้งเขายังร่วมแสดงในหนังเรื่องนี้ด้วย ร่วมด้วยนักแสดงมากมาย ไม่ว่าจะเป็น “โทนี่ รากแก่น”, “นารา เทพนุภา”, “แป้งโกะ จินตนัดดา”, “ออย ธนา” และ “แจ็ค เฉลิมพล”

นอกจากนี้ ตัวหนังยังมีเพลงประกอบภาพยนตร์ที่เพราะๆ หลายเพลง ไม่ว่าจะเป็น “ฤดูที่ฉันเหงา”, “รักแท้ได้แค่ส่งไป”, “ฟ้าสีเทา” หรือ “ให้ฉันมีเธอนานๆ” แม้ว่าหนังจะไม่ได้ประสบความสำเร็จแบบเปรี้ยงปร้างอะไรเท่าไหร่ แต่ก็กวาดเงินไปได้ราวๆ 25.7 ล้านบาท จากการออกฉายตั้งแต่วันที่ 9 พฤษภาคม 2556

ท่ามกลางหนังบ็อกซ์บัสเตอร์ฮอลลิวูดมากมายวันนี้เราจะพามาา ดูหนังออนไลน์ ไทยกันอีกเรื่อง ซึ่งก็คือเรื่อง “ฤดูที่ฉันเหงา” โดยหนังเรื่องนี้จะใช้โลเคชั่นของวันที่ฝนตกเป็นส่วนใหญ่ ไม่ใช่สิ…เรียกได้ว่าทั้งเรื่องเลยก็ว่าได้ เพราะเขาว่ากันว่าฝนตกนั้นทำให้คนเหงาจริงไหม? เรื่องนี้ไม่มีใครตอบได้ แต่ว่าส่วนมากในทุกๆความเหงานี้คงจะเป็นผลมา

จากเรื่องราวของความรักแทบทั้งนั้น ไม่รู้ว่าเพราะฝนทำให้คนเหงา หรือเพราะว่าความเหงานั้นทำให้ฝนตกกันแน่ จะยังไงก็ตาม…วันนี้เรามาพักสมองและปล่อยอารมณ์ไปกับหนังสบายๆสมองกันเรื่องนี้กันเลยดีกว่า

“ฤดูที่ฉันเหงา” จะบอกเล่าเรื่องราวของความรักที่มากับฝนของเด็กสาวอย่าง “นารา” (รับบทบาทโดย นารา เทพนุภา) โดยเธอนั้นกำลังหลงรักผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งก็คือ “เดซี่” (รับบทบาทโดย โทนี่ รากแก่น) เจ้าของร้านตัดผม นั่นทำให้นาราเดินเช้า-ออกร้านตัดผมร้านนี้เป็นว่าเล่นเลย ในเวลาเดียวกันนาราก็มีชายหนุ่มร่างใหญ่อย่าง “คุงงี่”

รีวิว ฤดูที่ฉันเหงา

มาหลงรักซะงั้น แต่ว่าคุงงี่นั้นกลับไม่เคยอยู่ในสายตาของนาราเลยแม้แต่น้อย ทางด้านนารานั้นก็ยังคงเดินหน้าจีบเดซี่ต่อไปเรื่อยๆ แต่ว่าใครจะไปทราบว่าเดซี่นั้นมีใจให้กับ “แจน” (แป๊งโก๊ะ จินตนัดดา) หญิงสาวลึกลับที่คอยมาหลบหนาวจากสายฝนที่ร้านของเดซี่เสมอ ส่วนคุงงี่นั้นก็เริ่มหันมาสร้างความสนิทสนมกับนักดนตรีอิสระ (รับบทบาทโดย

แดน-วรเวช) เจ้าของบ้านที่สามารถเห็นบ้านของนาราได้อย่างเห็นได้ชัด เพื่อที่คุงงี่จะได้คอยแอบส่องนาราได้นั่นเอง เรื่องราวจะเป็นอย่างไรถัดไป พวกเขาจะสมหวังในความรักไหม ติดตามดูได้ในหนังเรื่อง “ฤดูที่ฉันเหงา” ได้เลย

เป็นไปไม่ได้เลยที่คนคนหนึ่งจะตัดผมได้ทุกวัน แต่สำหรับ “นารา” (นารา เทพนุภา) ก็ไม่แน่!! สาวมัธยมวัยใสที่หัวใจกำลังเป็นสีชมพู เธอสามารถเดินเข้าออกร้านตัดผมได้เป็นว่าเล่น เพียงเพราะกำลังตกหลุมรัก “เดซี่” (โทนี่ รากแก่น) หนุ่มหล่อมาดนิ่งเจ้าของร้านตัดผมใกล้บ้าน ผู้ซึ่งทำอะไรก็ดูดีไปหมด เช่นเดียวกับ “คุง” (แจ๊ค แฟนฉัน) หนุ่มน้อยร่างใหญ่นิสัยมึนๆ ที่ทำตัวเป็นเงาตามตัวนารา แทบจะเรียกได้ว่ามีนาราที่ไหนก็ต้องมีเงาของคุงที่นั่น ..ไม่ผิดเป็นแน่!!

เงาก็คือเงา เพราะคุงเองก็ไม่เคยจะคิดเสนอหน้าให้นาราได้ตกใจเล่น คุงจึงไม่เคยมีตัวตนในสายตาของนาราเลย มันคงเดาได้ง่ายดายถ้าให้นาราเลือกระหว่างคุงกับเดซี่ หึ หึ!!

แต่ความรักมันไม่ได้ยอมให้ใครมีสิทธิ์เลือก เมื่อเดซี่เองก็ยังคงมีสาวลึกลับ “แจน” (แป้งโกะ – จินตนัดดา ลัมะกานนท์) สาวเซอร์มาดนิ่งที่แอบมาวิ่งเล่นให้ป่วนหัวใจ แจนมักใช้ร้านตัดผมของเดซี่เป็นที่หลบหนาวจากสายฝนเสมอ การที่ได้พูดคุยถกเถียงปัญหาต่างๆ กันขณะตัดผมก็ทำให้ทั้งคู่เกิดความรู้สึกดีๆ ที่มีต่อกัน แต่เหมือนว่าเดซี่จะเป็นฝ่ายหยิบ

ยื่นความรู้สึกดีๆ ให้แจนอยู่ฝ่ายเดียว
ส่วนคุงก็เริ่มหันไปสร้างความสนิทสนมกับ นักดนตรีอิสระ (แดน – วรเวช ดานุวงศ์)

เจ้าของบ้านที่อยู่ตรงข้ามบ้านนาราที่มักจะออกมาเล่นดนตรีเปิดหมวกให้คุงได้พบเจอแค่ตอนฝนตก เพราะเป็นเวลาเดียวที่เขาจะออกจากบ้านเพื่อมารอคอยใครบางคนที่เขาเคยเจอแค่เพียงครั้งเดียว และยังแอบหวังว่าเธอคนนั้นจะย้อนกลับมาหลบฝนตรงหน้าเขาอีกสักครั้งนึง

ได้ผล!! เมื่อการที่ได้สนิทสนมกับแดน ทำให้คุงมีโอกาสเสนอหน้าให้นาราได้ตกใจเล่นอยู่บ่อยๆ โดยที่แดนเองก็เหมือนจะไม่ได้ช่วยอะไรคุงแต่อย่างใด หรือว่าช่วยทางอ้อม!! เพราะตำแหน่งของบ้านแดนสามารถมองเห็นบ้านนาราได้อย่างชัดเจน เลยเหมาะอย่างยิ่งที่จะเอาไว้ให้คุงแอบส่องนารา

นั่นก็คือเหตุผลที่คุงเลือกที่จะตีซี้กับแดน แต่แดนอยากจะซี้ด้วยไหม นั่นก็อีกเรื่อง

ดูหนัง

รีวิว ฤดูที่ฉันเหงา

ความรู้สึกหลังดู

บทสรุปความรักของพวกเขาจะเป็นยังไง ฝนที่ตกลงในใจพวกเขาจะพาความชุ่มฉ่ำหรือความเศร้ามาให้ รักครั้งแรกของนาราจะมีน้ำตาไหม รักแอบๆที่แทบจะไม่เหลือเปอร์เซ็นต์ให้สมหวังของคุง  รักที่รู้จักกันผ่านบทสนทนาระหว่างตัดผมของเดซี่และแจนจะพัฒนาต่อไปได้ไกลแค่ไหน และการรอคอยความรักของหนุ่มนักดนตรีจะสิ้นสุดลงเมื่อไหร่ เสียงหัวใจของพวกเขาจะถูกบอกผ่านภาพยนตร์เรื่อง”ฤดูที่ฉันเหงา”
ไม่ว่าเราจะอยู่ในอารมณ์ไหน เมื่อฝนตกทีไรเหมือนทุกอย่างมันคูณสองไปทุกที ..สุขก็ยิ่งสุข ..เหงาก็สุดเหงา ..เศร้าก็แสนจะเศร้า ..แม้ในช่วงเวลานั้นมันจะไม่ใช่หน้าที่หรือฤดูที่ฝนจะต้องมาปฏิบัติงาน แต่สายฝนก็จะตกลงมาสร้างความทรมานหรือบรรยากาศดีๆ ให้เราเสมอ เช่นเดียวกับความรักที่ชอบทำให้เราตกหลุมรักและอกหักได้ตลอด ไม่เลือกหน้า ไม่มีเวลา ไม่บ่งบอกสถานที่ล่วงหน้า บางทีไม่ได้ต้องการ แต่ก็ดันมาเป็นแขกรับเชิญ
ดูเหมือนความรักมักเกี่ยวข้องกับสายฝน หรือสายฝนต่างหากชอบมีเอี่ยวกับความรัก
ถ้าจะให้หาคำตอบกันจริงๆ เราอาจจะมีคำตอบที่เป็นของใครของมัน ก็อย่างว่า.. มีแค่ตัวคุณเองเท่านั้นที่รู้ว่า สายฝนที่กำลังโปรยปรายลงมานั้นมันทำให้ความรักของคุณชุ่มฉ่าหรือกำลังเปียกปอน เพราะคำตอบขึ้นอยู่กับว่าในขณะนั้น ..คุณอยู่ในอารมณ์ไหน
แต่ก็ได้ไปดู “ฤดูที่ฉันเหงา” มาเมื่อวาน ก็ขอรีวิวคร่าวๆ สเผ้นแนวทางสำหรับคนที่หาหนังชมในช่วงนี้ครับ
รีวิว ฤดูที่ฉันเหงา
– หนังเรื่องนี้ หนังตัวอย่างทำออกมาได้ดูน่าสนใจครับ ใช้เพลง “ฤดูที่ฉันเหงา” ของวงฟลัว ซึ่งตรงกับชื่อหนังและเข้ากันเป็นอย่างดี นักแสดงก็น่าสนใจครับ ทั้ง โทนี่ รากแก่น แจ๊ค แฟนฉัน แป้งโกะ น้องนารา และแดน วรเวช ซึ่งเป็นผู้กำกับหนังเรื่องนี้ด้วย
– ผลงานการกำกับของแดน ที่ผ่านมาคือ “คืนวันเสาร์ถึงเช้าวันจันทร์” ต้องบอกว่ามีลักษณะเฉพาะพอสมควร ถึงแม้จะดูคล้ายกับหนังของยอร์ช ฤกษ์ชัย ไปบ้าง แต่ดูเหมือนหนังจะเน้นเรื่องรักมากกว่าหนังพี่ยอร์ช ทำให้หนังเรื่องนี้ ผมก็มีความคาดหวังบ้างพอสมควร เพราะอยากดูหนังรอมคอมดีๆ ยิ่งเพลงเพราะแบบนี้ยิ่งน่าสนใจ
– พอได้ชม ต้องบอกว่า หนังเรื่องนี้ กลายเป็นหนังของแดนอย่างแท้จริงไปแล้วครับ ไม่ใช่สาขาหนังของหนังพี่ยอร์ชเหมือนที่ผ่านมา ความชัดเจนตรงนี้คือการเน้นภาพสวยๆเหมือนใน MV เพลงเพราะๆ แต่การเชื่อมโยงของเนื้อเรื่องดูแปลกๆ เหมือนหนังมีแต่โครง ตัดเป็นท่อนๆคล้าย  MV จังหวะตลก ไม่ได้ใช้ตลกแบบ 3 ช่องขายหัวเราะสไตล์พี่ยอร์ชอีกต่อไป มาอาศัยแจ๊ค แฟนฉัน เป็นตัวหลักในการสร้างเสียงฮา ซึ่งหลายครั้งก็ดูล้นและพยายาม มากไปหน่อย
– หนังเรื่องนี้เน้นเรื่องราวของความเหงา ซึ่งในจังหวะที่เน้นอารมณ์เหงา ทำได้ดีครับ แต่การปูพื้นมาก่อนค่อนข้างน้อย
อารมณ์เลยไปไม่ถึง ตรงนี้น่าเสียดาย เพราะการเล่าเรื่องสไตล์ MV ใช้เพลงและเนื้อเพลงช่วยส่งอารมณ์คนดู แต่ในหนัง ต้องมีเรื่องราวมากกว่านั้น เลยการเป้นหมือนการดูหนังที่ต้องอาสัยเพลงที่จะโผล่มาในช่วงนั้น สร้างอารมณ์ ซึ่งผิดแปลกจากหนังที่ไปที่เสียงเพลงเป็นส่วนเสริม
– คู่น้องนารากับแจ๊ค ผมมองว่าถ้าไม่ให้แจ๊คแสดงประหลาดขนาดนั้น น่าจะดีกว่านี้นะครับ เพราะดูแล้วตัวแสดงออกเพี้ยนๆ ติงต๊อง ผมว่าน่าสมเพชมากกว่าขำ ผมว่าให้แจ๊คแสดงดราม่าให้หนักกว่านี้ แจ๊คก็น่าจะทำได้นะครับ ส่วนน้องนาราแสดงได้ดีครับ ในหลายๆฉากทั้งสายตา อารมณ์ ถือว่าใช้ได้ ดูดีมีอนาคต
รีวิว ฤดูที่ฉันเหงา
– คู่ของโทนี่ (ที่ในเรื่องชื่อเดลซี่) กับแป้งโกะ คู่นี้ก็แปลกอีกครับ จากต้นเรื่องไปจนถึงท้ายเรื่อง มันดูโหว่ๆ ที่มาที่ไปดูแปลกๆ พฤติกรรมที่โทนี่ทำตั้งแต่กันเจอครั้งแรกก็แปลกๆ เหมือนเล่าประเด็นที่ต้องการเล่า คู่นี้เหมือน MV มากครับ รวดเร็วฉับไว ไม่เคลียร์ ต้องใช้เพลงช่วยเสริม การแสดงของโทนี่ซึ่งปกติจากที่เห็นในหลายเรื่องจะดูสบายๆ แต่ในเรื่องนี้้จะดูขี้เก็กมากๆ เข้าใจว่าถูกสั่งให้เล่นแบบนี้ ส่วนแป้งโกะ น่ารัก เอ๊ย แสดงใช้ได้ครับ เมื่อมองว่าเป็นการแสดงครั้งแรก ส่วนประเด็นความรักที่ต้องการสื่อ พอตอนจบ งงครับ ถามหลายคนก็งง ตรงนี้เป็นปัญหาจากบทและการเล่าเรื่องที่ไม่เคลียร์ น่าเสียดายครับเพราะตอนจบของคู่ที่ทำได้ดีและถึงอารมณ์มากๆ
– ตัวแสดงที่ดูแปลกและแยกออกมาคือตัวของแดนนั่นแหล่ะครับ เอาตรงๆคือไม่มีก็ได้ ความเหงาในรูปแบบที่แดนพยายามนำเสนอ ต้องเคลียร์กว่านี้ ต้องทุบ ขยี้ ให้เศร้าและเหงากว่านี้ ลดความเท่ลงก็ได้
– ส่วนหนังย่อยที่ปรากฎในเรื่องนี้ ที่เคยมีใน “คืนวันเสาร์ถึงเช้าวันจันทร์” ผมว่าตอนที่อยู่ในเรื่องก่อน ตลกและสนุกกว่านี้ครับ
สรุป – สำหรับคนที่ชอบนักแสดงนำท่านใดท่านหนึ่งในเรื่องนี้ การเข้าไปดูถือว่าคุ้มค่า เพราะมีฉากที่ฟินมากๆหลายฉาก ดูแล้วจิกหมอนบิดไปบิดมาอย่างแน่นอน หรือชอบดูหนังที่ภาพสวยๆ เพลงเพราะๆ เหมือนดู MV เรื่องยาว ก็ถือว่าพอได้ครับ เพลงเพราะดี แต่สำหรับท่านที่ต้องการดูหนังเป็นหนัง
มีเรื่องราวชัดเจน มีที่มาที่ไป บทดีๆ หนังเรื่องนี้คงให้ไม่ได้ ซึ่งถึงแม้เรื่องนี้จะเพลงเพราะ ฟินเป็นช่วงๆ แต่ผมก็ยังชอบ “คืนวันเสาร์ถึงเช้าวันจันทร์” ซึ่งมีเรื่องราวและตลกมากกว่าเยอะ ตอนสุดท้ายของเรื่องนี้ ออกทะเลแบบเดียวกับ “คืนวันเสาร์ถึงเช้าวันจันทร์” นั่นแหล่ะ คงเป็นสไตล์ของแดนมั๊งครับ เอาจริงๆ เสียดายครับ หนังเรื่องนี้นักแสดงดี เคมีเข้ากัน เพลงเพราะ ภาพสวย แต่ควรทำหนังเป็นหนังไม่ใช่ ทำหนังเป็น MV นะครับแดน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *