รีวิว วัยเป้งง นักเลงขาสั้น
ด้วยตัวหนังแนวนักเรียนที่กำลังฮิตในขณะนี้ มาสู่จอใหญ่ กับหนัง แนวนักเรียนนักเลง ที่แฝงมิตรภาพ ศักดิ์ศรี และ สถาบัน ไปด้วย เป็นหนังแนวที่ดึงชีวิตจริง รีวิวหนัง วัยเป้งง นักเลงขาสั้น มานำเสนอได้เป็นอย่างดีระดับนึง ใครที่เรียนโรงเรียนชายล้วนมาก่อนจะยิ่งอิน แต่ก็ยังไม่ถึงกับสุดเท่าไหร่
ด้วยหนังที่เน้นนักแสดงหน้าใหม่เป็นหลัก และตัวหนังมีแต่ผู้ชาย (ขาดแคลนผู้หญิงในเรื่องมากๆ ผกกคงฟินตามๆกัน) เจาะกลุ่มนักเรียนชัดเจน มากกว่า คนที่มีอายุเท่าไหร่
หนังเรื่องนี้ จะสะท้อนชีวิตในวัยเรียน ของนักเรียนนักเลงได้เป็นอย่างดี
แต่ไม่ถึงกับเลือดสาดอะไรมากนัก เรียกได้ว่า ถ้าเทียบกับการต่อยกันของ ต่อ ฮอร์โมน แล้วจะเป็นคนละเรื่องเลย เพราะเรื่องนี้ เรียวกกว่ามากๆ และ นักแสดงตัวเด่นสองตัว ดึงดูดแบบสุดๆ โดยเฉพาะ ไอเจมส์ เล่นดีและกวนตีนมากๆ จนบางอยากจะเข้าไปกระทืบแทนพระเอก การแสดงหลายๆซีนนี่ ล่อตีนและอยากมีเรื่องด้วยสุดๆ
นอกเหนือจากนั้น เรื่องนี้ ยังมี ดิน ฮอร์โมน กับ ครูอ้อ ฮอร์โมน ซึ่งเล่นดีมากๆไปเลย เรียกว่า หลายๆนักแสดงหลักๆ กับ นักแสดงประกอบ ช่วยกัน พาหนังไปให้ไม่น่าเบื่อเลยทีเดียว
ติเรื่อง โปรดักชั่น บท และการลำดับเรื่อง มันดูธรรมดาเกินไปหน่อย หลายๆอย่างมีไม่เหตุมีผลและ บทสรุปในประเด็นที่ไม่สำคัญและสำคัญ มุมกล้อง แสง สี เสียง โอเคมาก แต่ไม่สามารถทำให้คนดูอินเข้าไปในบ้างบทของหนังได้เลย เสียดายตรงบทของหนังจริงๆ ส่วนเรื่องความฮา เรื่องนี้ยกขบวนกันเข้ามาเต็มเปี่ยม หลายๆฉากผมฮามากๆยังถึงตอนนี้ และ ฉากแอคชั่น ถือว่าทำได้ดีเลยทีเดียว
สรุป ไปดูเพลินๆได้ ถ้าเป็นสาวๆ อาจจะฟินไปตามกันเพราะผุ้ชายเยอะมาก แต่ถ้าเป็นผู้ชายก็แอบเซงเล็กน้อยเพราะผู้หญิงน้อยมาก แต่ก็ได้ความมันส์ของความเป็นชายล้วนเข้ามาแทน
สรุป2 หนังสามารถทำได้ดีกว่านี้ แต่ไปไม่ถึงฝั่ง จึงรู้สึกเป็นหนังธรรมดาเรื่องนึง แต่ถ้ามันเกิดก็เดิกเลย แต่ถ้าดับก็ดับเลยเช่นกัน อยู่ที่ว่า วัยรุ่น จะช่วยกันไปดูเรื่องนี้มากมายแค่ไหน ซึ่งคิดว่าถ้าวัยรุ่นพากันไปดูเยอะๆนี้ เรื่องนี้อาจทำรายได้ได้หลายบาทอยู่
โลเคชั่น : เลือกได้ดีและพอเหมาะ ซึ่งเป้นวัยรุ่นสยามตีกัน จึงเน้นที่สยามเป็นส่วนใหญ่ แต่แปลกตรงที่ ตีกันอย่างเยอะแต่ข้าวของรอบตัว ไม่เสียหายเลย แถม นักเรียนที่ตี ฟื้นตัวเร็วมากๆราวกับมีพลังในการฟิ้นฟู กลับไปเติมเลือดที่บ่อน้ำและออกมาลุยต่อได้ทันที ต้องบอกได้ว่า อึดกันทุกคนเลย แถมรอยแผลเก่าก็หายอย่างรวดเร็ว
การหยิบหนังไทยสักเรื่องมาวิจารณ์นั้นเรียกได้ว่าสุ่มเสี่ยงต่อการโดนอคติล่วงหน้าไปแล้วไม่มากก็น้อย
เขียนเชื่อว่าการวิจารณ์นั้นไม่ได้มีแต่การ “ด่า” ว่าหนังเรื่องนั้นย่ำแย่แต่อย่างใด แต่อันที่จริงแล้วการวิจารณ์ก็เป็นแค่เพียงการเสนอมุมมองบางอย่างของคนดูหนังประกอบกับเหตุผล และเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าบางครั้งการพูดถึงหนังไทยก็เป็นการ “สะท้อน” อุตสาหกรรมการทำหนังไทยว่าปัจจุบันวงการแผ่นฟิล์มบ้านเรามีการพัฒนาไปถึงไหนกันแล้ว
กลับมาเข้าเรื่องของ หนังวัยเป้งนักเลงขาสั้น ผลการงานกำกับภาพยนตร์ของพชร์ ภเศฐชื่อใหม่ของพี่พจน์ อานนท์นั่นเอง ตัวหนังบอกเล่าเรื่องราวของการยกพวกตีกันของเด็กนักเรียนวัยมัธยมระหว่างกลุ่ม “เฟี้ยวฟ้าวมะพร้าวแก้ว” มีเป้งเป็นหัวหน้าแก๊ง และแก๊ง “ไส้เลื่อนสะเทือนติ่ง” มีติ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง โดยก่อนหน้านี้เป้งกับติ่งเคยเป็นเพื่อนรักและ
เรียนโรงเรียนเดียวกันมาก่อน แต่ก็เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ทั้งสองแตกหักกันและต้องเอาเรื่องกันอยู่ตลอดเวลา
เหตุการณ์ยิ่งบานปลายเมื่อเป้งถูกฝ่ายปกครองของโรงเรียนยื่นคำขาดว่าถ้าหากเขายังคงมีพฤติกรรมในการยกพวกตีกันอยู่ ทางโรงเรียนจะไล่เขาออก ประกอบกับน้องชายของ
เป้งอย่างป๋องแป๋งมีความฝันที่จะประกวดวงดนตรีเป็นของตัวเอง เขาจึงอัดคลิปวงของเขาปล่อยลงยูทูป ปรากฏว่าได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ยอดวิวพุ่งกระฉูด จนได้รับการติดต่อให้ไปเล่นเป็นวงเปิดในคอนเสิร์ตของศิลปินดัง ป๋องแป๋งดีใจมาก ทางฝ่ายติ่งทราบเรื่อง จึงยกพวกเตรียมบุกงานคอนเสิร์ต
รีวิว วัยเป้งง นักเลงขาสั้น
การหยิบยกประเด็นเรื่องเด็กวัยรุ่นยกพวกตีกันนั้นอาจจะไม่ใช่เรื่องใหม่ในสังคมไทย แต่สิ่งที่วัยเป้งนำเสนอเหตุผลของการยกพวกตีกันนั้น ตัวหนังก็ไม่ได้พยายามหาเหตุผลมากล่าวโทษเยาวชนที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ว่าพวกเขาทำไปเพราะความคึกคะนอง ศักดิ์ศรี หรือว่าอะไรก็ตาม พวกเขาเพียงต้องการจะค้นหาตัวเองและหาทางออกให้กับชีวิตเท่านั้น
อันที่จริงสไตล์หนังของพี่พชร์ ภเศฐ เราจะพบได้ว่าในหนังแทบทุกเรื่องของเขาจะมีการผูกบทอย่างหลวมๆและเหตุการณ์หนึ่งของเรื่องก็สามารถโยงไปสู่อีกเหตุการณ์หนึ่งได้อย่างอัศจรรย์ ตัวละครในหนังบางตัวก็ไม่ได้มีความสลักสำคัญอันใดเพียงเพื่อใส่เข้ามาเพื่อจุดประสงค์เดียวนั่นก็คือการสร้างเสียงหัวเราะคั่นฉาก
สิ่งที่น่าสนใจในหนังเรื่องนี้อีกหนึ่งอย่างก็คือการใส่ตัวละครคู่เกย์อย่าง มูฟวี่(ภาสกร สารรัตนะ) และซีรีส์ (สุรวิชญ์ เรืองยศ) ซึ่งแต่ละคนต่างก็อยู่คนละแก๊งแต่ทั้งคู่กลับตกหลุมรักกัน จริงๆหนังก็ไม่ได้สร้างจุดพลิกผันให้กับตัวละครนี้สักเท่าไหร่ เหมือนถูกใส่เข้ามาเพื่อเอาใจสาว Y ให้ดูฉากผู้ชายสองคนจูบกันเสียมากกว่า ในขณะที่ฉากไคลแมกซ์ก็เปลี่ยน
ให้ทั้งคู่ต่อยตีกัน ก่อนจะลงเอยด้วยการกลับมารักกันเช่นเดิม (นี่มันหนังต่อยจูบหรืออย่างไร)
แต่ในขณะที่เรามองหาความสมเหตุสมผลจากหนังเรื่องนี้ไม่ได้เท่าไหร่นัก การแสดงของเมย์ ภัทรวรินทร์ ทิมกุลในบทแม่ของเป้งและป๋องแป๋งนั้นก็เรียกได้ว่า แม้ตัวละครนี้จะไม่
ได้ลุ่มลึกมาก แต่การแสดงแสดงในบท “แม่” ของเธอก็เรียกได้ว่าซีนอารมณ์ที่ใช้อารมณ์หนักๆมากนั้น เธอแสดงออกมาได้ดีพอสมควรและเกือบเอาคนดูสะเทือนใจและน้ำตาไหลไปพร้อมๆกับเธอเลยทีเดียว น่าแปลกเช่นกันที่หลายต่อหลายฉาก เธอเป็นเหมือนตัวละครที่แสดงอะไรเยอะๆล้นๆเกินๆ แต่ในฉากที่เรียกร้องการแสดงอารมณ์ดราม่า เธอกลับแสดงออกมาได้อย่างเข้าถึงอารมณ์จริงๆ
ความรู้สึกหลังดู
เอาเข้าจริงวัยเป้งนักเลงขาสั้นอาจจะเป็นหนังในกลุ่มที่ “ไม่ต้องคิดอะไรมาก” หนังจะดูสนุกขึ้น กว่าที่ควรจะเป็น การมองข้ามความสมเหตุสมผลตามความเป็นจริงอาจจะช่วยทำให้คุณบันเทิงไปกับหนังได้ไม่น้อย และที่สำคัญคือสาวๆวัยทีนน่าจะชื่นชอบที่มีเด็กหนุ่มหน้าตาดีเป็นโหลมาทำให้สาวๆหัวใจชื้นกันไปอีกหลายวัน
ภาพยนตร์เรื่อง วัยเป้ง นักเลงขาสั้น เป็นภาพยนตร์ไทยแนวแอคชั่น คอมเมดี้ ผลงานการกำกับของ พชร์ อานนท์ ภาพยนตร์บอกเล่าเรื่องราวของแก็งค์วัยรุ่นมัธยมที่เกเร เลือดร้อนมัดจะหาเรื่องทะเลาะกันจนเกิดปัญหาเสมอ ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้นักแสดงมากความสามารถมากมายมาร่วมแสดงไม่ว่าจะเป็นนิก คุณาธิป ปิ่นประดับ รับบท เป้ง หัวโจกของแก๊งค์ เฟี้ยวฟ้าวมะพร้าวแก้ว เป็นคนนิ่งๆ ไม่ค่อยพูด มีอะไรไม่ถูกใส่ก่อนเลย
เป้งเป็นคนรักครอบครัวมาก และหลงรัก รุ้ง ซึ่งเป็นน้องสาวของแมว ฝั่งคู่อริ คนต่อมาคือ เน็ท สิรภพ มานิธิคุณ รับบท ป๋องแป๋ง น้องชายของเป้ง หัวโจกแก๊งค์ เฟี้ยวฟ้าว มะพร้าวแก้ว เป็นคนมีความฝันอยากมีวงดนตรีเป็นของตัวเอง คนต่อมาคือกาย กรกฤติ เหล่าตระกูล รับบทเป็น กัน เด็กมุทะลุ ลุยได้ทุกที่ขอแค่มีเพื่อน มีความฝันอยากเป็นนักดนตรี และชอบเล่นกีต้าร์ คนต่อมาคือโตส อรัสมันต์ จิตตะศิริ รับบท โตส เพื่อนสนิทของเป้ง
เรียกได้ว่าเป็นคู่หูของเป้ง มีเรื่องทุกครั้งเขาจะอยู่เคียงข้างเป้ง คนต่อมาคือโอ๊ต ภาสกร สารรัตนะ รับบท มูฟวี่ หนึ่งในแก๊งค์ เฟี้ยวฟ้าว มะพร้าวแก้ว เป็นคนติดเพื่อน รักแฟน คนต่อมาคือเจมส์ ภูวดล เวชวงศา รับบท ติ่ง หัวโจกในแก๊งค์ ไส้เลื่อน สะเทือนติ่ง เป็นคนใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา มีความเป็นผู้นำ ติ่งหลงรักรุ้ง คนต่อมาคือบิว กิตติพัฒน์
สมานตระกูลชัย รับบท แมว เพื่อนสนิทของติ่ง เป็นพี่ชายของรุ้ง
ไม่ว่าติ่งจะลุยที่ไหน แมวจะเป็นเหมือนมือขวา ที่อยู่เคียงข้างติ่งเสมอ และคนสุดท้ายคือเทป
วรชัย ศิริคงสุวรรณ รับบท แผ่นเสียง หนึ่งในแก๊งค์ ไส้เลื่อน สะเทือนติ่ง เป็นคนที่มีบุคลิกกวน ๆ แอบชอบเพื่อนสนิทของรุ้ง โดยภาพยนตร์เรื่อง วัยเป้ง นักเลงขาสั้น เป็นภาพยนตร์เมื่อปี 2560
ภาพยนตร์เรื่อง วัยเป้ง นักเลงขาสั้น เปิดเรื่องราวมาที่ 2 แก๊ง 2 โรงเรียน แก๊งเฟี้ยวฟ้าวมะพร้าวแก้ว มีเป้งเป็นหัวหน้าแก๊ง และแก๊ง ไส้เลื่อนสะเทือนติ่ง มีติ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง ซึ่งก่อนหน้านี้ เป้ง กับ ติ่ง เคยเป็นเพื่อนรักกันมาก่อน แล้ววันหนึ่งมีเหตุให้ทั้งคู่แตกหักกัน และความเกลียดชังยิ่งมากยิ่งขึ้นเมื่อ รุ้ง น้องสาวของแมว จากแก๊งไส้เลื่อนสะเทือนติ่ง ที่ติ่งตามจีบอยู่ ไปคบกับเป้ง
ทั้งสองแก๊งยกพวกตีกันครั้งใหญ่ ส่งผลให้ทั้งสองแก๊งถูกฝ่ายปกครองของโรงเรียนตัวเองเชิญผู้ปกครองของทั้งสองฝ่ายมาว่ากล่าวตักเตือน และยืนคำขาดห้ามทั้งสองแก๊งสร้างเรื่องอีกเด็ดขาด บทสรุปของเรื่องราวจะเป็นอย่างไรติดตามชมได้ในภาพยนตร์เรื่อง วัยเป้ง นักเลงขาสั้น
ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ทำออกมาตามแบบฉบับของพชร์ อานนท์ เรื่องเนื้อไม่ค่อยมีอะไรซับซ้อน เน้นความฮาจากตัวนักแสดงแต่ละคน ใครยังไม่เคยดูลองหามาดูกันดูนะคะกับภาพยนตร์เรื่อง วัยเป้ง นักเลงขาสั้น
