รีวิว สารวัตรหมาบ้า
ท่ามกลางหนังไทยทุกวันนี้ที่วนเวียนแต่กับเรื่องรัก ผี ตลก ก็ได้เกิดหนังไทยเรื่องที่แตกต่าง ทั้งเรื่องราวและการนำเสนอ เพราะ สารวัตรหมาบ้า เป็นเรื่องราวของชีวิตของตำรวจที่นำเสนอด้วยภาพที่จริงจัง สารวัตรหมาบ้า ที่มาพร้อมกับโทนเรื่องที่ทำให้รู้สึกถึงหนังยุค 80 ที่ทำออกมาได้ดีทั้งภาพและเสียง ที่แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจจริงของผู้กำกับหน้าใหม่ ม.ร.ว. เฉลิมชาตรี ยุคล
นับเป็นความกล้าในการฉีกตลาดและเลือกที่จะทำอะไรตามความชอบและความถนัดของตัวเอง นั่นส่งผลให้สารวัตรหมาบ้าดูุโดดเด่นและมีจุดขายขึ้นมา แต่กระนั้นก็ต้องแลกกับหน้าหนังที่อาจไม่ต้องตาต้องใจตลาดมากนัก ซึ่งนั่นก็คงไม่ใช่ปัญหาสำหรับผู้ชมลองอะไรใหม่ๆ หรือผู้ชมที่ถวินหารู้รสชาติแบบหนังยุคเก่า
สารวัตรหมาบ้าเล่าเรื่องราวของฆาตกรรมต่อเนื่องที่เป็นคดีดังที่ประชาชนให้ความสนใจสารวัตรวสันต์(สมชาย เข็มกลัด) ถูกนำมาร่วมสืบคดีดังนี้ แม้จะมีเครื่องหมายคำถามจากเพื่อนตำรวจและสื่อมวลชนกับแนวทางการทำงานที่มักจะใช้ความรุนแรงในการทำงาน อย่างไรก็ดีเขาก็ยังมีที่มีผู้ช่วยผู้ภักดีอย่างจ่าทอง (โน๊ต เชิญยิ้ม) อยู่เคียงข้าง ในขณะที่
การสืบสวนคดีนี้ก็ได้นลิน (คริสตัล วี) ตำรวจหญิงเลือดใหม่ฝีมือดีเข้ามาช่วย ที่ดูเธอจะเข้ามาด้วยจุดประสงค์อะไรบางอย่าง และเมื่อวสันต์เริ่มสืบคดีนี้เข้าไปเรื่อยๆ เขากลับไม่รู้ว่าเขากำลังจะกลายเป็นเหยื่อของฆาตกรนี้ ที่เกี่ยวข้องกับอดีตที่เขาไม่มีวันลืม!
หนังทำได้ดีมากกับการจำลองบรรยากาศในหนัง การเลือกฉากและองค์ประกอบ รวมไปถึงการให้สีสัน ในแบบที่ดูก็รู้ว่าตั้งใจให้เก่า ซึ่งสิ่งที่ช่วยตอกย้ำในจุดนี้เข้าไปอีกก็คือเรื่องบทสนทนาระหว่างตัวละครที่เต็มไปด้วยประโยคเชยๆ และตรงไปตรงมาที่หาไม่ได้แล้วในตอนนี้
วิธีการถ่ายทำก็มีการนำเสนอมุมกล้องที่แปลกตาบ้าง รวมถึงมีฉากลองเทคโชว์ความสามารถด้านการถ่ายทำ การเลือกให้ความสำคัญกับเสียง ทำให้ฉากดวลปืนดูสมจริงและหนักหน่วง แบบไม่ต้องใส่เทคนิคพิเศษอะไรมากมาย
แม้หน้าฉากจะเป็นเรื่องของการสืบสวนสอบสวนเพื่อหาคนร้ายมาดำเนินคดีในสภาวะที่ถูกกดดันจากสื่อ สังคม และผู้บังคับบัญชา แต่หนังก็มีความลึกในการที่จะเสริมเรื่องราวของครอบครัว เพื่อนร่วมอาชีพ ลงไปที่ช่วยให้ความดราม่าของหนังเพิ่มขึ้นในระดับที่อาจทำให้ขณะชมรู้สึกเครียดขึ้นมาได้
สารวัตรหมาบ้า คือตัวอย่างของการไม่เลือกดาราที่โด่งดังในปัจจุบัน แต่เลือกนักแสดงที่เหมาะสมกับบทและสไตล์หนังของตัวเอง ที่ผลลัพธ์คือการได้ทีมนักแสดงนำที่ดี ที่ช่วย
ยกระดับหนังให้สูงขึ้นไปอีก ในส่วนของ เต๋าสมชาย เข็มกลัด ดูเหมือนว่าความรุนแรงที่เขาแสดงออกในชีวิตจริงจะมีส่วนดี ที่ทำให้บทบาทที่ต้องการพลังและอารมณ์ในการแสดงออกที่สูงอย่างสารวัตรวสันต์ กลายเป็นตัวละครที่มีชีวิตมีเลือดเนื้อ ซึ่งเมื่อหนังเฉลยปมเรื่องราวทั้งหมดออกมา ก็พอที่จะทำให้เราเข้าใจว่า ทำไมวิธีการสืบสวนของเขาจึงเหมือน คนพันธุ์หมาบ้าขนาดนั้น!
ดาราตลกที่ยกระดับตัวเองเหนือดาราตลกมานานแล้ว โน๊ต เชิญยิ้ม ก็ทำหน้าที่ได้ดี กับบทที่เป็นมือขวาให้กับพระเอก
ส่วนนางเอกของเรื่องอย่าง คริสตัล วี ก็ทำหน้าที่ได้ดีกับหนังภาษาไทยเรื่องแรก สมแล้วกับที่เคยแสดงหนังระดับนานาชาติมาก่อน ความทุ่มเทกับบทบาทของเธอน่าเอาใจช่วย แต่ถึงอย่างไรก็ยังมีข้อปรับปรุงในส่วนของดราม่าตอนท้ายที่ดูแล้วพลังยังอ่อนด้วยไปนิด เมื่อเทียบกับ ป๊อก ปิยธิดา กับบทภรรยาของสารวัตรวสันต์ที่ปรากฎตัวไม่กี่ฉากแต่ทุกครั้งก็สามารถสร้างความประทับใจได้
ถึงโทนเรื่องกับการแสดงจะทำได้ดี แต่การลำดับเรื่องยังเป็นปัญหา เพราะในขณะที่หนังให้เราติดตามการสืบสวนคดีของสารวัตรวสันต์ ก็กลับมีการนำเสนอเหตุการณ์บางอย่าง
เกี่ยวกับนักโทษที่กำลังจะถูกตัดสินประหารชีวิตที่พัวพันเกี่่ยวกับอดีตที่ไม่สวยงามนักของสารวัตรวสันต์ ซึ่งหนังพยายามที่จะบอกว่าเหตุการณ์ในปัจจุบันนั้นเกี่ยวข้องกับเรื่องของนักโทษประหารคนนี้ แต่การที่ไม่ได้บอกเงื่อนงำอะไรให้ผู้ชมติดตาม ทำให้เกิดความรู้สึกแปลกแยก
แต่พอเมื่อเหตุการณ์ทุกอย่างเฉลยออกมาก็รู้สึกว่าถูกต้องแล้วที่ใส่เรื่องราวของนักโทษประหารคนนี้ลงไป เพียงแต่วิธีการที่ใช้ในเรื่องถือว่ายังต้องปรับปรุงและในขณะที่หนังวางตัวเองเหมือนหนังที่ทำเพื่อรำลึกถึงอดีตนักยุคเก่า แต่กลับหลงลืมสิ่งที่ตัวเองกำลังทำ โดยบางสิ่งบางอย่างที่มันผิดยุคผิดสมัยลงไป เช่น การสืบสวนสอบสวนที่ดูทันสมัยเหลือเกิน ทั้งที่ยุคสมัยในหนังเทคโนโลยีที่ตัวละครเอ่ยอ้างน่าจะอยู่ในช่วงของการพัฒนาเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม สารวัตรหมาบ้า ก็ยังเป็นงานที่มีความน่าสนใจอยู่ในตัว และนับเป็นหนังไทยที่น่าดูน่าให้กำลังอีกเรื่องหนึ่ง กับผลงานกำกับชิ้นแรกของ ม.ร.ว. เฉลิมชาตรี ยุคล ที่ถือเป็นลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นจากผู้พ่อ แต่ก็มีความพยายามที่จะสร้างสรรค์งานตามแบบฉบับของตัวเอง และเป็นผู้กำกับหนังไทยอีกคนที่น่าจับตามองต่อไปนับจากนี้!
รีวิว สารวัตรหมาบ้า
– จากหนังตัวอย่างที่ได้ชม ต้องบอกว่า ภาพดูเก่าทั้งสไตล์โทน เข้าใจว่าเป็นการจงใจและตั้งใจของผู้กำกับคือคุณอดัม (ม.ร.ว.เฉลิมชาตรี ยุคล) บอกตามตรงว่าตัวอย่างหนังไม่ค่อยน่าสนใจและเชิญชวนให้อยากเสียเงินเข้าไปชมมากนัก แอบกังวลหน่อยๆว่าจะมีคนสนใจมากน้อยแค่ไหน
– พอได้ดูหนัง โดยก่อนดู ผมพยายามไม่อ่านข้อมูลของหนังมากนัก เพราะเกรงว่าจะมีข้อมูลมากกว่าผู้ชมทั่วๆไป แต่สิ่งที่พบได้ชัดเจนตั้งแต่แรกคือหนังเดินเรื่องไม่ช้า แต่ไม่ใช่เร็วแบบสไตล์หนังสมัยใหม่อย่างพวก The Social Network เป็นเร็วแบบสไตล์เก่า
ซึ่งตรงนี้ผมมั่นใจว่าคุณอดัมจงใจทำหนังให้สไตล์ดูเก่า เหมือนดูหนังในยุคก่อนๆ ซึ่งถือเป็นความกล้าหาญอย่างมากในยุคนี้ เพราะเชื่อว่าคนดูหนังในยุคนี้
คงชินกับการยิงกันแบบเป็นลูกกระสุนเป็นสาย ระเบิดลูกใหญ่ กราฟฟิก สโลวโมชั่น รถระเบิด ตึกถล่ม พื้นทลาย แต่เรื่องนี้ไม่ใช่เลยครับ
– เนื้อเรื่องว่าด้วยเรื่องของตำรวจสายสืบ ผู้มีชื่อเสียงในการทำงาน แต่หนังวางภาพให้เราเห็นรอบด้าน ทั้งการทำงาน ความกดดัน ครอบครัว การเสี่ยงชีวิตในการปฏิบัติหน้าที่ ฯลฯ ตรงนี้บทถือว่าเขียนมาได้ดี สมเหตุสมผลพอสมควรครับ
– ด้านภาพ ตรงนี้ต้องบอกว่าเป็นสไตล์เฉพาะจริงๆครับ เท่าที่สังเกตได้ มีการใช้ Long Take ในหลายๆฉาก ซึ่งหลังๆผมไม่ค่อยเห็นคนใช้มากนัก หนังจะออกโทนมืดๆ ทึมๆ เพราะส่วนใหญ่เป็นฉากตอนกลางคืนหรือในอาคาร แต่ผมชอบภาพครับ มันดูจริงดี
– ฉากต่อสู้แอ๊กชั่น ตรงนี้ก็ดูเก่า เวลายิงกันมันดูหนักแน่น เป็นจริง ต่อสู้ประชิดก็ดูใช้ได้ อาจขาดด้านความอลังการเหมือนเหมือนหนังแอ๊กชั่นฝั่ง Hollywood เชื่อว่าหลายคนคงมองว่าลงทุนน้อย แต่ผมมองว่ามันดูเป็นจริงมากกว่า และผมเห็นการใช้สโลวโมชั่นค่อนข้างน้อยมาก ซึ่งปกติจะมีมากมายในหนังแอ๊กชั่น ที่สำคัญ ทุกคนไม่ได้ดูเก่งเกินจริงเลยครับ ดูธรรมดา เจ็บได้ ไม่มีพวก Die Hard แต่อย่างใด
– ช่วงแรกหนังพาให้เราเห็นภาพตำรวจสไตล์ Bad Boy รุนแรง ดุเหมือนหมาบ้าตามชื่อเรื่อง แต่ช่วงกลางๆ
ความรู้สึกหลังดู
หนังเริ่มสับขาหลอกให้ผมสับสน เริ่มไม่มั่นใจในสิ่งที่เรามั่นใจมาแต่แรก เริ่มไม่แน่ใจว่า ใครดี ใครเลว และสับขาหลอกไปมา พอถึงจุดหักเห หักมุม ก็อึ้งเพราะมันกดดันและหดหู่มาก แต่ตรงการหักมุม ก็ไม่ได้เดาได้ยากนัก เพราะหนังก้ใบ้มาเป็นระยะๆ
– ส่วนที่ชอบมากคือความดราม่า ถึงจุดนึง หนังพาเราให้จมดิ่ง บีบเค้น อึ้ง ถ้าแทนตัวเองเป็นพระเอก ก็ต้องถามว่าถ้าเจอขนาดนี้ กดดันขนาดนี้ เราทุกคนก็คงทำไม่ต่างจากที่พระเอกทำ ทีสำคัญ เข้าใจเลยว่า ถ้าเป็นตำรวจ ต้องเจอกับอะไรบ้าง
– ในด้านการแสดง เต๋าทำได้ดีครับ พี่โน้ตก็เช่นกัน ป็อกและดาราท่านอื่นๆก็ทำได้ดี ส่วนดาราหน้าใหม่อย่าง คริสตัล วี ก็ถือว่าพอสอบผ่านครับ อาจจะยังมีแข็งๆบ้าง แต่ไม่ถึงกับทำให้หนังสะดุดแต่อย่างใด
– สิ่งที่สำคัญ ผมมองว่าหนังเรื่องนี้ทำให้เราเห็นภาพอีกด้านของตำรวจ ใช่ว่าคนเราจะมีแค่ขาวกับดำ ในเรื่องทุกคนก็มีสีเทาๆทั้งนั้นครับ ไม่มีใครดีพร้อม ไม่มีใครเลวสุด (จริงๆน่าจะมีเลวสุดแค่คนเดียว) และบางครั้งก็อยู่กับมุมมองด้วย ทุกคนมีเหตุผลของตัวเอง
แล้วอะไรล่ะคือความถูกต้องที่แท้จริง ดูแล้วก็สงสารตำรวจไทยครับ จะไปบุกจับคนร้าย เสื้อเกราะ ปืนดีๆ กล้องมองภาพกลางคืน ไม่มีสักอย่าง ไม่แปลกอะไรที่คนที่รออยู่เบื้องหลังต้องลุ้นรายวันว่าคนที่รักจะกลับมาหรือไม่
– ตอนจบ ชอบครับ เพราะในเมื่อผมดูคนๆนี้ตั้งนาน ยังไม่แน่ใจว่า จะเชียร์ดีหรือไม่ ดังนั้น จบแบบนี้ก็ดีอยู่แล้วครับ เว็บดูหนังฟรี ที่สำคัญ มันดูจริงมากๆ แต่ช่วงก่อนจบก็อึดอัดนิดหน่อยเพราะเริ่มดูคล้ายละครทีวี มันดูตื้นไปบ้าง จริงๆอยากได้การเฉลยการหักมุมที่คมกว่านี้ครับ
สรุป – หนังเรื่องนี้ไม่มีอะไรเกินจริง ไม่มี Super Hero ไม่มีตำรวจ Die Hard มีแต่ความจริงของตำรวจไทย ในรูปแบบที่ผสมผสานดราม่าได้อย่างเข้มข้น แต่จุดสำคัญคงอยู่ที่ว่า พร้อมที่จะยอมรับภาพสไตล์เก่า ไม่โม้ ดราม่าหนักๆ และโคตรจริงได้หรือเปล่า ที่สำคัญถึงจะมีพี่โน้ต แต่หนังไม่มีฉากตลกเลยนะครับ
คอหนังแอ็กชั่นดราม่าที่ชอบหนังสมัยยุค 60,70,80,90 น่าจะถูกใจ แต่คนที่ชอบแอ๊กชั่นแบบใหม่ๆ ทันสมัย ไฮเทค ระเบิดรถ ถล่มตึก ทลายพื้น คงต้องปรับตัวปรับใจก่อนชมครับ
“ไม่ยอมเสียอย่าง คงไม่เสียใจ” (หนังเรื่องนี้เล่าเรื่องของสารวัตรตงฉิน นำแสดงโดยเต๋า หัวโจก ตำรวจยอมหักไม่ยอมงอ ใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา มันไม่เคยเสียใจเลยที่ได้ซ้อมผู้ต้องหาให้เละคาตีน)
