รีวิว หลวงพี่เท่ง (2005) The Holy Man
อดีตนักเลงกลับตัวกลับใจเป็นพระ แต่ต้องเผชิญกับมารผจญอยู่ร่ำไป
หลวงพี่เท่งเป็นอดีตนักเลงเก่า แต่ปัจจุบันเป็นพระที่หวังจะพัฒนาชุมชนให้ดีขึ้น แต่กลับต้องเจอกับอุปสรรคเมื่อนักการเมืองยังต้องการให้ชาวบ้านพึ่งพาไสยศาสตร์ที่เป็นเรื่องหลอกลวง สำหรับเรื่องนี้คนดูหลายคนยกเครดิตให้กับเท่ง เถิดเทิงที่สามารถเล่นตลกหน้าตายให้คนหัวเราะกันจนท้องแข็ง ทั้งยังทำให้เรื่องสามารถดำเนินไปได้ด้วยดี นอกจากนี้ หลายคนยังชอบที่สามารถดึงเอาเรื่องราวคำสอนทางพุทธศาสนา สอดแทรกไปในเรื่องได้อย่างลงตัว และยังทำให้กลายเป็นหนังที่ดูได้ง่ายสำหรับผู้ชมทุก ๆ วัย
ประเภทหนัง
Comedy
นักแสดงนำ
พงษ์ศักดิ์ พงษ์สุวรรณ, โน้ต เชิญยิ้ม, สาวิกา ไชยเดช
ปีที่เข้าฉาย
2005
ความยาว
92 นาที
หลวงพี่เท่ง (อังกฤษ: The Holy Man) เป็นภาพยนตร์ไทยแนวตลกศาสนาฉายเมื่อปี พ.ศ. 2548 กำกับโดย โน้ต เชิญยิ้ม สร้างและจัดจำหน่ายโดย พระนครฟิล์ม เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกในภาพยนตร์ชุด หลวงพี่เท่ง แสดงนำโดย เท่ง เถิดเทิง, โน้ต เชิญยิ้ม, สราวุฒิ พุ่มทอง, สาวิกา ไชยเดช, สมชาย ศักดิกุล, เอ็ดดี้ ผีน่ารัก, สายัณห์ ดอกสะเดา, อ่าง เชิญยิ้ม, จุฑารัตน์ อัตถากร, มรกต มณีฉาย, เฉื่อย ระเบิดเถิดเทิง, อุบลวรรณ บุญรอด, จ๊อด เชิญยิ้ม, จเร เชิญยิ้มและวรวิทย์ ผ่องอินทรีย์ ภาพยนตร์ทำเงิน 141.7 ล้านบาท กลายเป็นภาพยนตร์ไทยแนวตลกเรื่องแรกที่ทำเงินมากกว่า 100 ล้านบาท[1]
หลวงพี่เท่ง (พงษ์ศักดิ์ พงษ์สุวรรณ) อดีตนักเลงเก่าที่ตอนนี้เปลี่ยนตัวเปลี่ยนใจมาบวชเป็นพระ ย้ายมาอยู่ที่วัดแห่งหนึ่ง ที่ซึ่งชาวบ้านกำลังเสื่อมศรัทธาในพุทธศาสนา ด้วยการหันไปพึ่งไสยศาสตร์ของแก๊งลวงโลกที่มี ท่านเพิ่ม (สมชาย ศักดิกุล) และพะเนียง (สาวิกา ไชยเดช) ลูกสาวที่หลอกเป็นเจ้าพ่อ หลวงพี่เท่งตั้งใจจะพัฒนาจิตใจชาวบ้านให้ดีขึ้นให้ได้ โดยมี มัคทายกส่ง (โน้ต เชิญยิ้ม) และเพี้ยน หรือ คุณมานะ (สราวุฒิ พุ่มทอง) 2 ลูกศิษย์วัดคอยช่วย แต่แล้ววันหนึ่ง เมื่อพะเนียงเกิดเปลี่ยนใจจะเลิกหลอกลวงชาวบ้าน ท่านเพิ่มจึงร่วมมือกับ นายพัฒนา (เฉื่อย เถิดเทิง) นักการเมืองท้องถิ่นที่จะลงสมัครเป็นนายก อบต. ใส่ความหลวงพี่เท่งให้ออกไปพ้นจากวัด หนังไทยเก่าน่าดู
หลวงพี่เท่ง นับเป็นภาพยนตร์เรื่องที่ 2 จากการกำกับเองของบำเรอ ผ่องอินทรีย์ หรือ โน้ต เชิญยิ้ม นักแสดงตลกชื่อดัง หลังจากไม่ประสบความสำเร็จมาแล้วจาก คนปีมะ ภาพยนตร์เรื่องแรกซึ่งเป็นผลงานก่อนหน้านั้น สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้สามารถทำรายได้จากการฉายถึง 141.7 ล้านบาท นับว่าเป็น 1 ในภาพยนตร์ไทยที่ประสบความสำเร็จทางรายได้อย่างมาก ลบคำสบประมาทที่ว่านักแสดงตลกมากำกับเองแล้วจะไม่ประสบความสำเร็จ จนต้องมีการสร้างภาคต่อมา คือ หลวงพี่เท่ง 2 รุ่นฮาร่ำรวย
หลวงพี่เท่ง เป็นภาพยนตร์แนวตลก เสนอวิถีชีวิตของชาวไทยในชนบทที่ละเลยศาสนาพุทธแต่ละกลับหันไปงมงายกับไสยศาสตร์ที่เกิดจากการหลอกลวง หลวงพี่เท่งพระหนุ่มที่พึ่งมาจำพรรษาที่วัดในชุมชนนี้จึงต้องต่อสู้กับความไม่รู้และความงมงายของชาวบ้าน สุดท้ายแล้วฝ่ายใดจะเป็นฝ่ายมีชัย
การเล่าเรื่องของเรื่องหลวงพี่เท่งดำเนินเรื่องอย่างเรียบง่าย มีการสอดแทรกมุขตลกตามรสนิยมคนไทย ได้รับคำวิจารณ์ว่า เท่ง เถิดเทิง แสดงได้ดีมาก มุขตลกในเรื่องไม่ถึงกับตลกจนน้ำตาเล็ด แต่ก็สามารถดูได้อย่างคลายเครียดได้ และมีข้อคิดอีกด้วย
แต่ก็มีบางส่วนเห็นว่า ไม่สนุกเลยและไม่ตลกด้วย รวมถึงการตัดต่อก็กระโดดไปกระโดดมา
ต่อมาได้มีการฉายทางโทรทัศน์ทางช่อง 3 ในรายการ หนังดังวันหยุด ในวันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553
หลวงพี่เท่ง เป็น 1 ใน 100 หนังไทยแห่งทศวรรษจากการสำรวจของนิตยสารไบโอสโคป
รีวิว หลวงพี่เท่ง (2005) The Holy Man
การที่หนังจะได้ร้อยล้านไปซะขนาดนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกครับ เพราะหนังมันฮาและแต่ละมุขก็เข้าใจง่าย ถูกใจผู้ชมบ้านเราอยู่แล้ว ไม่ต่างกับพวกผีหัวขาดหรอกฮะ ดังนั้นมุขฮาก็ประมาณนั้นน่ะแหละ
ส่วนเนื้อหา มันก็พอมีบ้างนะครับ ไม่ได้เบาซะทีเดียว จริงๆ แล้วตอนแรกทำท่าว่าจะเปี่ยมสาระเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน โดยการให้หลวงพี่เท่งได้สำแดงถึงปฏิภาณไหวพริบของตนเองในการแก้ปัญหา อย่างที่เราเห็นในตัวอย่างน่ะครับ ที่ขบวนแห่ขันหมากดันมาประจัญหน้ากับขบวนงานศพจนเกือบจะมีเรื่องเพราะต่าง ฝ่ายต่างไม่ยอมหลีกทางให้กันและกัน แต่แล้วหลวงพี่เท่งก็ได้ทำการเจรจาเทศน์ให้ฟัง แม้ถ้อยคำจะไม่ได้มีสาระอะไรมากมายก็ตาม แต่ก็น่าคิดไม่เลวนะครับ ฉากแรกนั้นเป็นการเปิดตัวหลวงพี่เท่งได้ดีมากเลยล่ะ ผมก็เริ่มมองหนังในแง่บวกขึ้นมาบ้าง
แต่ ไปๆ มาๆ ก็เข้าอีหรอบเดิมครับ เน้นฮาเข้าว่ามากกว่า และไอ้ฮาที่ว่านี่ถ้าใครดูพวกตลกคาเฟ่มาบ่อยๆ หรือเคยฟังน้าโน้ต เชิญยิ้มแกทอล์คโชว์มาบ้าง ก็น่าจะคุ้นครับ เพราะส่วนมากมุขก็เดิมๆ น่ะแหละ แต่ถึงกระนั้น เรื่องความฮาก็นับว่าพอตัวครับ คุ้มพอควรถ้านับเฉพาะเรื่องตลกนะ
ส่วนสาระ ก็อย่างที่บอกครับ แรกๆ ทำท่าจะน่าสนใจ แต่ซักพักก็เหมือนโดนกลืนหายไปเลย แต่ก็นั่นแหละครับ จริงๆ แล้วไม่ควรจะไปหวังตรงนี้มากนักน่ะครับ เพราะมันไม่ค่อยถึงอยู่แล้วล่ะ หนังมันเน้นฮาอ้ะ
ความรู้สึกหลังดู
บอกตรงๆ แรกผมก็หงุดหงิดนะ คือ อุตส่าห์ทำท่าจะมีสาระแล้วอ้ะ แต่ทำไมไม่ยอมทำให้มีเจ๋งกว่านี้ก็ไม่รู้ ไอ้ฮาก็ฮาไป แค่เพิ่มตรงสาระซักนิดหน่อยจะตายมั้ยล่ะครับ คือมันน่าเสียดายอ้ะ แล้วดูจากแนวโน้มผมว่าน้าโน้ตทำได้นะครับ แต่ไม่ทำซะล่ะมากกว่า เสียดายจริงๆ ครับ
แต่ก็ นะ ไม่รู้จะบ่นทำไมให้มาก ก้หนังมันออกมาแล้วอ้ะคับ ก็ดูเท่าที่มันมีนี่แหละ ตกลงก็คือ หนังมีมุขฮาแบบเดิมๆ น่ะครับ คลายเครียดได้พอประมาณ แต่เหมาะจะดูตอนลดน่ะครับ ซัก 80 อะไรเงี้ย หรือไม่ก็เช่าแผ่นมาดู น่าจะคุ้มกว่ากันเยอะนะ
สำหรับคำถามที่สงสัยกันว่า ทำไมร้อยล้าน… ผมก็ไม่รู้จะตอบยังไงล่ะครับ มันคงฮาโดนต่อมพี่ไทยล่ะมั้งครับ ฮาแบบไม่คิดมาก ซึ่งอาจจะพอดีกับความต้องการน่ะครับ ชาติไทยเราไม่ใช่ชนชาติคิดมากอยู่แล้ว อยู่ไปวันๆ หาเช้ากินค่ำ พอเศรษฐกิจคะมำก็ด่าแหลก ตั้งแต่รัฐบาลยันเพื่อนบ้าน ด่ากราดไปทั่วยกเว้นตนเอง … อ้าว นี่ผมไปไหนแล้วเนี่ย
ก็ตามนั้น น่ะคับ สรุปคือ เป็นหนังตลกที่เกือบจะมีอะไรมากกว่าความตลกครับ แต่สุดท้าย ก็อย่างที่ผมบอกน่ะแหละครับ อย่าไปหวังอะไรตรงนั้นก็แล้วกันครับ อย่างน้อย พิงค์กี้ก็สวย (อิอิ) ยิ่งไปกว่านั้นใช่ว่าหนังจะไม่มีอะไรเกินคาดซะทีเดียวนะครับ อิอิอิ เพระานอกจากพิงค์กี้แล้ว ยังมีอีกคน ก็น้องคนที่เล่นเป็นลูกสาวถั่วแระในเรื่องน่ะครับ ไม่รู้ใครนะ ผมหาชื่อในเครดิตท้ายเรื่องไม่เจอด้วย แต่น่ารักเหลือกำลังลากครับ อิอิอิ (หนังเกี่ยวกับพระกับเจ้า ผมยังไม่เว้นอีกหรือนี่ เฮ่อ)
ว่าตามจริง ผมอยากจะบ่นอีกเยอะนะครับ เพราะมันมีหลายๆ ส่วนที่น่าจะดีกว่านี้ อย่างปมที่ทำให้พระเท่งท่านบวชน่ะ หนังบอกผ่านๆ เท่านั้น ทั้งๆ ที่ถ้าจะทำให้แรงกว่านี้ก็ได้ หรือตอนจบที่มันแฮปปี้ แล้วจู่ๆ พวกตัวร้ายก็กลับใจมาบวชกันเกือบหมด คือไหนๆ ก็ไหนๆ ก็ทำให้มันสะกิดใจหน่อยดิคับ ให้คนดูได้คิดบ้าง (นี่ว่าจะไม่บ่นนะเนี่ย เอาจนได้) แต่ก็เอาน่ะคับ ทำใจ เขาทำแค่นี้มันก็้ได้แค่นี้แหละหนังทำขำขำ ไม่ใช่ขำคิด
ใบปิดภาพยนตร์
กำกับ โน้ต เชิญยิ้ม
เขียนบท ธีระธร สิริพันธ์วราภรณ์
อำนวยการสร้าง ธวัชชัย พันธ์ภักดี
นักแสดงนำ
เท่ง เถิดเทิง
โน้ต เชิญยิ้ม
สราวุฒิ พุ่มทอง
สาวิกา ไชยเดช
สมชาย ศักดิกุล
เอ็ดดี้ ผีน่ารัก
สายัณห์ ดอกสะเดา
อ่าง เชิญยิ้ม
จุฑารัตน์ อัตถากร
มรกต มณีฉาย
เฉื่อย ระเบิดเถิดเทิง
อุบลวรรณ บุญรอด
จ๊อด เชิญยิ้ม
จเร เชิญยิ้ม
วรวิทย์ ผ่องอินทรีย์
ปลาคาร์ฟ เชิญยิ้ม
กำกับภาพ วิเชียร เรืองวิชญกุล
ตัดต่อ สุนิตย์ อัศวินิกุล
ดนตรีประกอบ แอทโมสเพียร์
บริษัทผู้สร้าง
พระนครฟิลม์
ผู้จัดจำหน่าย พระนครฟิลม์
วันฉาย 3 มีนาคม พ.ศ. 2548
ความยาว 92 นาที
ประเทศ ไทย
ภาษา ไทย
ทุนสร้าง 10 ล้านบาท
รายได้ 141.7 ล้านบาท