รีวิว หลานม่า เอาล่ะช่วงนี้จะมีหนังไทยเรื่องนึงที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก เป็นเรื่องราวดราม่าที่ซาบซึ้งของครอบครัวนึง เด็กหนุ่มคนนึงเป็นคนที่ชีวิตไม่เอาไหนแต่จู่ ๆ เขาก็รู้สึกว่าควรที่จะเปลี่ยนตัวเองเพื่อรับมรดกตกทอดของครอบครัว
บอกได้เลยว่าเรื่องนี้ถ้าใครอยากท้าพิสูจน์ว่าตนเองเป็นคนที่ไม่ว่าจะดูเรื่องไหนก็ไม่เคยร้องไห้ลองมาดูเรื่องนี้ดู รับรองเลยว่าคุณต้องมีน้ำตาตกอย่างแน่นอน เข้ารับชมหนังฟรีได้ที่ เว็บเถื่อน ดูหนังฟรี
รีวิว หลานม่า หนังไทยดราม่า เป็นเรื่องราวที่แสนจะอบอุ่น ของครอบครัวนึง
รีวิว หลานม่า บิวกิ้น รับบทเป็นใคร
พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล ชื่อเล่น บิวกิ้น เกิด 8 ตุลาคม พ.ศ. 2542 เป็นนักแสดง นักร้อง นายแบบชาวไทยเชื้อสายจีน อดีตนักแสดงสังกัดนาดาวบางกอก ปัจจุบันเป็นศิลปินสังกัด Billkin Entertainment มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักจากการรับบทเป็น หมอเต่า
ในละครเรื่อง My Ambulance รักฉุดใจนายฉุกเฉิน ในปี 2562 และ เต๋ จากภาพยนตร์ชุดต่อเนื่องทางโทรทัศน์เรื่อง แปลรักฉันด้วยใจเธอ บิวกิ้นเกิดเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2542 เป็นบุตรของพนัส อัสสรัตนกุล
หลานม่า และ พิงค์พร อัสสรัตนกุล บิวกิ้นเป็นลูกคนที่ 3 มีพี่ 2 คนชื่อ ธนิสร์ อัสสรัตนกุล ชื่อเล่น มิกกี้ และ พีรภาส อัสสรัตนกุล ชื่อเล่น วินนี่ บิวกิ้นจบการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาจากโรงเรียนเซนต์คาเบรียล
และจบการศึกษาระดับชั้นปริญญาตรีจากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต หลักสูตรนานาชาติ วิชาเอกการตลาด ด้วยเกียรตินิยมอันดับสอง ในระยะเวลาการศึกษา 3 ปีครึ่ง ติดตามการรีวิวของเราได้ที่ หนังไทยใหม่
เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร วันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 ณ อาคารกิติยาคาร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ในการเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรของบิวกิ้น มีแฟนคลับกว่า 5,000 คน ได้เข้าร่วมแสดงความยินดี พร้อมด้วยครอบครัว เเละเพื่อน ๆ
เข้าสู่วงการบันเทิงด้วยการเป็นนักแสดงในสังกัดนาดาวบางกอก จากการแนะนำของปิยะ เศวตพิกุล หลังจากนั้นก็เริ่มมีงานเดินแบบ ถ่ายแบบ ถ่ายโฆษณา และมีผลงานการแสดง เช่น ภาพยนตร์ชุดต่อเนื่องทางโทรทัศน์เรื่อง Please เสียงเรียกวิญญาณ
และ ภาพยนตร์เรื่องน้อง.พี่.ที่รัก และมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักมากขึ้น จากการรับบทเป็น หมอเต่า และร้องเพลง You Are My Everything ในละครเรื่อง My Ambulance รักฉุดใจนายฉุกเฉิน ภาพยนตร์ชุดต่อเนื่องทางโทรทัศน์เรื่อง แปลรักฉันด้วยใจเธอ นอกจากยังมีผลงานอื่นๆ เช่น การเป็นพิธีกรในรายการต่าง ๆ ทางยูทูบ ช่อง Good Day Official
รีวิว หลานม่า บิวกิ้นยังสานต่อสิ่งที่ได้เรียนมาจากมหาวิทยาลัยด้วยการเปิดบริษัท Billkin Entertainment หลังจากที่นาดาวบางกอกได้ปิดตัวลง ซึ่งเป็นบริษัทที่ดูแลตัวบิวกิ้นเองในฐานะศิลปินและนักแสดง ทั้งการรับงาน การผลิตงาน และส่วนอื่น ๆ ในอนาคต
บิวกิ้น พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล รับบทเป็น เอ็ม หลานชายสุดแสบคนเดียวของอาม่า ตัวเขาเป็นนักศึกษา ที่ตัดสินใจดรอปเรียนเพื่อมาทำอาชีพนักแคสเกม หวังสร้างตัวและเป็นเสาหลักของครอบครัว แต่ผลลัพธ์ดันออกมาไม่ตรงกับที่หวัง ทำให้ยังต้องพึ่งแม่
ใครรับบทเป็นอาม่าเหม้งจูในเรื่องนี้ หลานม่า
ยายแต๋ว อุษา เสมคำ รับบทเป็น อาม่าเหม้งจู ยายของเอ็ม มีลูกทั้งหมด 3 คน ปัจจุบันอยู่คนเดียวเพราะลูก ๆ ย้ายออกไปหมด ส่วนสามีก็ตายจากไปนานแล้ว
บทอาม่าในเรื่องนี้ หลานม่า ตัวละคร ก็เหมือนผู้สูงอายุทั่วไปในสังคม ฟีลวัยรุ่นสวัสดีวันจันทร์ทั่วไป ไม่ได้เคร่งครัดในขนบโบราณจนมากเกินไป ยังมีใจเปิดรับความสมัยใหม่อยู่บ้าง ตัวบทมาในแนวที่ว่าเมื่อโรคร้ายมาเยือนและความตายกำลังจู่โจม แล้วใครล่ะจะได้สมบัติไป อาม่าแสดงมิติทางอารมณ์ได้ดีดูแล้วลังเลว่า อาม่า รักใครมากที่สุด
การแสดงของยายแต๋ว ใน หลานม่า ถือเป็นการเดบิวต์ครั้งแรกในวงการแสดงภาพยนตร์ ในวัย 78 ปี โดยต้องร่วมงานกับนักแสดงที่มีประสบการณ์ในสายนี้มาพอสมควร
แต่ยายแต๋วก็เล่นได้กลมกลืน มีเสน่ห์ ครบทั้งสุข ฮา เหงา ซึ้ง ดูเข้าถึงจับต้องได้ ดูมีเลือดมีเนื้อมีชีวิต ไม่ว่าจะในบริบทของความเป็น ลูกสาว เมีย แม่ และ อาม่า ตัวละครนี้เรียนรู้ชีวิตและมีการ Coming of Age อยู่เสมอจนกระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิต
อุษา เสมคำ ชื่อเล่น แต๋ว เกิด พ.ศ. 2489 เป็นนักแสดง นักร้อง ปัจจุบันเป็นนักแสดง โดยภาพยนตร์ที่ได้รับความรู้จักมากที่สุดคือ หลานม่า ของค่าย GDH ที่รับบทเป็นอาม่าเหม้งจู้ อุษา จบการศึกษาระดับมัธยมจากโรงเรียนศึกษานารี
โดยช่วงนั้นยายแต๋ว เคยไปสมัครร้องเพลงกับวงสุนทราภรณ์ และได้โอกาสให้มาลองทดสอบอัดเสียงกับทางวง แต่สุดท้ายก็ไม่กล้าไป หลังจากนั้นยายแต๋วก็ได้ศึกษาต่อที่ บพิตรพิมุข แผนกวิชาภาษาต่างประเทศ แต่ก็เรียนไม่จบเพราะเนื้อหาค่อนข้างยาก ก่อนที่จะได้แต่งงานและเป็นแม่บ้านแบบเต็มตัว
อุษา เสมคำ คิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้
คำพูดของอุษา เสมคำที่เกี่ยวกับการเล่นหนังเรื่องนี้ หลานม่า เข้าโรงถึงวันไหน วันแรกที่ได้มาเจอบิวกิ้นครั้งแรก ยอมรับว่าไม่รู้จักเขามาก่อน แต่หลานๆ ที่บ้านบอกว่า เขาเป็น นักร้อง นักแสดงที่ดังมาก พอได้ร่วมงานกัน ได้เห็นความตั้งใจและเสน่ห์ของเด็กผู้ชายคนนี้
ก็เข้าใจทันทีว่าทำไมบิวกิ้นถึงเป็นนักแสดงที่โด่งดังและมีคนรักมากขนาดนี้ แม้แต่เราเองยังรู้สึกรักและผูกพันกับเขาเหมือนเป็นหลานแท้ๆ รู้สึกประทับใจ เพราะเขาน่ารัก เหมือนได้อยู่กับหลานตลอดเวลา
เขาคุยแหย่เล่นกับเราให้ไม่เหงา ทำให้เราได้หัวเราะสนุกสนาน แต่พอเริ่มทำงานคือจริงจัง ตั้งใจมาก สำหรับการทำงานกับคุณพัฒน์ประทับใจมากค่ะ เขาเป็นผู้กำกับที่น่ารักมาก เขาจะเดินเข้ามาให้กำลังใจเราตลอดเวลา
บางทีเราเริ่มเหนื่อย แค่มองตาเขาก็จะรู้ จะบอกให้เราพักแล้วค่อยเริ่มต้นกันใหม่ ความยากอีกอย่างในหนังเรื่องนี้คือต้องโกนผม ตอนแรกแอบลังเล แต่เพื่อให้สมบทบาท ก็เลยตัดสินใจโกนผมจริง เพราะอยากถ่ายทอดความรู้สึกของอาม่าในหนังให้ออกมาให้ได้
แนะนำตัวละครอื่น ๆ ในเรื่องนี้ หลานม่า
เจีย สฤญรัตน์ โทมัส รับบทเป็น ซิว แม่ของเอ็มและเป็นลูกสาวคนเดียวของอาม่า ปัจจุบันทำอาชีพเป็นพนักงานซุปเปอร์มาร์เก็ต เธอยอมออกจากการเรียน มาช่วยแม่(อาม่า)ขายโจ๊ก เพราะไม่อยากงอมืองอเท้า
ซิวพยายามทำทุกอย่าง แต่ก็ดูเหมือนแม่จะรักพี่ชายและห่วงน้องชายมากกกว่า ทำให้ซิวมีกำแพงต่อแม่ นี่คือภาพแทนของลูกที่พร้อมดูแลแม่อยู่เสมอ แต่ด้วยความเป็นครอบครัวคนจีนจึงถูกมองข้าม
ดู๋ สัญญา คุณากร รับบทเป็น กู๋เคี้ยง ลุงของเอ็ม ในเรื่องนี้ หลานม่า นักแสดง เป็นลูกชายคนโตของอาม่า ที่เป็นลูกรักและได้ดังใจแม่มากที่สุด เรียนดี มีอาชีพที่ดี มีครอบครัวดี ประสบความสำเร็จมากที่สุดในบรรดาพี่น้อง นี่คือภาพแทนของลูกที่มีเงินแต่ไม่มีเวลาให้แม่
บทนี้แอร์ไทม์และการแสดงไม่ได้เยอะ แต่ดูแล้วสัมผัสได้ถึงความสีเทา เพราะตัวละครนี้คิดว่าตัวเองพริวิเลจและเหนือกว่าพี่น้องอยู่แล้ว เมื่อไม่เป็นไปตามฝันจึงแสดงความเป็นสีเทาออกมา
ผือก-พงศธร จงวิลาส รับบทเป็น กู๋โส่ย น้าของเอ็ม ลูกชายคนเล็กของอาม่า มีนิสัยตลก เฮฮาไปเรื่อย ชอบเล่นไพ่เหมือนกับอาม่า ในบรรดาพี่น้องเขาคือคนที่ยังเอาตัวเองไม่รอดแถมติดการพนัน
เวลากลับมาหาแม่ ก็มาเพราะลำบาก มาขอเงินไปประทังชีวิต เขาคือคน Loser ที่ อาม่า ห่วงมากที่สุด ลูกคนนี้ถ้าไม่มาอยู่กับแม่จะดีที่สุดเพราะหมายความว่าเขาเอาตัวเองรอดแล้ว
ตู ต้นตะวัน ตันติเวชกุล รับบทเป็น มุ่ย ในเรื่องนี้ หลานม่า ออกโรง วันไหน ลูกพี่ลูกน้องของเอ็ม ญาติฝ่ายพ่อ เธอเรียนจบพยาบาลและรับหน้าที่เป็นกำลังหลักในการดูแลอากง ปู่ของเอ็ม ที่ป่วยติดเตียง หลังอากงตายมุ่ยได้รับรางวัลตอบแทนเป็นมรดกชิ้นใหญ่ เมื่อนำไปขาย ชีวิตของมุ่ยดีขึ้นทันที ทำให้เอ็มเห็นต้นแบบและอยากเป็นอย่างเธอบ้าง
บทนี้คือภาพแทนของวัยรุ่นที่ต้องมาจับเจ่า อับเฉา ดูแลคนป่วย ก็ลุคเธอมันให้ เพราะเอาใจเก่ง พูดดี เป็นมิตร แต่พออากงตาย มุ่ยก็รวยขึ้นทันที แต่ก็ยังหารายได้ต่อด้วยการทำ OnlyFans ควบคู่กับการรับงานดูแลคนป่วยสูงอายุต่อไป ตูเล่นบทนี้ได้ดี ทำให้เราอยากติดตามว่าลึก ๆ แล้วมุ่ยรักอากงไหม หรือรักแค่เงิน
เรื่องราวของ หลานม่า
ต่อด้วยเรื่องราวของเรื่องนี้ซึ่งในเนื้อหาของหนังเล่าถึงเอ็ม เด็กหนุ่มที่ชีวิตไม่เอาอ่าว วันหนึ่งเขาพบว่าลูกพี่ลูกน้องของตนอย่างมุ่ย ได้รับมรดกก้อนใหญ่เป็นบ้านราคาสิบล้านบาทจากอากง นั่นทำให้เอ็มจึงคิดแผนการได้ว่า
เขาเองก็จะกลับไปดูแลอาม่า ของตนเพื่อหวังได้มรดกก้อนโตบ้าง แต่เรื่องกลับไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะอาม่านั้นเป็นคนที่เรียกได้ว่าดื้อรั้น และไม่ฟังใคร นั่นทำให้เอ็มต้องพยายามทลายกำแพงที่อาม่าตั้งไว้ เพื่อให้ตนได้กลายเป็นที่หนึ่งของใจอาม่าในช่วงบั้นปลายชีวิต
หลานม่าเรียกได้ว่าเป็นการกำกับภาพยนตร์ หลานม่า เรื่องย่อ เรื่องแรกของพัฒน์ บุญนิธิพัฒน์ ภายใต้ชายคา GDH โดยเขาเคยฝากผลงานอันโดดเด่นไว้ในซีรีส์ Project S The Series ตอน SOS skate ซึม ซ่าส์
และฉลาดเกมโกง Bad Genius: The Series ซึ่งแต่ละเรื่องก็มักเป็นเรื่องราวของวัยรุ่นที่อุดมไปด้วยดราม่าครอบครัว อันเป็นเสมือนสนามซ้อมของการทำหนังครอบครัว ก่อนที่พัฒน์จะมาลงสนามจริงด้วยหนังเรื่องหลานม่า
และหนังก็เหมือนสับสวิตช์เดินหน้าเข้าหาความสนุกอย่างรวดเร็ว นั่นทำให้ครึ่งแรกของเรื่องหนังหลานม่าจะมีมวลอารมณ์ที่ผสมไปด้วยความเป็นโรแมนติ คอเมดี้อยู่สูง
ทว่าสิ่งที่เรากำลังดูคือไม่ใช่หนุ่มสาวจีบกัน แต่เป็นหลานชายหัวดื้อที่กำลังตามจีบอาม่าปากแข็ง ด้วยจุดประสงค์แอบแฝง แม้เรารู้จะว่าสิ่งที่เอ็มกำลังทำนั้นผิด แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเอาใจช่วยให้เอ็มได้กลายเป็นหลานรักของอาม่า
เรื่องราวของปมปัฐหาของคนในครอบครัว
การค่อย ๆ หยอดปม ปัญหา และสร้างสะพานของความสัมพันธ์ ทำให้พัฒนาของตัวละครนั้นขับเคลื่อนไปในแง่บวก เราจะได้เห็นว่าพวกเขาทุกคนล้วนมีปัญหา มีความผิดบาปในใจ ทว่าในตอนท้ายทุกคนก็ได้รับผลของการกระทำนั้น จนได้เรียนรู้
และมองข้ามความผิดของอีกฝ่าย ซึ่งนับเป็นการวางยาอันชาญฉลาดของพัฒน์ บุญนิธิพัฒน์ เพราะหนัง หลานม่า เต็มเรื่อง พาเราไต่กราฟไปจนถึงจุดที่อบอวลด้วยความสุข แม้กระทั่งฉากเรียกน้ำตา ที่เราไม่ได้ร้องไห้เพราะความเศร้า
แต่กลับร้องไห้เพราะความปีติ และอิ่มเอม ซึ่งการที่หนังอบอวลไปด้วยมวลความสุขตลอดเรื่องนี่แหละ นับเป็นอีกหนึ่งความสวยงามของหลานม่าที่เรียกได้ว่าทัชใจคนดูแทบทุกคน
รีวิว หลานม่า นักแสดงบาลานซ์อารมณ์ของตัวละครได้ดี
สิ่งหนึ่งที่ต้องชมเลยคือบทเอ็ม เพราะบิวกิ้นสามารถบาลานซ์น้ำหนักของตัวละครเอ็มได้ดีมาก มีทั้งความยียวนกวนโอ๊ย และน่ารักน่าชังในเวลาเดียวกัน
ทว่าความยากคือหากนักแสดงบาลานซ์อารมณ์ของตัวละครเอ็มได้ไม่ดี เอ็มจะเป็นหนึ่งในตัวละครที่คนดูเกลียดสุด ๆ อันเนื่องมาจากการกระทำของเขา ทว่าจุดนี้ถือว่าบิวกิ้นได้ดีทีเดียว เพราะมิติตัวละครที่เขาสร้างมาสามารถแบกเรื่องไว้ได้อยู่หมัด
และถึงแม้หนัง หลานม่า ผู้กำกับ จะสามารถเดาทางได้ แต่ระหว่างทางเต็มไปด้วยความเรียลอย่างน่าอัศจรรย์ใจ เห็นถึงเคมีของนักแสดงที่เล่นอย่างเป็นธรรมชาติ การอยู่ร่วมกันของตัวละคร โมเมนต์การต่อปากต่อคำของม่าหลาน
หรือแม้แต่บรรยากาศภายในบ้านที่อบอวลไปด้วยความเหงาและความคิดถึง หนังพาคนดูค่อย ๆ ไต่อารมณ์ไปตามตัวละคร และปล่อยให้ซึบซับอารมณ์ภายในใจ จนต้องเสียน้ำตาเป็นพัก ๆ เรียกได้ว่าอยู่ในจุดที่ทำถึง กินใจคนดู
อีกหนึ่งเสน่ห์ของเรื่องนี้นอกจากตัวละครที่เล่นสมบทบาทแล้ว สถานที่ที่ใช้ถ่ายทำก็ยังเป็นย่านเก่าแก่ เช่นตลาดพลู มีสถานที่แห่งความทรงจำของลูกหลานคนจีนมากมาย ทั้งวัด ทางรถไฟ และชุมชนบ้านเก่าแก่ของคนไทยเชื้อสายจีน
ในตลอดระยะเวลากว่า 2 ชั่วโมงของหนังเรื่องนี้ หลานม่า ตอนจบ บอกเลยว่าดีไม่มีอ่อม หนังใส่ความเรียบง่ายและความเรียลของชีวิตผู้คน เล่าผ่านเรื่องผ่าน อาม่าที่อยู่บ้านเก่าๆ รอลูกหลานมาเจอพร้อมหน้าในเทศกาลสำคัญ
ลูกหลานที่ออกไปหางานทำสร้างครอบครัว จนละเลยใครบางคนที่รออยู่ที่บ้าน ยามเมื่อทุกตัวละครมารวมตัวอยู่บ้านอาม่าในเทศกาลสำคัญ ทำให้ได้เห็นความอบอุ่นที่ชวนยิ้มออกมา บรรยากาศความธรรมชาติที่พบเห็นได้ทุกครอบครัว แต่เวลาดีๆ เหล่านี้จะคงอยู่อีกนานไหมนี่สิ
เล่าเรื่องราวของครอบครัวคนไทยเชื่อสายจีน
แม้หนังจะเล่าเรื่องราวของครอบครัวคนไทยเชื่อสายจีน แต่เชื่อว่าครอบครัวคนไทยเองจูนหนังติดได้ไม่ต่างกัน คุณอาจจะกลายเป็นลูกชายคนโตที่มีครอบครัวสุขสบาย, ลูกสาวคนกลางที่เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวสู้ชีวิต
และลูกชายคนเล็กชายโสดอารมณ์ดีมีแววเอาตัวไม่รอด หลานชายที่ไม่เอาไหนแต่ดูแลอาม่าอย่างเอ็ม หรือแม้แต่อาม่าที่รอพบหน้าลูกหลานรวมตัวกัน ไม่ว่าจะตัวละครไหนก็อาจทำคุณสะท้อนในใจจนเสียน้ำตา ทั้งบทและบรรยากาศนำพาให้เราอินตามได้แบบไม่รู้ตัว
ความรีู้สึกหลังรับชมเรื่อง หลานม่า
จากตามความรู้สึกที่ดูเรื่องนี้จบก็คือเรื่องนี้ เป็นหนังครอบครัว ที่มีคุณค่าในทุกๆ ด้าน อย่างไม่ต้องสงสัย เพราะเล่าเรื่องธรรมดาออกมาได้อย่างละเมียดละไม อบอวลไปด้วยความสุข ความเหงา และความซาบซึ้ง มีงานภาพที่สวยงามซึ่งช่วยถ่ายทอดย่านเก่าแก่อย่างตลาดพลูให้ออกมาดูอบอุ่น เข้ากับเนื้อหาของหนัง
ในเรื่อง หลานม่า สปอย การแสดง แทบไม่อยากเชื่อว่านี่คือผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกของ บิวกิ้น พุฒิพงศ์ เพราะเขาเล่นเป็นหลานม่าได้อย่างสมบทบาท และประชันฝีมือการแสดงกับแต๋ว อุษา เสมคำ นักแสดงวัย 76 ปีได้อย่างงดงาม
จนดูเหมือนหลานกับอาม่าจริง ยิ่งไปกว่านั้นพลังของนักแสดงทั้งสอง ยังดึงให้ผู้ชมรู้สึกเป็นครอบครัวของพวกเขาจริงๆ และทำให้ทุกการกระทำมีเหตุผล มีน้ำหนัก มีผลกระทบ จนอาจทำให้ผู้ชมเสียน้ำตาหลายฉาก
ส่วนคำโปรยของหนังที่เขียนว่า เรื่องจริงของทุกครอบครัว นั้น ไม่เกินจริงแม้แต่น้อย เพราะเรื่องของการเลี้ยงดูคนแก่ไม่ว่าจะหวังผลตอบแทน หรือไม่หวังอะไร รวมถึงเรื่องการแย่งมรดกระหว่างพี่น้องนั้น
เป็นเรื่องที่พบได้ในทุกครอบครัวจริง ๆ ซึ่งเรื่องนี้ สามารถสะท้อนทั้งแง่มุมที่ดีและไม่ดีออกมาได้อย่างครบถ้วน ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะอยู่ในครอบครัวจีน หรือครอบครัวไทยก็สามารถอินกับหนังเรื่องนี้ได้ไม่ยาก
อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ หลานม่า สนุกไหม อาจไม่ใช่หนังที่เหมาะกับทุกคน เพราะพล็อตเรื่องเน้นนำเสนอภาพชีวิตจริง และเน้นบทสนทนาแบบมนุษย์จริงๆ ซึ่งอาจมีมุกตลกน่ารักๆ ของอาม่ากับหลานเรียกเสียงหัวเราะในบางช่วงได้ แต่จะไม่มีมุกตลกที่ดูเกินจริงเหมือนกับหนังไทยทั่วไป ซึ่งอาจทำให้บางคนเบื่อได้
และใครรู้สึกว่าคนเฒ่าคนแก่ที่บ้านไม่ได้น่ารักเหมือนอาม่า ในหนัง ก็อาจจะไม่ชอบไปเลย เพราะเรื่องนี้เน้นความสัมพันธ์ของอาม่ากับลูกหลานตลอดทั้งเรื่อง
โดยรวมก็ถือว่าเรื่องนี้เป็นหนังที่มีคุณค่าทางจิตใจ และหนังทำหน้าที่พาเรากลับบ้านจริง ๆ การกลับมาครั้งนี้ของ GDH ถึงแม้จะยังไม่หลุดจากสูตรเดิม ๆ แต่เรียกได้ว่าทำถึง คุ้มค่าแก่การดูแน่นอน