รีวิว เลิฟยู โคกอีเกิ้ง
ย้อนกลับไปไม่นานวงการทึวีต้องสั่นสะเทือนกับละครโรแมนติกคอมเมดี้บอกเล่าเรื่องราวความรักความฮาของหนุ่มอีสานกับสาวลูกครึ่งแห่งบ้านโคกอีเกิ้งในละคร ผู้บ่าวอินดี้ ยาหยีอินเตอร์ รีวิวหนัง เลิฟยู โคกอีเกิ้ง ทางช่อง 7HD ที่ประสบความสำเร็จด้านเรตติ้งในยุคที่ดิจิทัลทีวีกำลังฟาดฟันกับแพลตฟอร์มออนไลน์อย่างดุเดือด และในเมื่อได้ส่วนผสมที่ลงตัวทั้งนักแสดงทรงเสน่ห์ชาวอีสานและเคมีของเวียร์-เซฟฟานี ก็ทำให้ ธงชัย ประสงค์สันติ สร้างเรื่องรักสุดฮาครั้งใหม่แห่งบ้านโคกอีเกิ้งอย่าง เลิฟยูโคกอีเกิ้ง เป็นหนังฉายโรงในสัปดาห์นี้
โดยหนังจะเล่าถึงความรักระหว่าง บักพล (เวียร์ ศุกลวัฒน์) นักมวยอีสานแห่งบ้านโคกอีเกิ้งที่ตกหลุมรัก แหม่ม (เซฟฟานี่ อาวะนิค) สาวลูกครึ่งอีสานอังกฤษคนสวยแต่ความรักครั้งนี้ก็ไม่อาจลงเอยด้วยดีได้เพราะ จอห์นนี (คริสโตเฟอร์ เซฟ) พ่อของแหม่มไม่ต้องการให้ลูกสาวคนเดียวต้องไปกัดก้อนเกลือกินและยังบังคับให้แหม่มแต่งงานกับลูกชายเพื่อนที่เป็นลูกครึ่งด้วยกันจนทั้งคู่ตัดสินใจหนีตามกันไปอยู่กรุงเทพ
ด้วยความเสียใจและฤทธิ์สุราบักจอห์นนีเลยประสบอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำจนตายกลายเป็นผีสุดเฮี้ยนหลอกหลอนและยังตามหลอกหลอนไปถึงบักพลถึงกรุงเทพจนกระทั่งทั้งคู่รู้ข่าวการตายของพ่อตาจอห์นนีบักพลและแหม่มจำต้องกลับไปที่โคกอีเกิ้งอีกครั้งเพื่อขอเคลียร์กับวิญญาณพ่อจอห์นนีและกลับไปสะสางหนี้ของบ้านแหม่มด้วยเชิงมวยขั้นเทพ
ธงชัย ประสงค์สันติ หรือพี่ธงแห่งวงสามโทนที่ช่วงหลังเทิร์นโปรมาเป็นผู้กำกับละครค่ายพอดีคำและประสบความสำเร็จกับการป้อนละครให้ช่อง7HD มาอย่างต่อเนื่องยังคงปรุงหนังอย่างเลิฟยูโคกอีเกิ้งให้ออกมาในรสที่คอละครผู้บ่าวอินดี้ยาหยีอินเตอร์คุ้นลิ้นได้เป็นอย่างดีโดยเฉพาะเสน่ห์ของนักแสดงเลือดอีสานที่แคสติงมาอย่างลงตัว
เวียร์ ศุกลวัฒน์ กับ เซฟฟานี ยังคงเคมีพระนางเข้ากันชวนให้คนดูฟินได้ตั้งแต่ต้นจนจบทั้งความขี้เล่นของเวียร์และรอยยิ้มเจ้าเล่ห์บวกยักคิ้วพิฆาตของเซฟที่ทำเอาเราจิกเบาะไปกับความน่ารักของทั้งคู่ได้ดี ส่วนตัวละครสมทบก็มาเสริมความฮาในแบบที่คนดูคุ้นเคยไม่ว่าจะเป็น หมวยอัญษนาในบทแม่ป้อนที่ยังคงความสวยฮาน่ามองเหมือนในละคร หรือจะเป็นสาวสวยอย่างฝ้ายสุภาพร มิสแกรนด์ปี 2016 ที่มาขโมยซีนและขโมยหัวใจหนุ่ม ๆ ไปได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
กระนั้นก็คงต้องยอมรับแหละว่าด้วยความที่บทหนังดูพยายามใส่ปมต่าง ๆ เข้ามามากมายก็เลยทำให้ภาพรวมของหนังไม่สมูธนักโดยเฉพาะสัดส่วนของเรื่องปมหนี้ของพ่อตาจอห์นนีก็ดูจะเป็นการอัดเข้ามาเพื่อให้เห็นว่าพ่อตาจะยอมรับลูกเขยได้อย่างเต็มใจได้ยังไงมากกว่า แต่หนังก็รอดจากความน่าเบื่อและสับสนด้วยสถานการณ์ความสนุกที่หนังประเคนมาแบบทะลึ่งตึงตังได้มากกว่าในจอทีวีก็เลยเหมือนเราได้ดูหนังจากจักรวาลโคกอีเกิ้งที่จอใหญ่มากขึ้นแต่ยังสนุกเหมือนเดิมมากกว่าจะมีอะไรแปลกใหม่
ประเดิมการเปิดค่ายหนังใหม่ประดับวงการหนังไทยอย่าง “บัลฟาโล ฟิล์ม” ของผู้กำกับและผู้จัดมือฉมัง “ธงชัย ประสงค์สันติ” ด้วยการนำเอาละครที่เคยทำเรตติ้งอันดับต้นๆ ของประเทศอย่าง “ผู้บ่าวอินดี้ ยาหยีอินเตอร์” มาแผ่ขยายดัดแปลงในรูปแบบหนังขึ้นจอใหญ่ใน “Love U โคกอีเกิ้ง” ที่ต้องยอมรับว่าหนังมาพร้อมกับครื้นเครงเป็นหนึ่ง ยิ้มเริงร่าและหัวเราะท้องแข็งให้กับมุกคลาสสิกที่ห่างหายไปนาน กลายเป็นงานในสไตล์ที่ผู้กำกับจับมายำจากประสบการณ์โดยตรง
ถึงแม้ว่า พี่ธง จะไม่ได้ทำงานป้อนให้กับสังกัดเดิมอย่าง ช่อง 7 อีกแล้ว แต่ก็ยังได้รับโอกาสดีๆ หยิบเอาผลงานที่สร้างชื่อให้กับค่ายละครตัวเอง มาพัฒนาเป็นหนังเรื่องแรกของค่ายหนังใหม่ของตัวเอง คงต้องอธิบายชัดๆ ก่อนว่าหนังแทบจะไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับเวอร์ชั่นละครเลย เพียงแค่หยิบเอาตัวละครหลักๆ จากในละครมาใช้เพียงเท่านั้น เพราะปูมหลังพื้นเพและเรื่องราวต่างๆ ของหนัง ได้ถูกนำมาปรุงแต่งสร้างเป็นเรื่องใหม่ทั้งหมด แตกต่างกันละครอย่างสิ้นเชิง
รีวิว เลิฟยู โคกอีเกิ้ง
Love U โคกอีเกิ้ง เป็นเรื่องราวของ บักพล คืนสู่บ้านเกิด แล้วมาพบว่า แหม่ม ลูกครึ่งสาวอีสานที่แอบรักมานานกำลังถูกพ่อ บักจอห์นนี่ ฝรั่งขี้เมา บังคับแต่งงานกับลูกครึ่งฝรั่งอีสานด้วยกัน ร้อนถึงเหล่าสมาชิกวงกลองยาวโคกอีเกิ้งเริงร่าครอบครัวบักพล นำโดย พ่อปั้น-แม่ป่อง ต้องเฮโลมาช่วยทำให้งานแต่งล่ม เป็นผลให้คืนนั้นบักพลจำเป็นต้องพาแหม่มหนี เข้ากรุงเทพ ทิ้งจอห์นนี่ให้เสียใจหันไปพึ่งเหล้าจนเกิดเรื่องราวน่าสะพรึงโดยที่สองหนุ่มสาวไม่คาดคิด
ความเฮี้ยนของผีจอห์นนี่-ผีฝรั่งเว้าอีสานตัวแรกของโลก ทำให้โคกอีเกิ้งขนหัวลุกและฮาป่วน ขณะที่บักพลกับแหม่มเกือบจะปล่อยใจคลุกวงในได้เสียเป็นผัวเมียก็ได้ข่าวว่าพ่อจอห์นนี่ตายแล้ว บักพลพาแหม่มกลับมาขอขมา แต่ผีจอห์นนี่ก็ยิ่งเฮี้ยนเล่นงานบักพลและครอบครัวหนัก บักพลจึงต้องพิสูจน์ความรักให้ว่าที่พ่อตาเห็นด้วยการเดิมพันชกมวยล้างหนี้ของบักจอห์นนี่ โดยมีแหม่มกับค่ายมวยศ.โคกอีเกิ้งของจอห์นนี่ และศักดิ์ศรีของชาวโคกอีเกิ้งเป็นเดิมพัน ศึกครั้งนี้ของบักพลช่างใหญ่หลวงนัก
เรียกได้ว่าหนังได้ทำการเซอร์วิสคนดูได้อย่างเต็มอัตรา เห็นได้จากการยัดใส่มุกคลาสสิกต่างๆ เข้ามา ที่แม้จะดูเชยไปสักหน่อยในยุคนี้ แต่ก็เห็นผลลัพธ์ได้ชัดว่ามุกอมตะพวกนี้…น่าจะยังยังเวิร์กกับกลุ่มคนดูหนังไทยในปัจจุบันอยู่ ลายเส้นที่เห็นชัดเจนจากผู้กำกับ ธงชัย ประสงค์สันติ ก็ถือก็หยิบเอาประสบการณ์ส่วนตัวมาใส่เอาไว้ ผู้กำกับเคยเป็นนักแสดงที่คร่ำหวอดในวงการมานาน เล่นหนังตลก-หนังผีมาก็เยอะ ดั้งนั้นเขาจึงเอาประสบการณ์ที่เคยผ่านมาของเขามาหยิบใส่หนังเรื่องนี้ได้อย่างเต็มที่
ทำให้ภาพที่ออกมาใน Love U โคกอีเกิ้ง กลายเป็นความครื้นเครงเชิงอลหม่านเต็มไปหมด ประหนึ่งเป็นการหยิบเอาจักรวาลหนังบ้านผีปอบกับผีแม่ม่ายมายำๆ ให้ทันสมัยขึ้นมาหน่อย แต่ก็ไม่ลืมที่จะให้กลิ่นอายความคลาสสิกเก่าๆ มาใส่เอาไว้ ที่เห็นได้ว่าก็ยังเป็นจุดที่ทำให้คนดูยังรู้สึกเอ็นจอยกับมุกเก่าๆ ที่ไม่ได้เห็นอะไรแบบนี้มาสักพักใหญ่แล้ว ทำให้เราได้เห็นบรรดาฉากเชยๆ อย่าง ผีตุ่มน้ำ, ผีขี่คอ หรือ ผีสิงรถ ออกมาเยอะแยะไปหมด แม้จะเชยแต่คนดูยังหัวเราะ
แต่เพราะการยัดใส่ฉากตลกๆ และมุกเข้ามาเพียบ กลายเป็นหนังที่มีหลากหลายรสชาติ และน่าจะหลายรสชาติไปสักหน่อย เลยทำให้หนังกลายเป็นความสะเปะสะปะในภาพรวมในที่สุด เห็นได้ชัดว่าภายในเวลาประมาณ 90 นาทีของหนัง ยังคงติดความเป็นละครมาอยู่เรื่อยๆ โทนของหนังที่ตัดสลับโหมดไปมาก็เป็นอีกจุดที่คอยตัดอารมณ์คนดูอยู่ไม่น้อยเช่นกัน กำลังวิ่งหนีผีอยู่ดีๆ ตัดไปเข้าฉากโรแมนซ์เลิฟซีนเคลิ้มๆ เสียอย่างนั้น…แบบนี้ก็ได้
ที่สำคัญของคือแก่นสารของหนังที่จริงๆ มีเพียงอยู่แค่นิดเดียว แต่กลับดูลากยาวไปด้วยการพยายามเซอร์วิสคนดูในฉากผีหลอกขบขัน ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นแนวหนังที่เหมาะกับคนไทย แต่อาจจะเวิร์คกว่าถ้าเป็นเมื่อสมัยก่อน และไม่ชัดว่าในสมัยนี้จะยังทำให้คนดูประทับใจได้อยู่หรือไม่ และจึงเป็นเหตุทำให้เจอปัญหาเดิมๆ ของหนังไทยก็คือบทหนังที่อ่อนปวกเปียกเป็นอย่างมาก
ความรู้สึกหลังดู
จะว่าไป Love U โคกอีเกิ้ง ก็เป็นหนังที่จับนั่นจับนี่มาผสมปนเปและคลุกๆ เข้าด้วยกัน เหมือนกินยำรวมมิตรที่ต้องมาลุ้นว่าจะอร่อยหรือไม่ แม้ว่าเมนูจานนี้ออกมาแล้วจะยังพอทานได้ แต่ก็ถือว่ายังให้รสชาติที่ขัดๆ อยู่ประปราย แต่ก็ยังถือว่าหนังยังชูและขับคาแรกเตอร์หลักๆ ของคู่พระนางออกมาได้ดีอยู่ โดยเฉพาะในด้านความสัมพันธ์ของทั้งคู่ที่ยังเน้นและขยายออกมาได้ค่อนข้างน่าพอใจ
“เวียร์ ศุกลวัฒน์” ก็ยังคงทำหน้าที่ของเขาได้ดี เขายังเป็นส่วนที่ดีที่สุดของหนังเรื่องนี้ หรือง่ายๆ เขาได้ทำหน้าที่แบกรับและเป็นส่วนขับเคลื่อนหนังเรื่องนี้ให้ไปได้ตลอดรอดฝั่ง ขนาดนี้ที่บทหนังยังตามส่งมาไม่ทันเขาเลยด้วยซ้ำ เขาจึงเป็นกำลังหลักของหนังเรื่องนี้จริงๆ ขณะที่นางเอก “เซฟฟานี อาวะนิค” แม้จะยังติดภาพความเป็นนางเอกละครอยู่หน่อย แต่ก็ถือว่าเธอยังทำได้ดีตามมาตรฐาน ไม่ถึงกับโดดเด่นและก็เป็นส่วนส่งเสริมหนังได้ดี
ขนาดนี้คาแรกเตอร์อื่นๆ ที่เสริมเข้ามาที่ล้วนแต่เป็นตัวละครที่มาจากฉบับละครแทบทั้งหมด ยังทำหน้าที่เป็นส่วนเสริมและเข้ามาปล่อยมุกคนละทีสองที ทั้งมุกได้บ้าง-มุกแป้กบ้าง แต่พวกเขาก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างเต็มที่ทุกคน โดยเฉพาะตัวขโมยซีน อย่าง “ปอยฝ้าย มาลัยพร” กับ “คริสโตเฟอร์ เชฟ” ที่นับว่าเป็นส่วนสำคัญที่สร้างสีสันให้กับตัวหนังได้เป็นอย่างดี
โดยสรุปแล้ว Love U โคกอีเกิ้ง ก็เป็นหนังไทยที่ยังคงมาตรฐานความเป็นหนังตลกไทยแบบที่คุ้นเคย มีทั้งผีและมุกคลาสสิกที่กลับมาให้เห็น แม้ว่าแก่นสารของหนังจะค่อนข้างล้มเหลวในการสื่อสารก็ตาม เพราะบทหนังยังเป็นจุดอ่อนหลัก แต่หนังก็สร้างความเอ็นเตอร์เทนให้กับคนดูได้อย่างเต็มที่ นับว่าเป็นการหยิบเอาละครมาหยิบมาขยายบนจอใหญ่อีกเรื่อง ที่อย่างน้อยก็ไม่ซ้ำจากฉบับละคร ก็ถือว่าเป็นหนังที่ดูได้เพลินๆ กับทีมนักแสดงที่เล่นเข้าขากันได้อย่างลื่นไหล
การกลับมาสานต่อความม่วนอีกครั้งบนจอภาพยนตร์กับทีมนักแสดง ‘ผู้บ่าวอินดี้-ยาหยีอินเตอร์’ ละครที่เคยทำเรตติ้งสูงสุดบนจอทีวีดิจิตอล ด้วยเรื่องราวใหม่ที่ไม่เคยถูกเล่ามาก่อน เมื่องานบุญจุดตะไล ประจำปีหมู่บ้านโคกอีเกิ้งกลายเป็นตีกันเละตั้งแต่ย่างแรกที่ บักพล (เวียร์ ศุกลวัฒน์) คืนสู่บ้านเกิด แล้วมาพบว่า แหม่ม (เซฟฟานี อาวะนิค)
ลูกครึ่งสาวอีสานที่แอบรักมานานกำลังถูกพ่อ บักจอห์นนี่ ฝรั่งขี้เมา บังคับแต่งงานกับลูกครึ่งฝรั่งอีสานด้วยกัน ร้อนถึงเหล่าสมาชิกวงกลองยาวโคกอีเกิ้งเริงร่าครอบครัวบักพล นำโดย พ่อปั้น-แม่ป่อง ต้องเฮโลมาช่วยทำให้งานแต่งล่ม เป็นผลให้คืนนั้นบักพลจำเป็นต้องพาแหม่มหนี เข้ากรุงเทพ ทิ้งจอห์นนี่ให้เสียใจหันไปพึ่งเหล้าจนเกิดเรื่องราวน่าสะพรึงโดยที่สองหนุ่มสาวไม่คาดคิด
ความเฮี้ยนของผีจอห์นนี่-ผีฝรั่งเว้าอีสานตัวแรกของโลก ทำให้โคกอีเกิ้งขนหัวลุกและฮาป่วนขณะที่บักพลกับแหม่มเกือบจะปล่อยใจคลุกวงในได้เสียเป็นผัวเมียก็ได้ข่าวว่าพ่อจอห์นนี่ตายแล้ว บักพลพาแหม่ม กลับมาขอขมา แต่ผีจอห์นนี่ก็ยิ่งเฮี้ยนเล่นงานบักพลและครอบครัวหนัก
บักพลจึงต้องพิสูจน์ความรักให้ว่าที่พ่อตาเห็นด้วยการเดิมพันชกมวยล้างหนี้ของบักจอห์นนี่ โดยมีแหม่มกับค่ายมวยศ.โคกอีเกิ้งของจอห์นนี่ และศักดิ์ศรีของชาวโคกอีเกิ้งเป็นเดิมพัน ศึกครั้งนี้ของบักพลช่างใหญ่หลวงนัก ผีจอห์นนี่จะยอมรับบักพล ให้เป็นลูกเขยหรือไม่ บักพลจะรอดหรือจะร่วงคาเวที ความสนุก ความฮา ความสยอง
ขนมากันครบ พร้อมตรึงให้ผู้ชมมาร่วมเชียร์และเป็นแรงใจร้องตะโกน เลิฟยู โคกอีเกิ้ง…8 ตุลาคม นี้ ในโรงภาพยนตร์
บทออกตัว
1. ไม่เคยดู ผู้บ่าวอินดี้ยาหยีอินเตอร์ มาก่อน เข้าใจว่าหนังใช้นักแสดงชุดเดียวกัน แต่คนละเนื้อเรื่อง
2. ผมเป็นแฟนคลับของ สามโทน ชอบศิลปินทั้งสามท่าน ครับ
จุดดีของหนัง
1. เป็นหนังตลก ภาพสวย เนื้อหาดูง่าย
2. นักแสดงทุกท่าน แสดงดี อยู่ในโทนเดียวกัน
3. คู่หลัก พี่เวียร์ กับ เซฟฟานี แสดงเข้ากันดีมาก พี่เวียร์ แสดงเป็นหนุ่มอีสานแบบจริงๆ ไม่ติดมาดพระเอก เซฟฟานี ดูสวย สมบท และมีเสน่ห์
4. คู่รอง แสดงเข้ากันดี เฉลี่ยบทได้ลงตัว พี่ปอยฝ้ายยังคงไว้ลายตลก มีบทพูดทีไรต้องมีขำ
5. นักแสดงพูดสำเนียงอีสานลื่นหูทุกคน
จุดที่ต่างจากที่คาดหวัง
1. แอบโดนตัวอย่างหลอก ตอนแรกคิดว่าจะออกแนวรัก ดราม่า สอดแทรกตลก แต่มาอีกแนวนึงเลย ก็ตลกดีเหมือนกัน ส่วนแนวไหนก็ลองไปดูครับ
สิ่งที่ชอบ
1. ดูแล้วคลายเครียด มีฉากฮาๆ มาเรื่อยๆ
2. ชอบนักแสดงทุกท่าน
3. ภาพสวยงาม
4. ชอบเพลงประกอบภาพยนตร์ เพลงเพราะและสนุกมาก