รีวิว เอหิปัสสิโก

รีวิว เอหิปัสสิโก

สวัสดีจ้าวันนี้แอดจะมารีวิวหนังเรื่อง เอหิปัสสิโก สำรวจอย่างเป็นกลางถึงมุมมองต่าง ๆ ต่อเหตุการณ์ในปี 2560 เมื่อพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ได้ถูกกล่าวหาว่าเข้าไปมีส่วนเกี่ยวพันกับคดียักยอกทรัพย์สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ผ่านการสัมภาษณ์ฝ่ายสนับสนุน และฝ่ายต่อต้าน รวมถึงสัมภาษณ์มุมมองของนักวิชาการที่มาตั้งข้อสังเกตต่อปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งสะท้อนถึงรากฐานความเชื่อ ความศรัทธา และหาคำตอบถึงบทบาทของศาสนาและความเชื่อในสังคมไทย เป็นหนังสารคดีไทยที่คนดูแน่นถึงแถวหน้า ไม่ค่อยได้เห็นบ่อย ๆ นะครับ

‘ไก่-ณฐพล บุญประกอบ’ คือผู้กำกับซึ่งเคยมีผลงานสารคดีเข้าฉายในบ้านเราแล้วก่อนหน้าอย่าง ‘2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว’ ว่าด้วยการวิ่งระดมทุนช่วยเหลือโรงพยาบาลรัฐจากเบตงถึงแม่สายของ ‘พี่ตูน’ ซึ่งกลายเป็นหนังยาวเรื่องแรกของณฐพล หลังเดินทางกลับมาจากเรียนต่อที่อเมริกาในสาขาภาพยนตร์สารคดีเพื่อสังคมที่ School of Visual Arts เมืองนิวยอร์ก

เว็บดูหนัง

ทว่าในความเป็นจริงแล้วก่อนหน้าการวิ่งของพี่ตูน (โครงการก้าวคนละก้าว ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. -25 ธ.ค. 2560) หลายเดือนนั้น ณฐพลกำลังซุ่มเก็บฟุตเทจในหนังที่เขาอาจตั้งใจเป็นหนังยาวเรื่องแรกมากกว่า ทว่าด้วยความยากของเรื่องราวและความคุกรุ่นของอารมณ์ในสังคมช่วงนั้น (ก.พ. 2560) ก็ได้ทำให้ ‘เอหิปัสสิโก’ หรือ ‘Come and See’ ที่ตัวชื่อแปลได้ว่า ‘จงมาดูเถิด’ หนังที่นำเสนอข้อถกเถียงทางสังคม ว่าด้วยประเด็น ‘วัดพระธรรมกาย’ จึงเพิ่งได้ทำออกมาเสร็จเรียบร้อยและได้รับการอนุญาตให้ฉายเมื่อไม่นานมานี้เอง

และแม้ในความจริงหนังจะเคยตระเวนฉายในเชิงเพื่อการศึกษามาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนก็ตาม แต่เมื่อจะนำเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ทางผู้สร้างก็ถูกขอให้ชี้แจงเพิ่มเติมจากกองเซนเซอร์ จึงทำให้เกิดความหวั่นใจว่า อาจเป็นอีกครั้งที่หนังเกี่ยวกับพุทธศาสนา อาจถูก ‘ห้ามฉาย’ หรือ ‘หั่นฉาก’ จนไม่เหลือเค้าเดิม แต่แล้วด้วยการพูดถึงอย่างกว้างขวางในที่สุดหนังก็ผ่านการตรวจและออกฉายในที่สุด และข่าวการอาจถูกห้ามฉายนี้เองที่ทำให้หนังอยู้ในความสนใจของผู้คนที่สนใจเรื่องวัดพระธรรมกายเป็นทุนเดิม

ยิ่งเมื่อพิจารณาว่า บัดนี้ได้ผ่านล่วงเลยมากว่า 4 ปีแล้ว อารมณ์ความคิดอคติและสถานการณ์แวดล้อมได้เปลี่ยนไป การได้มองย้อนกลับไปดูเหตุการณ์ดังกล่าวผ่านหนังสารคดีเรื่องนี้อีกครั้ง ย่อมเป็นสิ่งที่น่าสนใจอย่างที่สุดแน่นอน

และหนังของณฐพลก็ไม่ได้ทำให้ผิดหวัง หนังใช้ความยาว 85 นาที ได้อย่างดี ไม่มากจนน่าเบื่อ เยิ่นเย้อ และไม่น้อยจนทอนพื้นที่การเล่าของฝั่งใดฝั่งหนึ่ง เราได้ ‘ฟังความ’ จากทั้งสองฝั่งความคิด คือผู้ศรัทธาในวัดพระธรรมกาย และผู้อคติต่อวัดพระธรรมกาย และที่น่าดีใจคือ เราได้เห็นความเห็นที่ ‘เข้าท่า’ และ ‘ไม่เข้าท่า’ จากทั้งสองฝั่งพอ ๆ กัน และเพื่อให้ผู้ชมพอมีหลักในการตามเรื่องราว ก็ยังสอดแทรกความเห็นที่ให้ทั้งข้อดี-ข้อด้อย จากปากนักวิชาการทางศาสนาและสังคมหลายคนที่ไม่ได้มีผลประโยชน์ร่วมในเหตุการณ์นี้เข้ามาด้วย

หนังเรื่องนี้เกือบจะเป็นการซ่อนของผู้สร้างอย่างสมบูรณ์ตามอุดมคติหนังสารคดีประเภทหนึ่งที่อยากให้ผู้ชมสัมผัสใกล้ชิดกับประเด็นของหนังโดยไม่มีผู้สร้างเข้าไปแทรกแซง เพราะเราแทบไม่เห็นทีมงานผู้สร้างในหนัง ทว่าตลอดเรื่องเราก็ยังได้เห็นบุคคลในหนังสารคดีพูดคุยกับ ‘ไก่’ ซึ่งหมายถึงตัวณฐพลอยู่หลายครั้ง และบางครั้งก็มีเสียงของณฐพลแทรกเข้าไปในหนังด้วย จึงเชื่อได้ว่าณฐพลน่าจะต้องการให้ผู้ชมระลึกอยู่เสมอว่าความจริงตรงหน้าเป็นการที่เขาเข้าไปถ่ายทำ และยากที่จะไม่มีสิ่งที่เรียกว่า อคติของผู้สร้างเจือปน

รีวิว เอหิปัสสิโก

อคติของผู้สร้างที่ว่า อาจถูกถ่ายทอดมาอย่างจงใจและไม่รู้ตัวได้ทั้งสิ้น บางฉากเราเห็นการแช่ภาพค้างนานผิดปกติ บางฉากต่อลำดับกับประเด็นที่พูดก่อนหน้าแล้วตีความได้อีกแบบ หรือแม้แต่บางฉากที่ไม่จำเป็นต้องใส่มา แต่ก็ปรากฏในหนัง เหล่านี้จึงทำให้เห็นว่าณฐพลก็แฟร์กับผู้ชมพอสมควรที่จะบอกว่าหนังมีอคติอ่อน ๆ และจะได้ให้ผู้ชมใช้ปัญญาของตนพิจารณาสาระของหนังด้วยจนเอง

เราคงชี้ไม่ได้ว่าในหนังนั้นฝ่ายไหนถูกหรือฝ่ายไหนผิด แม้บางคนตั้งใจเข้าไปดูแบบมีธงล่วงหน้า บางคนเป็นคนที่ไม่นิยมวัดพระธรรมกาย บางคนก็เป็นคนที่เข้าวัดพระธรรมกายมาหลายสิบปี โรงหนังที่ผมได้ชมวันนี้อยู่ที่รังสิตก็นับว่าใกล้เคียงวัดพระธรรมกายมากที่สุดสำหรับโรงหนังที่มีการฉาย ได้เห็นอากัปกิริยาของผู้ชมหลากหลาย มีทั้งนักเรียนนักศึกษา ประชาชนที่สนใจ และคงไม่น้อยที่อาจเป็นศิษย์วัดพระธรรมกาย (อันสังเกตได้จากเสียงหัวเราะต่อบางฉาก)

เอลเลียต เพจ ดาราข้ามเพศอวดหุ่นเฟิร์มและซิกซ์แพ็กบนอินสตาแกรม
ทว่าเชื่อได้ว่าหนังก็มีพลังเพียงพอที่จะทำให้คนที่ไม่ว่ามีความเชื่ออคติเดิมมาทางฝั่งไหน เมื่อได้ชมหนังเรื่องนี้ ย่อมต้องได้ฉุกคิดบ้างไม่มากก็น้อย ว่าแท้จริงความยึดมั่นในความคิด (และความดี) ของเราเองก็อาจเป็นมิจฉาทิฏฐิได้ในทุกโอกาส

อย่างน้อยเมื่อถึงฉากท้าย ๆ ของหนังที่มีผู้พูดว่า ‘คนตาบอด ไม่เชื่อว่ามีดวงอาทิตย์อยู่ แต่ดวงอาทิตย์นั้นก็ยังตั้งอยู่ เรามีความจริงและความดีในแบบของเรา สักวันหนึ่งคนตาบอดย่อมเข้าใจ เพราะความจริงไม่อาจลบหายได้’ นั้น หากผู้ได้ชมมีเสี้ยวหนึ่งในใจว่า จะมั่นใจได้อย่างไร ว่าเราไม่ใช่ ‘คนตาบอด’ นั้นเสียเอง หนังเรื่องนี้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จยิ่งยวดแล้ว
‘เอหิปัสสิโก’ เป็นสารคดีที่มีกระแสมาแรงงจากข่าวการเกือบโดนแบนจากกองเซนเซอร์ แต่สิ่งที่น่าทึ่งคือจำนวนคนดูที่แน่นโรง เพราะเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่ค่อยได้เห็นในการฉายหนังแนวนี้ อาจเป็นเพราะสิ่งที่เคยได้ยินเกี่ยวกับวัดพระธรรมกายตลอดหลายปีที่ผ่านมา และความลึกลับอันชวนสงสัยว่า ‘หลังกำแพงวัดในตึกรูปทรงกลม หรือใต้จานบินนั้นมีอะไรหนอ’

หลายคนคาดหวังว่า นี่จะเป็นสารคดีเปิดโปงวัดพระธรรมกาย แต่ที่จริงแล้วกลับทำหน้าที่เปิดประตูให้คนได้เข้าไปรู้จักวัดแห่งนี้จากมุมมองอันหลากหลาย ทั้งผู้ที่ศรัทธา ไม่ศรัทธา และเลิกศรัทธา รวมถึงนักวิชาการ และภาพจากข่าวที่เคยเห็น เรียงร้อยผ่านทางสายตาของผู้กำกับ ณฐพล บุญประกอบ อีกชั้นหนึ่ง

ดูหนัง

รีวิว เอหิปัสสิโก

ความรู้สึกหลังดู

ความสนุกของ ‘เอหิปัสสิโก’ อยู่ที่ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในหลายมิติ ทั้งความเห็นที่ต่างกันและความขัดแย้งในใจของผู้ชม

สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นตลอดการดูก็คือความคิดที่ว่าถึงแม้ผู้ที่ศรัทธาในวัดจะมีความต้องการจะต่างกันไปบ้าง แต่สิ่งที่เหมือนกันก็คือ ทุกคนต้องการความสุข ถ้าไม่ใช่ในชาตินี้ก็ชาติหน้า และวัดพระธรรมกายให้ความสุขนั้นได้ในหลายรูปแบบ

วัดได้สร้างสังคม ‘ยูโทเปีย’ หรือ ดินแดนในอุดมคติ ที่ทุกคนพูดจาดี สุภาพต่อกันเสมอ แต่งกายเรียบร้อยสะอาดสะอ้าน ทุกคนช่วยกันดูแลสถานที่ให้ทุกที่สะอาดเรียบร้อย ทุกอย่างเป็นระเบียบ ตั้งแต่การเดินแถวของผู้คนในวัดไปจนการจัดวางของ

ด้วยสิ่งนี้เอง สังคมในวัดอาจเป็นสังคมในฝันของใครหลายคน นอกจากความสุขที่เกิดทางกายแล้ว วัดสามารถสร้างความสุขทางใจที่มาพร้อมกับความหวังสำหรับวันพรุ่งนี้ ด้วยแนวคิดที่ว่าบุญที่ทำไปจะตอบแทนคืนกลับมาในรูปแบบของชีวิตที่ดีขึ้น หรือชาติหน้าที่กำหนดได้

สารคดีก็ยังคงพาให้เราเห็นแนวคิดที่ยังคงน่าสงสัย ซึ่งเป็นด้านที่อาจจะเปลี่ยนยูโทเปียเป็น ‘ดิสโทเปีย’ หรือ ดินแดนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของยูโทเปียได้เช่นกัน แต่ความน่าสนใจคือการที่ด้านที่ชวนตั้งคำถามนั้น ไม่ได้ถูกนำเสนอจากฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามเท่านั้น แต่หลายอย่างก็มาจากตัวผู้ศรัทธาเอง

เว็บหนัง

รีวิว เอหิปัสสิโก

ผู้ชมถูกย้ำเตือนตลอดว่ากำลังได้รับฟังความจริงที่ถูกเลือกสรรและตัดต่อมาอย่างดีแล้ว การเตือนนี้เกิดจากการกล่าวถึงจากบุคคลในเรื่อง เสียงของผู้กำกับที่ผู้ชมจะได้ยินแทรกมาในบางฉาก ซึ่งทำให้อารมณ์คล้ายกับเวลาได้ฟังการเล่าข่าว ที่เป็นการเล่าความจริงผ่านมุมมองของใครคนหนึ่ง และ ‘เอหิปัสสิโก’ ก็ถูกเล่าได้สนุก ชวนระทึกเหมือนได้ดูภาพยนตร์สืบสวนเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว ด้วยการลำดับภาพ และเสียงเพลงที่คอยเร้าใจผู้ชมตลอดเรื่อง

สุดท้ายแล้วสารคดีไม่ได้ให้คำตอบว่ามันถูกหรือผิด แต่ชักชวนให้เราตั้งคำถาม

‘เอหิปัสสิโก’ จึงไม่ใช่สารคดีที่มีคำตอบชัดเจนเสียทีเดียวสำหรับทุกคำถามเกี่ยวกับวัดพระธรรมกาย หลวงพ่อธรรมชโย หรือคดีของวัด หรือบอกว่าเราควรคิดอย่างไรกับสังคมที่เราอยู่ แต่เป็นการเชิญชวนให้มาดู มาเห็น เพื่อให้ผู้ชมตัดสินใจเองว่าควรจะ ‘โอปะนะยิโก’ หรือน้อมรับอะไรเข้ามาไว้ในใจตนเองเมื่อเวลา 85 นาทีของสารคดีหมดไป

ไฮไลต์ของ “เอหิปัสสิโก” จึงโยกย้ายไปสู่การเผชิญหน้าอีกรูปแบบหนึ่งที่ผู้เขียนขอใช้คำว่า “การเผชิญหน้าทางความเชื่อ” ซึ่งผู้กำกับอย่าง ณฐพล บุญประกอบ ซึ่งเคยฝากฝีมือไว้ในสารคดี 2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว ที่ตามติดการวิ่งจากเบตงสู่เชียงรายของ ตูน บอดี้สแลม ก็จัดให้อย่างสาสม ทั้งจากฝั่งที่เชื่อธรรมกายหมดหัวใจ กับ ผู้ที่เชื่อว่า การหลุดพ้นจากการเป็นศิษย์ธัมมยโชคือของขวัญสุดล้ำค่าแห่งชีวิต

รีวิว เอหิปัสสิโก

หญิงวัยกลางคนที่ศรัทธาในพระธัมมชโยจนยอมทำทุกอย่าง หญิงอีกคนที่บริจาคเงินไป 14 ล้านบาท บางคนเอ่ยปากขอยอมตายเพื่อปกป้องสิ่งที่พวกเขาเชื่อ ในขณะที่อีกฟากก็ผันตัวจากศิษย์สู่ผู้ต่อต้าน โดยอ้างว่าได้ค้นพบความจริงที่ไม่ชอบมาพากล ทั้งในเรื่องการหาปัจจัยเข้าวัด หรือแม้แต่เรื่องเงินที่สูญไปโดยเปล่าประโยชน์ และบางครอบครัวที่

ล่มสลายไปในพริบตาหลังจากมีสมาชิกเข้าสู่โลกแห่งธรรมกาย อีกทั้งยังเสริมด้วยความคิดเห็นของนักวิชาการอีกหลายท่านที่เต็มไปด้วยมุมมองที่น่าสนใจ ข้อมูลจากสองฝั่งที่ขัดแย้งกันอย่างสุดขั้ว ทำให้ “เอหิปัสสิโก” แข็งแรงมากทีเดียวในเรื่องการนำเสนอข้อมูลในหลากหลายมิติ
หญิงวัยกลางคนที่ศรัทธาในพระธัมมชโยจนยอมทำทุกอย่าง หญิงอีกคนที่บริจาคเงินไป 14 ล้านบาท บางคนเอ่ยปากขอยอมตายเพื่อปกป้องสิ่งที่พวกเขาเชื่อ ในขณะที่อีกฟาก

ก็ผันตัวจากศิษย์สู่ผู้ต่อต้าน โดยอ้างว่าได้ค้นพบความจริงที่ไม่ชอบมาพากล ทั้งในเรื่องการหาปัจจัยเข้าวัด หรือแม้แต่เรื่องเงินที่สูญไปโดยเปล่าประโยชน์ และบางครอบครัวที่ล่มสลายไปในพริบตาหลังจากมีสมาชิกเข้าสู่โลกแห่งธรรมกาย อีกทั้งยังเสริมด้วยความคิดเห็นของนักวิชาการอีกหลายท่านที่เต็มไปด้วยมุมมองที่น่าสนใจ ข้อมูลจากสองฝั่งที่ขัดแย้งกันอย่างสุดขั้ว ทำให้ “เอหิปัสสิโก” แข็งแรงมากทีเดียวในเรื่องการนำเสนอข้อมูลในหลากหลายมิติสุดท้ายแล้วสารคดีไม่ได้ให้คำตอบว่ามันถูกหรือผิด แต่ชักชวนให้เราตั้งคำถามความสนุกของ ‘เอหิปัสสิโก’ อยู่ที่ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในหลายมิติ

รีวิวหนังไทย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *