รีวิว ใจฟูสตอรี่
“ใจฟีบ” กันมานาน..ถึงเวลา “ใจฟู” เรื่องราวของเดี่ยว ที่เดี่ยว หนุ่มนักเขียนบทหนังผู้ไม่อินกับหนังรัก ต้องมาเขียนบทหนังที่เฝ้าไข้แม่ที่ป่วยหนักเข้าห้องไอซียู เพราะงานเร่งเข้ามา พล็อตหนังรัก 4 เรื่อง 4 คู่ ที่เขาต้องเขียน ระหว่างทางเขาได้พบกับ บัว หญิงสาวปริศนาที่มาเฝ้าไข้ที่บุคลิกน่ารักสดใส เธอคนนี้แหละที่มาช่วยขัดเกลาบทหนังให้เดี่ยวที่ไร้เสน่ห์ให้มีพลัง แถมยังช่วยให้หัวใจเดี่ยวกลับมาผองโตอีกครั้ง หนังไทยใหม่
สำหรับใจฟูสตอรี่ จัดเป็นหนังรักฟีลกู๊ดรอมคอม ที่มาแบบครบรสครบเครื่อง ใช้พล็อตเรื่องสั้นโลเคชั่นไม่เยอะ แล้วซัดเนื้อหาที่ไม่หวาน ไม่ละมุนละไมจนเกินไปจบในตอน เรื่องราวจึงมีความหลากหลาย คนดูกลุ่มหนีังรักหรือชื่นชอบนักแสดงอาจจะประทับใจกับเนื้อหาของผู้กำกับที่สอดแทรกลงไป ไม่เน้นตลกแต่เน้นพล็อตที่หักมุมประเด็นที่คาดไม่ถึง การร้อยเรียงเรื่องราวทำออกมาได้ฉลาดเหมาะกับสถานการณ์โควิด ดูหนังออนไลน์
รีวิว ใจฟูสตอรี่
นี่คือหนังรักที่จะมาทำให้คุณหัวใจผ่องโตแบบไม่ทันตั้งตัว ชอบที่หนังมาแบบธรรมดาเนิ่บๆ แล้วค่อยๆ ลงรายละเอียดทีละนิดทีละน้อยลงไปในแต่ละพาร์ท เนื้อหาหนังเลือกปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์โควิดได้ แถมยังเลือกแง่มุมเลือกประเด็นความรัก การใช้ชีวิตตัวละคร ปัญหาที่วัยรุ่นหนุ่มสาวทั่วไปทุกวันนี้มาเล่าเรื่องได้น่าสนใจ ดูหนังฟรี
ผ่านตัวละครของเดี่ยว นักเขียนบทหนัง ผู้ที่ไม่อินกับความรัก และกำลังทุกข์เรื่องแม่ ไหนจะเป็นเรื่องงานของตัวเองที่โดนบีบกรอบเวลาเข้ามาอีก ภายใต้ความกดดัน การเจอผู้หญิงคนหนึ่งมันก็ช่วยให้เราใจฟู มีกำลังใจทำบทหนังขึ้นมาแบบไม่ทันตั้งตัว หนังร้อยเรียงเนื้อหาจากคู่แรกไปยังคู่สุดท้ายได้แนบเนียนมากๆ แม้ว่าจะทำเป็นพล็อตยำหนังสั้น
5 เรื่องมาทำ แต่มันมีเสน่ห์ไม่เสียอรรถรสในการดูเลย เพราะพล็อตเรื่องทุกตอนก็เป็นความรักที่จับต้องได้ในสังคมไทยทั้งนั้นแหละ ที่สำคัญคือแต่ละเรื่องก็มีดราม่า ไคลแม็กซ์ที่ไม่ซ้ำซากจำเจ ที่เปิดตัวได้สวยจบแบบดาร์คๆ เปิดตัวแบบไม่ชอบขี้หน้าแต่ก็จบกันแบบมีความคิดถึง ใจฟูสตอรี่ สปอย
การดำเนินเรื่อง
ใจฟู สตอรี่ เป็นหนังรักที่มีเนื้อหาแบบเรื่องสั้นจบในตอน ซึ่งแทรกไว้ในภาพยนตร์ขนาดยาวอีกที โดยเรื่องราวเริ่มขึ้นเมื่อ ‘เดี่ยว’ (แสดงโดย พีช-พชร จิราธิวัฒน์) นักเขียนบทภาพยนตร์ผู้กำลังมาเฝ้าแม่ที่ป่วยหนัก ต้องปั่นบทหนังให้ทันก่อนจะถึงเดดไลน์ ในระหว่างนั้นเขาได้รู้จักกับ ‘บัว’ ดูหนังออนไลน์ (แสดงโดย มินนี่-ภัณฑิรา พิพิธยากร)ครูสอนเปียโนที่
มาเฝ้าคนไข้ที่โรงพยาบาล เดี่ยวจึงให้บัวได้ดูบทหนังที่รักที่เขาเขียนขึ้น และเรื่องราวในตอนที่ 1 ‘คนแปลกหน้า’ จึงเริ่มขึ้นนับแต่นั้น ต่อมาคือเรื่องราวตอนที่ 2 ‘คนตรงข้าม’ เล่าถึงหนุ่มสาวในคอนโดคู่หนึ่งที่รู้จักกันแบบ Social distancing จนพัฒนาความสัมพันธ์ไปถึงจุดที่กลับตัวไม่ได้ และตอนที่ 3 เรื่อง ‘คนข้างบ้าน’ ที่บอกเล่าเรื่องราวปั๊บปีเลิฟ
ของคู่หนุ่มสาวมัธยม ซึ่งเล่าถึงความห่างไกลในระยะความสัมพันธ์ จากนั้นก็มาถึงตอนที่ 4 ‘คนที่เกลียด’ ซึ่งเป็นเรื่องราวของหนุ่มเดลิเวอรีที่บังเอิญพบว่า คู่แข่งที่ซิ่งกับเขาอยู่เป็นประจำก็คือสาวลึกลับที่รู้จักตัวตนเขาทุกอย่าง และตอนสุดท้ายอย่าง ‘คนแอบชอบ’ เป็นเรื่องราวของหนุ่มร้านสะดวกซื้อที่แอบชอบพยาบาล แต่อนิจจาเธอดันมีคนที่ชอบแล้วซะงั้น โดยรักวุ่น ๆ ทั้ง 5 เรื่องนี้ก็ร้อยเรียงกัน จนเป็นเรื่องราวของใจฟูสตอรี่ขึ้นมา ใจฟูสตอรี่ เรื่องย่อ
พล็อตเรื่อง
หลังจากอ่านเรื่องย่อแล้ว ความรู้สึกแรกเลย ผู้เขียนคิดว่าหนังน่าจะออกมาคล้าย ๆ กับ ภาพยนตร์ตระกูล ‘สคส. สวีทตี้’ ที่เป็นเรื่องราวความสัมพันธ์ของคนหลายคู่มาพัวพัน และมีตัวละครจากตอนก่อน ๆ โผล่เข้าซีนมาเป็นอีสเตอร์เอ้กบ้าง แต่ทว่า เมื่อไปดูจริง ๆ กลับไม่ใช่แบบนั้น เพราะแต่ละตอนค่อนข้างเป็นแยกเนื้อหาเป็นเอกเทศไม่เกี่ยวข้องกัน มีเพียงในส่วนของพรอปประกอบฉาก ที่พอทำให้เดาได้ว่าเรื่องราวทั้งหมดตั้งอยู่ในโลกเดียวกัน ดูหนังฟรี
สิ่งแรกที่ขอชมคือมุกตลกอันเฉียบคมของคุณตุ๋ยผู้กำกับ จากการขัดเกลาตัวเองในการกำกับเรื่องก่อน ๆ ก็ทำให้เรื่องนี้มีจังหวะคอมเมดี้โบ๊ะบ๊ะที่เป็นเอกลักษณ์ และการได้ทีมนักแสดงอันเก่งกาจอยู่ในเรื่องก็ช่วยขับความตลกธรรมชาติ ออกมาได้ถูกจังหวะมากขึ้น
เมื่อมองไปที่ภาพรวมของหนัง เราก็จะพบว่าใจฟูสตอรี่หนังมีองค์ประกอบศิลป์ที่งดงามมาก ๆ เพราะพร็อพประกอบและการจัดฉากในเรื่อง ถูกบรรจงสร้างสรรค์ขึ้นมาอย่างพิถีพิถัน ซึ่งองค์ประกอบศิลป์ที่ดีจะทำให้จะทำให้คนดูรู้สึกเชื่อมโยงกับหนังได้มากขึ้น เช่น ในตอนคนตรงข้าม ที่นางเอกต้องกักตัวอยู่ในห้อง เราจะเห็นได้ว่าตัวละครมีการ
ใส่เสื้อเก่า ๆ เพราะไม่ได้ออกไปไหน ซึ่งทำให้เราเข้าใจเลยว่าทีมอาร์ตเรื่องนี้ใส่ใจถึงความสมจริงเป็นอย่างดี หรือจะเป็นตอน คนข้างบ้าน ที่ให้พระเอกตัดผมรองทรง ซึ่งเป็นหนังไม่กี่เรื่องที่ใส่ใจถึงดีเทลทรงผมจริง ๆ ของเด็กนักเรียน โดยองค์ประกอบเล็ก ๆ เหล่านี้ ผ่านการคิดมาให้เกี่ยวเนื่องกับบทและสถานที่ เป็นสิ่งที่ขับความเป็นธรรมชาติออกมา จนทำให้คนดูอินกับหนังได้มากขึ้น ใจฟูสตอรี่ เนื้อเรื่อง
รีวิว ใจฟูสตอรี่ บทสรุป
และที่ไม่ชมไม่ได้เลย คือฝีมือการกำกับภาพที่บรรจงวางเฟรมการถ่ายทำอย่างดีในทุกซีน ทุกจังหวะใช้เทคนิคการเล่นกับมุมกล้องได้ดี ถ้าใครชอบหนังภาพสวย น่าจะดูเรื่องนี้ได้อย่างเพลิน ๆ เลยล่ะ
แต่ทว่าใจฟูสตอรี่ก็มีจุดบอดใหญ่อยู่ที่บทหนัง แม้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะมีความหลากหลายของตัวละคร แต่บทกลับมีแต่ความจำเจเต็มไปหมด เช่น ในทุกตอนความสัมพันธ์จะจำกัดที่คู่ชาย-หญิงแค่นั้น แต่ละตอนก็มักจะเปิดเรื่องราวด้วยมุมมองของฝ่ายชาย และค่อยไปเล่าเส้นเรื่องของฝ่ายหญิงทีหลัง ซึ่งทำให้เราเดาแพตเทิร์นได้ไม่ยากเลยว่า แต่ละตอนมันจะเล่าอะไรบ้าง
ประเด็นต่อมาคือบทที่ดูแล้วต้องอุทานว่า ‘อิหยังวะ’ เพราะหนังเลือกที่จะแสดงออกในการนำเสนอแบบปกติ แต่กลับให้ตัวละครเลือกแสดงออกด้วยการกระทำหรือบทพูดที่มีความเป็นการ์ตูนออกมา จนทำให้เรารู้สึกว่าบทหนังค่อนข้าง ’เบียว’ แบบไม่ถูกจังหวะเอามาก ๆ ใจฟูสตอรี่ บทสรุป
ซึ่งปัญหานี้ก็ส่งผลถึงกลุ่มก้อนสถานการณ์ในเรื่อง เพราะแต่ละตอนในเรื่องเป็นเรื่องสั้น ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกันเลย แต่พอมันถูกโยนเข้ามารวมกันแบบมัดมือชก บทจึงออกมาแบบขาด ๆ เกิน ๆ ทำให้จังหวะของหนังดูเร่งรีบไปหมด คนดูไม่ทันได้ตกตะกอนกับสิ่งที่เกิดขึ้น หนังก็ตัดไปอีกฉากแล้ว
โดยสิ่งที่น่าเสียดายรองจากบทคือนักแสดง ซึ่งไม่ใช่พวกเขาเล่นไม่ดีนะ ทุกคนก็เล่นได้ดีเลยล่ะ แต่เพราะบทไม่ได้ถูกเขียนมาอย่างพิถีพิถันทำให้หนังเรื่องนี้ไม่สามารถขับเสน่ห์ของนักแสดงออกมาได้หมด เรียกได้ว่าแต่ละคนมาเพื่อ Cameo ด้วยซ้ำไป และเป็นอะไรที่น่าเสียดายเอามาก ๆ
โดยรวมหนัง
ทีมแคสติ้งนี้เล่นได้ค่อนข้างดีหมด ไม่ว่าจะเป็น พีช พชร กับ มินนี่ ภัณฑิรา เป็นคู่ตัวยืนของเรื่องทั้งหมด ที่ต้องยอมรับเลยว่าพวกเขาทำหน้าที่ของตัวเองได้ดี และขับเสน่ห์กับเคมีออกมาได้ล้นหลามดี ในขณะที่ ณัฏฐ์ กิจจริต กับ เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา ก็ถ่ายทอดได้ธรรมชาติดีตามลีลาการแสดงอันน่าหลงใหลของพวกเขา เช่นเดียวกับคู่น้องเล็ก ทิกเกอร์ อชิระ กับ เพียว เพียววรินทร์ ที่นับว่าเป็นน้องใหม่ทางการแสดงที่ทำให้คนดูรู้สึกอิ่มเอมตามไปด้วย
ขณะที่ ชิม่อน วชิรวิชญ์ กับ ปั๋น ดริสา ก็เล่นได้ดี แม้ว่าจะไม่ได้มีบทบาทการแสดงที่ซับซ้อนอะไรสักเท่าไหร่ และปิดท้ายด้วย ลี ฐานัฐพ์ กับ ฝน ศนันธฉัตร ก็สามารถแบกรับตอนของตัวเองด้วยหน้าที่ที่กำลังพอเหมาะพอดี แม้ว่าจะแอบเสียดายที่มิติขององก์นี้ค่อนข้างจะตื้นเขินเบาบางออกจะเพ้อ ๆ ไปสักหน่อย แต่โดยภาพรวมนั้นในภาคของการแสดง ถือว่าทุก ๆ องก์รับหน้าที่ของตัวเองได้ดี
นอกจากนี้ยังคงประทับใจกับการสร้างบรรยากาศต่าง ๆ ขึ้นในหนังเรื่องนี้ โดยเฉพาะมุมภาพและมุมกล้อง รวมไปถึงการเซ็ตติ้งฉากและแสงสีต่าง ๆ ถือว่าทำออกมาได้ค่อนข้างละเอียดและสื่อไปถึงอารมณ์ของตัวละครแต่ละเรื่องได้ดี ไม่เน้นความฟุ้งโรแมนติกจนเกินไป กำลังถักทอออกมาเป็นหนังรักที่กำลังละมุนได้ดีไปตลอดทาง และสุดท้ายก็สามารถร้อยเรียงทุกองค์ประกอบออกมาได้ค่อนข้างน่าพอใจ ใจฟูสตอรี่ สนุกไหม
ถึงแม้ว่า ใจฟู..สตอรี่ อาจจะยังไม่ใช่หนังที่สมบูรณ์แบบอะไร แต่ต้องยอมรับว่าหนังก็ไม่ได้แย่อะไรสักนิด เป็นหนังไทยที่ว่าด้วยความรักที่จังหวะที่สนุกและง่าย ๆ ถึงจะไม่มีอะไรซับซ้อนเลยก็ตาม กับการใช้สูตรสำเร็จแบบหาความแปลกใหม่มาเล่าเรื่อง แต่มันกลับเป็นการขับเสน่ห์ของหนังเรื่องนี้ออกมาได้อย่างไม่รู้ตัว และเมื่อองค์ประกอบทั้ง 5 บทบาทของเรื่องนี้นำมาประกอบร่างกันเป็นเรื่องเดียวกัน ก็กลายเป็นหนังที่เติมเต็มหัวใจของผู้ชมไปได้เต็ม ๆ นี่คือหนังรักที่ไม่ได้เพอร์เฟคทุกอย่าง แต่กำลังหอมกรุ่นกำลังดี แบบฟลูฟีลใจ
พอย้อนกลับมาที่ชื่อหนังแล้ว ผู้เขียนเดาว่าที่ทางผู้สร้างต้องการให้ชื่อใจฟูสตอรี่ เพราะอยากให้คนที่มาดูหนังเรื่องนี้แล้ว ได้รับความรู้สึกแฮปปี้จนใจฟูกลับไป แต่ผู้สร้างคงลืมไปว่า ไม่ว่าเรื่องราวในหนังจะฟีลกู๊ดแค่ไหน แต่ถ้ามันไม่สามารถสื่อสารไปถึงใจคนดูได้ ก็มีแต่จะใจห่อเหี่ยวแทน
โดยรวมใจฟูสตอรี่คือหนังรักคอมเมดี้ดูง่าย หากไม่คิดอะไรก็สามารถดูเพลิน ๆ ได้เลย มีเสน่ห์ด้วยจังหวะตลกของนักแสดง และด้วยความเล่นท่ายากด้วยการใช้ 10 ตัวละครหลัก ก็อาจทำให้บางคนรู้สึกชอบเพราะบางตัวละครนั้นเหมือนกับตัวเราโดยไม่ตั้งใจ แต่ทว่าด้วยบทที่ไม่ได้พิถีพิถันนัก ก็ทำให้หนังไม่สามารถขับเสน่ห์ของนักแสดงออกมาได้หมด และจบไปอย่างไม่น่าจดจำเท่าใดนัก
ติดตามรีวิวหนังเรื่องอื่นๆได้ที่ รีวิวหนังไทย