รีวิว LOVE SYNDROME รักโง่ๆ
“รักโง่ๆ” นั้นเป็นการเล่าเรื่องความรักของคน 4 คู่ กับรักหลายๆ รูปแบบ ทั้งการแอบรัก รักข้างเดียว รักปากแข็ง รักทุ่มเท รักรอคอย และรักแบบอื่นๆ อีกมากมาย รีวิวหนัง LOVE SYNDROME รักโง่ๆ ซึ่งทั้งหมดนี้จากมุมมองคนดูแล้วหลายๆ เหตุการณ์ในหนังอาจจะดูเป็นเพียงการกระทำโง่ๆ ไม่สมเหตุสมผล อย่างเช่น การทุ่มเทเพื่อคนที่เรารักแม้จะรู้ว่าไม่มีหวังอีกต่อไปอีกแล้ว ก็อาจเป็นเพียงแค่ “ความรักโง่ๆ” แต่จะมีใครบ้างล่ะไม่เคยทำอะไรโง่ๆ เพื่อความรักบ้าง
เขาไม่สามารถลืมพลอยพิณแฟนเก่าที่รักกันมาตั้งแต่ม.4ยันปี4ได้ แม้เธอจะเล่นหนีเขาไปเมืองนอกเอาดื้อๆเมื่อเขาขอเธอแต่งงาน แล้ววันนึงเธอก็กลับมา เมืองไทย แม้เธอจะดูเหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน แต่อาร์มก็เชื่อว่าพลอยยังรักเขาอยู่ จนนำมาซึ่งเงื่อนไขที่ต้องทดสอบรักแท้ของเขา พริกแกง สาวออฟฟิสขี้เหงา เธอแอบหลงรักเต็งหนึ่งหนุ่ม
หล่อมีระดับ แม้เพื่อนเก้งของเธอจะเตือนว่าเต็งหนึ่งเป็นเกย์ระดับพรีเมี่ยม ที่มาหลอกให้พริกแกงไปขายตรง เธอก็เลือกที่จะไม่รับรู้
โจ สาวมหาลัยใจหิน เธอคิดเสมอว่าความรักไม่จำเป็นต่อชีวิต แต่วันนึงเธอดันมาตกหลุมรักฟอง หนุ่มต่างคณะที่มาจีบรุ่นน้องนางเอกละครของเธอเข้าเต็มเปา สิ่งที่เธอเลือกทำเพื่อแก้ปัญหา นี้คือ การกระทำซึนเดเระใส่เขาเพื่อพิสูจน์ว่าเธอไม่ได้รักไม่ได้อะไรกับเขา จริงๆ
และคู่สุดท้าย เปตอง หนุ่มมัธยมสุดเสี่ยว ที่แอบชอบเพื่อนสาวอย่างอิงลิช มาตลอดแต่เธอดันเป็นทอม เมื่อวันที่อาการแอบรักมันสุดทาง เขาเลยประกาศว่าเขานี่ล่ะจะเปลี่ยนทอมให้เป็นเธอ
เป็นหนังไทย หนังรัก ที่คิดว่าไม่เท่าไหร่ แต่พอดูไปๆ ก็พอใช้ได้อยู่นะ หนังว่าด้วยเรื่องรักๆ ของ 4 คู่ 4 เรื่อง ที่เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกัน ในเรื่องต่างก็เจอบททดสอบความรักที่แต่ต่างกัน เรียกว่าหนังตีตลาดรัก ตั้งแต่วัยรุ่นนักเรียน นักศีกษา และวัยทำงาน ได้หลากหลาย แต่โฆษณาแฝงกระจายเต็มเรื่องไปหมด 555 อย่างการตลาดไทย ไม่ว่ากันครับ
โดยส่วนตัวชอบตอน โจ หรือไอ้ไผ่ เรื่องมันดูแบบ ไม่เคยเจอนะ ที่คนจะเกิดมาจากการที่ไม่ต้องมีความรัก เลยได้ฉายา ไผ่ ชอบประเด็นนี้ กับ โลกแม่ง ไม่ยุติธรรม ความรักก็แบบนี้ล่ะนะ แต่น้องนางเอกในละคร น่ารักอ่ะ
ภาพยนตร์เรื่อง Love Syndrome รักโง่ๆ เป็นภาพยนตร์ไทยแนวโรแมนติก คอมเมดี้ ผลงานการกำกับ พันธุ์ธัมม์ ทองสังข์ ภาพยนตร์บอกเล่าเรื่องราวของ ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้นักแสดงมากความสามารถมากมายมาร่วมแสดงไม่ว่าจะเป็นภาคิน คำวิลัยศักดิ์ มารับบทเป็น อาร์ม ชายหนุ่มผู้ยึดมั่นรักแท้ เขาไม่สามารถลืมรักครั้งเก่าของเขาได้เลย คนต่อมา
คือกานต์พิชชา พิชยศ รับบทรเป็น พลอยพิณ แฟนเก่าของอาร์มเธอคบกับอาร์มตั้งแต่ ม.4 ยัน ปี 4 คนต่อมาคือธิติรัตน์ โรจน์แสงรัตน์ รับบทเป็น พริกแกง พนักงานออฟฟิตขี้เหงา
โดยเธอแอบหลงรัก เต็งหนึ่ง หนุ่มหล่อบ้านรวย คนต่อมาคืออดุล เจริญรัศมีเกียรติ รับบทเป็น เต็งหนึ่ง หนุ่มหล่อขวัญใจสาวๆ คนต่อมาคือคีรติ มหาพฤกษ์พงศ์ รับบทเป็น โจ สาวมหาลัย เธอเป็นคนเด็ดเดี่ยว
เพราะเธอคิดเสมอมาว่าความรักไม่จำเป็นต่อชีวิต จนกระทั่งวันหนึ่งที่เธอดันมาตกหลุมรัก ฟอง คนต่อมาคือเลโอ โซสเซย์ รับบทเป็น ฟอง หนุ่มหล่อที่มาจีบรุ่นน้องนางเอกละครของของโจ คนต่อมาคือโกเมนทร์ สวนสมัย รับบทเป็น เปตอง หนุ่มหล่อวัยมัธยม ที่แอบชอบเพื่อนสาวอย่าง อิงลิช และคนสุดท้ายที่จะมาแนะนำในวันนี้คือลภัสลัล จิรเวชสุนทร
กุล รับบทเป็น อิงลิซ สาวสวยที่หนุ่มๆต่างพากันตกหลุมรัก แต่เธอกลับเป็นทอม โดยภาพยนตร์เรื่อง Love Syndrome รักโง่ๆ เป็นภาพยนตร์เมื่อปี 2556
เปิดเรื่องราวมาที่ 4 คู่ 4 วัย ที่ต่างก็ใช้ชีวิตอยู่ในจักรวาลเดียวกัน ประกอบด้วยคนแรก อาร์ม ชายหนุ่มที่ไม่สามารถลืมแฟนเก่าอย่างพลอยพิณได้ โดยเขาคบกับเธอมาตั้งแต่ม.4ยันปี4
รีวิว LOVE SYNDROME รักโง่ๆ
แต่เธอหนีไปเมืองนอกเอาดื้อๆเมื่อเขาขอเธอแต่งงาน แต่แล้ววันนึงเธอก็กลับมาเมืองไทย อาร์มเชื่อว่าพลอยยังรักเขาอยู่ เขาจึงต้องทดสอบรักแท้ของเขา ต่อมาที่พริกแกง สาวออฟฟิตที่แอบหลงรักเต็งหนึ่งหนุ่มหล่อ ที่เพื่อนเก้งของเธอต่างพากันเตือนว่าเขาเป็นเกย์ที่มาหลอกให้เธอไปขายตรง
แต่เธอกลับเลือกที่จะไม่รับรู้อะไร ต่อที่โจ สาวมหาลัยที่คิดเสมอว่าความรักไม่จำเป็นต่อชีวิต จนวันนึ่งที่เธอกันไปตกหลุมรักฟอง หนุ่มต่างคณะที่มาจีบรุ่นน้องนางเอกละครของเธอ เธอจึงเลือกแก้ปัญหาด้วยการทำซึนเดเระใส่เขาเพื่อพิสูจน์ว่าเธอไม่ได้รักเขาจริงๆ และคู่สุดท้าย เปตอง หนุ่มมัธยมที่แอบชอบเพื่อนสาวอย่าง อิงลิช มาตลอดแต่เธอดันเป็น
ทอม เขาเลยประกาศว่าเขาจะเปลี่ยนทอมให้เป็นเธอให้ได้ เรื่องราวใน Love Syndrome รักโง่ๆ จะเป็นอย่างไร อย่าลืมติดตามชมนะคะ
ดูหนังฟรี ความประทับใจหลังดูภาพยนตร์เรื่อง Love Syndrome รักโง่ๆ
ภาพยนตร์เรื่องนี้จะพาเราเข้าไปอยู่ในความสัมพันธ์ 4 คู่ ซึ่งแต่ละคู่ทั้งน่ารักทั้งฮา ใครที่ยังไม่เคยดูลองหามาดูนะคะ กับภาพยนตร์เรื่อง Love Syndrome รักโง่ๆ
ยอมรับเลยว่าแรกเห็นตัวอย่างไม่มีอะไรประทับใจในหนังเรื่อง “รักโง่ๆ” เลยแม้แต่น้อย ทั้งมุกที่ไม่ฮากับความรู้สึกว่าเป็นหนังรักแนวเดิมๆ จนเกือบมองข้ามไปแล้ว ต้องขอบคุณพี่ Jediyuth สำหรับการโปรโมทให้หนังดูมีความน่าสนใจมากขึ้น
และเมื่อยิ่งอ่านบทสัมภาษณ์ของผู้กำกับ พันธุ์ธัม ทองสังข์ แล้วยิ่งรู้สึกอยากอุดหนุนหนังเรื่องนี้เข้าไปใหญ่ ด้วยวิธีการระดมมือใหม่เขียนบทมาแลกไอเดียและช่วยกันขัดเกลาให้ออกมาดูดี รวมไปถึงการนำหนังออกฉายรอบทดสอบที่มหาวิทยาลัยดูก่อนอยู่เกือบ 20 รอบ ก็ถือเป็นความพยายามอย่างมากสำหรับหนังทุนต่ำสักเรื่องที่ต้องการขายคุณภาพ
ความรู้สึกหลังดู
ความสนุกอีกส่วนหนึ่งก็คือความพยายามเล่นกับกิมมิกหนังรักที่แสดงตนให้รู้ว่าเรื่องรักมันไม่ได้ง่ายอย่างในหนัง เรื่องบางเรื่องต่อให้ทุ่มเทกันแทบตายอีกฝ่ายก็ไม่ได้จะหันมาสนใจเราได้เสมอ และรักก็ทำให้เราทำอะไรบ้าๆ ได้เช่นกัน ด้วยเหตุที่บทหนังมาจากประสบการณ์การตรงจากคนรอบตัวในการระดมไอเดียแล้วก็ส่งผลให้หลายคนดูรู้สึกว่าเข้าถึง
ความรักโง่ๆ ได้ไม่ยาก รวมไปถึงการตัดต่อที่วิเคราะห์จากอารมณ์คนดูในรอบทดลองฉายก็น่าจะทำให้คนกว่า 80% ในโรงพึงพอใจ ได้ยิ้มตามและร้องไห้ตามไปกับหนังได้ไม่ยากเลย
แม้ว่า “รักโง่ๆ” จะไม่ใช่หนังที่สมบูรณ์แบบที่จะขึ้นแท่นหนังรักในระดับตำนาน เนื่องจากข้อเสียในบางอย่างเช่น การแสดงของนักแสดงบางคน (ไม่ใช่ยิปซีอย่างแน่นอน เพราะในเรื่องนี้เธอเล่นได้สุดมาก กับอีกคนคือสาวมินท์เล่นมาแบบท็อปฟอร์มเช่นกัน)
รวมไปถึงจังหวะการดำเนินเรื่องที่อาจยังไม่ลงตัวเท่าไร มีบางฉากอาจจะอืดไปบ้าง แต่ด้วยความเซียนในการทดลองเล่นท่ายาก การกระจายบทดี มุกตลกสุดฮา เพลงประกอบเพราะที่ส่งให้สถานการณ์ไปได้สุดทาง พร้อมๆ กับเรื่องราวความรักที่น่าสนใจ มีมุมมองใความรักที่สวยงาม แม้ว่าจะไม่สมหวังก็ตาม เพื่อที่จะย้อนถามตัวเองกลับไปว่าตอนนี้ชีวิต
คุณพอใจกับ “รักโง่ๆ” แล้วหรือยัง?
‘รักโง่ๆ’ ดำเนินเรื่องอย่างมีชั้นเชิงพอควร ตัดต่อโดยที่มีเพลงประกอบหลายๆ เพลง
และมีได้ถูกจังหวะ มีช็อตโดนๆ มีไดอะล็อกที่จี๊ดๆ อยู่หลายช่วง หลายช็อตเรียกน้ำตาได้ดี บางช็อตที่ดูเขาอยากจะบิ๊วต์เราเหลือเกินแต่เรากลับเฉยๆ ช็อตโดนๆ ก็คงเป็นช่วงที่มีเพลงที่ร้องประสานเสียง กับอีกช็อตที่ไม่มีไดอะล็อกใดๆ มีแต่มือ/สายฝน/แหวน เพียงเท่านั้น นี่เราเป็นพวกอินกับหนังโรแมนติกน้ำเน่าสุดๆ สิท่า
ขณะที่มุขตลกนี่มีพอให้เราได้ฮากันอยู่พอควร แถมหนังยังหาลูกเล่นหลอกล่อคนดูได้พอประมาณ
ในส่วนของการแสดง มีทั้งที่แสดงดีและมีทั้งที่พยายามเกินไปบ้าง หลายคนที่แสดงดีเป็นช่วงๆ บางช่วงที่ยังรู้สึกไม่ถึงก็มี
แต่โดยรวมนั้นถือว่าแสดงได้โอเคกันหมดทุกคน ส่วน
การ tie-in สินค้านี่เรียกได้ว่าเพียบทั้งเรื่องนั่นแหละ
สุดท้ายแล้ว เมื่อเราดูหนังจบ เราอาจจะไม่ได้ฉลาดอะไรมากขึ้น เพราะเรื่องของความรักมันไม่มีสูตรสำเร็จ บทเรียนจากรักครั้งก่อน
อาจไม่ได้ช่วยสอนใจในรักครั้งนี้ หลายทีเราก็ยังเห็นคนๆ เดิมที่ยังไม่เข็ดกับความผิดหวังปวดร้าวซ้ำๆ ซากๆ