รีวิว Yes or No 2.5 กลับมาเพื่อรักเธอ
สวัสดีจ้าวันนี้แอดจะมารีวิวหนังเรื่อง รีวิว Yes or No 2.5 กลับมาเพื่อรักเธอ เหมือนว่ากระแสหนังก่อนเข้าฉายจะไม่ได้เป็นที่พูดถึงมากเท่าภาคแรกๆ รีวิวหนัง Yes or No 2.5 กลับมาเพื่อรักเธอ ที่ประสบความสำเร็จทั้งรายได้ที่มีกำไรติดไม้ติดมือและมีเสียงชื่นชมในทางบวกสมน้ำสมเนื้อกับเนื้อหนังที่มีของดีให้ดูชมไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่
ภาคแรกนั้นอยู่ในกลุ่มหนังฉายโรงที่มีประเด็นเรื่องราวของเพศทางเลือกที่ดีในยุคหลังๆ นับตั้งแต่สยามประเทศมี ‘รักแห่งสยาม’ ของ มะเดี่ยว-ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุลและ ‘It’s Get Better ไม่ได้ขอให้มารัก’ ของ กอล์ฟ-ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ สำหรับ Yes or No นอกจากจะเป็นกระแสในเมืองไทยแล้วยังดังไกลถึงต่างประเทศตามรอยรุ่นพี่นำร่องอย่าง
รักแห่งสยาม ที่เคยไปโด่งดังในเมืองจีนแผ่นดินใหญ่มาแล้ว จนชื่อเสียงและฐานแฟนคลับคนดูนี่เองที่เป็นเหตุหนึ่งให้มีการสร้างภาคล่าสุดนี้ขึ้นมา
ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาถือว่า Yes or No เป็นหนังไทยเพศทางเลือกเรื่องแรกที่เข้าโรงให้ตีตั๋วเข้าชมกัน กลับมาอีกครั้งในสถานะหัวขบวนหนังเพศทางเลือกของปีนี้
ซึ่งในช่วงครึ่งปีหลังแว่วมาว่าจะมีหนังไทยในกลุ่มทางเลือกนี้ตามมาอีกแน่นอน แต่น่าเสียดายที่ Yes or No ปูทางไว้ได้ไม่น่าประทับใจสักเท่าไหร่
เสียดายที่หนังไม่ได้มีเสน่ห์ได้เทียบเท่าหรือแม้แต่ใกล้เคียงบรรทัดฐานเดียวกันกับภาคแรกที่ทำออกมาได้ดีทั้งในเรื่องราวความรักโรแมนติก และพัฒนาการของตัวละครที่มีเสน่ห์ดึงดูดโดยเฉพาะ ออม-สุชาร์ มานะยิ่ง ที่สาดเสน่ห์ได้อย่างเป็นธรรมชาติมากๆ ทั้งๆที่การแสดงของ ติ๊นา-ศุภนาฎ จิตตลีลา
เล่นเป็นธรรมชาติยิ่งกว่า..ยิ่งกว่าท่อนไม้หรือโขดหิน และความน่าสนใจในความสัมพันธ์ที่ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงและเป็นไปอย่างน่าติดตาม ทั้งบทหนัง การกำกับ สำหรับมือใหม่แล้วมันไหลลื่นน่าชื่นชม แต่สำหรับภาคล่าสุดนี้พอมองหาเสน่ห์ในแบบเดียวกันกลับไม่มีแม้แต่น้อย ถึงแม้ ติ๊นา หนังไทยเก่าน่าดู
จะเล่นเป็นมนุษย์ได้ดีกว่าภาคแรกขึ้นมาบ้าง และยังมีนางเอกใหม่ ปีเก้-พิมพกานต์ บางชะวงษ์ รวมถึง นัน-สุนันทา ยูรนิยม และ หงหยก จินษกร กิตติวัฒนากร สองนักล่าฝันที่มาร่วมแจมในบทบาทสำคัญให้แฟนคลับบ้าน AF ได้มีลุ้นฟินตามๆ กันไป แต่สำหรับคนดูทั่วไปมันไม่ได้ช่วยให้หนังมีความน่าสนใจและดีขึ้นได้
จากหนังที่เคยเล่าความรักความหลากหลายทางเพศให้แตะได้ถึงแก่นอารมณ์กลับกลายเป็นหนังรักทั้วไป ที่หาได้จากหนังรักทุกเพศในทุกสมัย ไม่ได้ใช้ประโยชน์จากความเป็นหนังเพศทางเลือกให้เกิดแง่มุมความหลากหลายที่น่าสนใจ มีแต่ความคลิเชซ้ำซากที่หาดูได้ตามจอทีวี
อย่างความขัดแย้งกับครอบครัวที่มีมาประดับแต่หนังก็ไม่ได้ให้ความเอาใจใส่ในการโต้เถียงเพื่อขับเน้นประเด็นมากพอเพราะต้องเสียเวลาไปเล่าเรื่องรักเข้าใจผิดกันไปมาเซอร์วิสคอหนังรักโรแมนติกเท่านั้นเอง ซึ่งบทและวิธีการเล่าก็แข็งทื่อประชันกับความแข็งเป็นหินของนักแสดงบางคนบางช่วง
แต่ถึงอย่างนั้นในความเป็นหนังทุนน้อยที่งานสร้างไม่ได้เป็นตัวหลักๆ ที่นำพาให้หนังน่าติดตามบวกกับเรื่องราวที่จำเจง่ายๆ ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่ ยังพอมองเห็นความตั้งใจที่จะทำให้หนังมันมีภาษานอกจากบทสนทนาที่เหมือนโควตมาจากสเตตัสในโลกออนไลน์อยู่หลายจุด ไม่ใช่คิดเรื่องมาแค่ต้น-กลาง-จบยัดคำพูดชวนเลี่ยนแถมยังไม่แนบเนียน
แค่อย่างเดียวอย่างการเล่าอารมณ์ด้วยลูกโป่งสวรรค์ การใช้แหวนเป็นจุดเปลี่ยน มุกหมีแมสคอต She กับ He ในวิชาเรียน เป็นรายละเอียดที่ผ่านการคิดให้โรแมนติกน่ารักมาพอสมควร แต่เสียดายที่หลายมุกมันยังทื่อตรงเกินไปหน่อย แล้วพอรวมกับสถานการณ์แบบ
รีวิว Yes or No 2.5 กลับมาเพื่อรักเธอ
เดินตากฝน-ป่วย-เป็นห่วงดูแล พักใจชายทะเล หนีงานหมั้น ที่ซ้ำซากสุดๆ ซึ่งก็ไม่ได้ขยายหรือดึงจุดน่าสนใจมาใช้ได้มากไปกว่านั้น และด่านสำคัญอย่าง เจอหน้าพ่อแม่แฟน-สารภาพ มันช่างผ่านพ้นไปง่ายดายเหลือเกิน จนกลายเป็นหนึ่งในหนังไทยแทบทั้งหมดในช่วงต้นปีนี้ที่มาแค่เพื่อผ่านไป…
ณ คอนโด ใจกลางกรุงเทพฯ ไวน์ (ศุภนาฎ จิตตลีลา) และ พี (สุนันทา ยูรนิยม) สองเพื่อนซี้สาวหล่ออาศัยอยู่ด้วยกันโดยไม่รู้เลยว่าชีวิตของทั้งคู่กำลังจะเปลี่ยนไป เมื่อสองสาว พิม (พิมพกานต์ บางชะวงษ์) และ ฟ้า (จันษกร กิตติวัฒนากร) ย้ายเข้ามาอยู่ในห้องข้างเคียง พิม และ ฟ้า เป็นรุ่นน้องของ ไวน์ ที่คณะ และ ไวน์ เองก็เคยมีอดีตอันแสนหวานกับ พิม
หลังจากห่างหายกันไปหลายปี การพบกันอีกครั้งไม่สวยงามอย่างที่คิด เมื่อ ไวน์ ไม่เคยหยุดรัก พิม ได้ แต่ พิม กลับมี เจษ (จันษกร กิตติวัฒนากร) ชายหนุ่มรุ่นเดียวกันเป็นแฟน พี สนับสนุนให้ ไวน์ เปิดใจให้ ฟ้า เพราะไม่อยากเห็นเพื่อนรักจมอยู่กับความหลังครั้งเก่าที่เจ็บปวด พี ทำตัวเป็นพ่อสื่อเสร็จสรรพ
แต่ดูเหมือนกามเทพหน้ามนจะแผลงศรผิดทิศ เมื่อสาวน้อยสดใสอย่าง ฟ้า ดูจะเบนสายตาและหัวใจมามองพ่อสื่อผู้เฮฮาอย่าง พี แทน
หากเพราะความที่ทนเห็นเพื่อนซี้เจ็บช้ำเพราะความรักมานาน เมื่อ ฟ้า มาบอกรัก พี ตัดสินใจปฏิเสธ และขอคงความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไว้ที่คำว่าพี่น้อง ความเจ็บปวดจากการปฏิเสธผลักดันให้ ฟ้า ตัดสินใจคบกับ ไวน์ พี ก็ได้แต่เฝ้ามองอย่างเสียใจที่ตนปล่อย ฟ้า ไป แม้แต่ พิม เองก็ดูจะเสียอาการ เมื่อต้องเห็น ไวน์ และ ฟ้า อยู่ด้วยกัน
พอใกล้เรียนจบ มรสุมครั้งใหญ่ก็มาเยือน เมื่อ เจษ ขอหมั้น พิม ท่ามกลางความยินดีของพ่อแม่ทั้งสองฝ่าย ไวน์ นั้นเสียใจมากเมื่อรู้ข่าว ส่วน พิม เองแทบล้มทั้งยืน แท้จริงแล้ว พิม เองก็ไม่เคยลืม ไวน์ ได้ หากแต่แรงกดดันจากครอบครัวและสังคม เป็นสิ่งทำให้เธอเลือกเดินจาก ไวน์ มาเมื่อครั้งอดีต แม้ในที่สุดจะปรับความเข้าใจกับ ไวน์ แต่ พิม ก็ก้มหน้ายอมรับที่จะเดินตามทางที่สังคมกำหนดกับงานหมั้นที่จะเกิดขึ้น
ความรู้สึกหลังดู
สุดท้าย เรื่องราวของทั้งสี่จะลงเอยที่ตรงไหน กฎเกณฑ์ของสังคมจะพราก ไวน์ และ พิม ออกจากกันไปตลอดชีวิตหรือไม่ หนทางความสัมพันธ์ของ พี และ ฟ้า จะเป็นอย่างไร ความรักแท้นั้นสัมผัสกันแค่ที่หัวใจใช่ไหม ไม่ใช่ใช้เพศเป็นตัวตัดสิน
ครั้งหนึ่งวงการหนังบ้านเราเคยแหวกตลาดด้วยการสร้างหนังเกี่ยวกับหญิงรักหญิง และด้วยความน่ารักของนางเอก(ออม สุชาร์) ในภาคแรก กับทอมสุดน่ารัก (ติ๊นา ศุภนาฏ) ก็สร้างกระแสได้พอสมควร ทำให้หนังมีภาค 2 ออกมาและตอนนี้ก็คือภาค 2.5 ที่หนังเรื่อง Yes or No จะกลับมาเติมความหวานให้กับหนังรักอีกครั้งหนึ่งในตอน”กลับมา เพื่อรักเธอ”
โดยคราวนี้ได้นักแสดงมาเสริมทัพทั้ง ปีเก้ พิมพกานต์ บางชะวงษ์ ,นัน สุนันทา ยูรนิยม และ หงหยก จันษกร กิตติวัฒนากร จากบ้าน ผลงานของผู้กำกับอย่างกิรติ นาคอินทนนท์ ที่ต้องดูว่าจะฟินกันขนาดไหน
สำหรับหนังไทยเรื่อง Yes or No 2.5 กลับมา…เพื่อรักเธอ เป็นหนังแนวโรแมนติกดราม่า นำแสดงโดย ติ๊นา-ศุภนาฏ จิตตลีลา สาวหล่อที่เคยผ่านการแสดงมาแล้วมากมาย โดยเฉพาะ Yes or No ภาค 1 และ 2 ที่นอกจากหนังจะโด่งดังไปไกลถึงต่างประเทศหลายๆ ประเทศ โดยเฉพาะความคลั่งไคล้ของแฟนคลับชาวจีนที่ถึงขนาดฝากเงินเพื่อนมาซื้อตั๋วหนัง 200 ใบ
เพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึกอีกด้วย และยังทำให้ติ๊นากลายเป็นสาวหล่อที่ถูกจับตามองเป็นอย่างมาก เรียกว่าสร้างปรากฏการณ์ใหม่ของวงการหนัง ณ ขณะนั้นเลยก็ว่าได้
วันนี้กลับมาอีกครั้งใน Yes or No 2.5 กลับมา…เพื่อรักเธอ พร้อมทีมนักแสดงรุ่นใหม่นักล่าฝันจากบ้าน AF10 อย่าง ปีเก้-พิมพกานต์ บางชะวงษ์, นัน-สุนันทา ยูรนิยม และหงหยก-จันษกร กิตติวัฒนากร โดยได้ผู้กำกับฯ มากฝีมืออย่าง กิรติ นาคอินทนนท์ มากำกับหนังเรื่องนี้ด้วย โดยหนังเรื่องนี้ไม่ได้เป็นภาคต่อของ Yes or No ที่ผ่านมาทั้งสองภาค
Yes or No 2.5 เป็นเรื่องราวความรักที่ยังสับสนและวุ่นวายของทอมเพื่อนซี้อย่างไวท์และพี (ติ๊นา ศุภนาฎ และ นัน สุนันทา ) เมื่อไวท์นั้นยังหลงรักรุ่นน้องอย่างพิม (ปีเก้-พิมพกานต์)
ส่วนพีนั้นเมื่อเห็นเพื่อนซึมเศร้ากับความรักครั้งเก่า จึงจะหาทางช่วยเพื่อนด้วยการพยายามทำตัวเป็นพ่อสื่อให้ไวท์เปลี่ยนใจมาชอบฟ้า (หงหยก-จันษกร) เพื่อนรักของพิมแทน แต่เป็นพ่อสื่อท่าไหนไม่รู้ กลับกลายเป็นว่า ฟ้านั้นมาหลงรักพีเข้าเสียนี่คราวนี้จึงยิ่งสับสนอลหม่านเมื่อรักสี่เส้านี้ไม่มีทีท่าว่าจะลงเอยได้ง่ายๆ
Yes or No 2.5 กลับมา…เพื่อรักเธอ เป็นเรื่องราวของสองเพื่อซี้สาวหล่ออย่าง ไวน์ และ พี ที่อาศัยอยู่ในหอพักด้วยกัน วันหนึ่งเมื่อสองสาวอย่าง พิม และ ฟ้า ได้ย้ายเข้ามาอยู่ห้องข้างๆ โดยพิมและฟ้านั้นเป็นเพื่อนรุ่นน้องของไวน์ที่คณะ
และไวน์เองก็เคยมีอดีตแสนหวานกับพิมก่อนที่ทั้งคู่จะห่างหายกันไปนานหลายปี แต่เวลาไม่ได้ช่วยให้ไวน์สามารถลืมพิมได้ทั้งๆ ที่รู้ว่าพิมมีเจษแฟนหนุ่มเป็นแฟนอยู่ ส่วนพีนั้นก็สนับสนุนให้ไวน์ลองเปิดใจให้ฟ้าเพราะสงสารเพื่อน แต่เรื่องราวก็ไม่ง่ายเมื่อฟ้าเองกลับมีใจให้พีผู้เป็นพ่อสื่อแทน
โดยฟ้าได้มาเผยความในใจให้พีรู้แต่พีกลับปฏิเสธเพราะอยากให้ฟ้าคบกับไวน์ ในขณะเดียวกันลึกๆ แล้วพีก็แอบเสียใจที่เห็นฟ้าอยู่กับไวน์ เมื่อใกล้เรียนจบเจษได้ขอหมั้นกับพิม ท่ามกลางความยินดีของพ่อแม่ทั้งสองฝ่าย แต่ไวน์นั้นเสียใจมากเมื่อรู้ข่าว และพิมเองก็กลับรู้สึกเสียใจเพราะลึกๆ แล้วในใจก็ยังลืมไวน์ไม่ได้
ซึ่งด้วยแรงกดดันจากสังคมที่ว่าผู้หญิงต้องคู่กับผู้ชายเท่านั้น แม้ว่าจะปรับความเข้าใจกับไวน์ได้แต่พิมก็ยังคงเลือกเดินหน้าต่อตามเส้นทางที่สังคมขีดไว้ให้
Yes or No 2.5 กลับมา…เพื่อรักเธอ แม้ว่าจะไม่ได้เป็นภาคต่อ และเป็นการเขียนบทขึ้นมาใหม่ แต่การใช้ชื่อเดิมของหนังก็ได้รับการเฉลยจากผู้กำกับฯ ของเรื่อง ว่าชื่อ Yes or No นั้นเป็นเรื่องราวที่สามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย
และเปรียบเสมือนร่มใหญ่ที่สามารถมีเรื่องราวความรักมากกว่า 2.5 ได้ต่อไปในอนาคต นับเป็นหนังที่น่าสนใจอีกเรื่องหนึ่งทีเดียว มาร่วมลุ้นไปกับความรักของทั้งสี่ว่าจะลงเอยอย่างไร โดยเฉพาะบรรดาขาจิ้นทั้งหลายพลาดไม่ได้เป็นอย่างยิ่ง เตรียมตีตั๋วร่วมจิ้นกันได้ในวันที่ 28 พฤษภาคม 2558 นี้
หนังจับเอาความรักใสๆมานำเสนอผ่านการก้าวผ่านขีดจำกัดเรื่องเพศ จึงทำให้เกิดความน่าสนใจกับกลุ่มคนที่ชื่นชอบความรักเพศเดียวกัน
แต่ก็ไม่ใช่เพียงเท่านั้น เพราะความใสทั้งเนื้อเรื่องของ Yes or No 2.5 และนักแสดงนำก็เหมือนจะดึงดูดคนดูกลุ่มอื่นๆได้อีกด้วย ใครอยากสัมผัสรักใสๆน่ารักๆ ก็อย่าลืมไปดูหนังกัน 28 พฤษภาคมนี้ แบบเต็มเรื่องทุกโรงหนัง